ราคาตกก็โค่นทิ้งซะ!! เกษตรกรชาวสวนยางพารา โค่นยาง 4 ไร่ ทำสวนมะลิ สร้างรายได้งาม เก็บขายได้ทุกวัน โดยเฉพาะช่วงใกล้วันแม่แห่งชาติ (ชมคลิป)

เกษตรกรชาวสวนยางพารา โค่นต้นยางพาราในพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งเป็นต้นยางแก่ที่หมดอายุและเตรียมที่จะปลูกยางใหม่ทดแทน แต่เนื่องจากนายประสงค์และภรรยา มีอายุมากแล้ว หากปลูกยางใหม่ต้องใช้ระยะเวลา 6-7 ปี จึงจะเก็บผลิตหรือกรีดยางได้ คงทำไม่ไหวแล้ว จึงปรึกษาภรรยาและตัดสินใจใช้พื้นที่ที่โค่นยาง 4 ไร่ โดยพื้นที่ 3 ไร่ ปลูกมะลิ 3,000 กว่าต้น ใช้ระยะเวลาปลูก 45 – 60 วัน หลังจากปลูก ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ส่วนอีก 1 ไร่ปลูกพืชผักแบบผสมผสาน ขณะนี้มีตลาดรองรับ โดยทำสวนมะลิ ปีนี้เป็นปีที่ 3

 

สำหรับดอกมะลิเก็บทุกวันปรกติ วันละ 2 – 3 กก.ๆละ 300 บาท ส่วนในช่วงเทศกาลโดยเฉพาะวันแม่แห่งชาติที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รัชกาลที่ 9 ดอกมะลิซึ่งเป็นดอกไม้ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์วันแม่แห่งชาติ ซึ่งจะต้องใช้เป็นจำนวนมาก ทางลูกค้าได้สั่งเข้ามาเป็นจำนวนมากจนเก็บส่งให้ลูกค้าไม่ทัน ในส่วนของราคาทางสวนมะลิของคุณประสงค์คงยืนอยู่ที่ราคากก.ละ 300 บาท เนื่องได้มีข้อตกลงกันกับแม่ค้าที่มารับซื้อว่า ไม่ว่าดอกมะลิจะมีราคาขึ้นหรือลงอย่างไร ก็จะคงยืนราคาอยู่ที่ กก.ละ 300 บาท ตลอดไป

 

นายประสงค์ฯ บอกว่า สำหรับการทำสวนมะลิ เมื่อตอนปลูกใหม่ ปี 2558 ก็คิดว่าจะทำเป็นอาชีพเสริม เพราะอาชีพหลักทำสวนยางพารา เมื่อเวลาผ่านไป ยางพาราราคาตกต่ำ แต่สวนมะลิสามารถเก็บเกี่ยวดอกมะลิขายได้ทุกวันมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำให้สวนมะลิจึงเป็นอาชีพหลักของครอบครัวแทนการทำสวนยาง เพราะราคาจะยืนอยู่ที่ราคา กก.ละ 300 บาท ตลอดไปและเก็บดอกมะลิขายมีรายได้เข้ามาทุกวัน ตอนนี้สวนยางที่เหลืออยู่ 6 ไร่ ไม่ได้ตัดยาง เพราะราคายางตกต่ำ หันมาทำสวนมะลิอย่างจริงจังและปลูกพืชผักแบบผสมผสาน

 

ภาพ/ข่าว นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สงขลา