หนุ่ม ม.ขอนแก่น จูงมือน้องสาว เปิดร้าน “เรียนมะลุมซวาย” อาหารอีสาน รสแซ่บ และทำไร่-นาสวนผสม ยึดเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อหลวง ร.๙

วันนี้(11 ส.ค.60)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้าน“เรียนมะลุมซวาย” ซึ่งเป็นชื่อภาษาเขมร พื้นถิ่นจ.สุรินทร์ แปลเป็นภาษาไทยว่า ร้านใต้ร่มมะม่วง ตั้งอยู่บ้านเช่า เลขที่ 32/40 บ้านเชื้อเพลิง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีสองพี่น้อง คือ นายธีระยุทธ สมเจตนา อายุ 29 ปี และนางสาววรรนิดา สมเจตนา อายุ 26 ปี เป็นเจ้าของร้าน เปิดขายอาหารอีสานรสจัด เน้น ส้มตำ เมนูเด็ดประจำร้าน คือ ตำเชื้อเพลิง ตำหอยแครง น้ำตกหมูสามชั้น สร้างร้านอย่างเรียบง่าย เพิงหมาแหงน ประดับปาด้วยต้นไม้ และวัสดุ ไทบ้านอีสานอย่างเรียบง่าย อย่างมีสไตล์ บ้านๆสบายๆ นอกจากนี้ ยังทำไร่นาสวนผสม บนเนื้อที่ 7-8 ไร่ ปลูกพืช ผักสวนครัว ผลไม้ ยาพารา เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ แล้วนำผลผลิตที่ได้มาใช้ภายในร้านแห่งนี้ เป็นการประหยัดและลดต้นทุนชีวิต อยู่ได้อย่างพอเพียง และสุขใจ ตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 แสวงหาความจริงแห่งชีวิต จนเจอ มีรายได้ 20,000-25,000 บาทก็อยู่ได้ ไม่เป็นหนี้ใคร

 

 

 

 

นายธีระยุทธ สมเจตนา อายุ 29 ปี  เจ้าของร้าน“เรียนมะลุมซวาย” กล่าวว่า เคยทำงานบริษัทเอกชนมาก่อน และได้ไปทำงานที่ประเทศจีน เป็นครูผู้ช่วย สอนวิชาอาหารไทยและวัฒนธรรม กลับมาเมืองไทยก็เป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาจีน ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ใน จ.สุรินทร์ หัดมาเปิดร้านอาหาร โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริของ ในหลวง รัชกาลที่ 9 เพราะว่าเป็นภูมิคุ้มกันชีวิตของเรา ให้เราใช้ชีวิตแบบพอประมาณ แบบพอดี

การทำร้านก็ใช้วัสดุ อุปกรณ์ ต่างๆที่มีอยู่แล้วภายในบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ไม้ก็จะหาเอาตามไร่ ตามนา ที่มีอยู่แล้ว นำมาใช้ผสมกับไม้เก่าที่บ้าน ส่วนการดีไซน์ร้าน เป็นลักษณะแบบสบายๆ เน้น ให้ลูกค้าได้นั่ง แบบสบายๆเป็นหลัก เมนูเด็ดประจำร้าน จะเน้น เมนูตำ เป็นหลัก ลูกค้าที่มาสั่งบ่อยที่สุดจะเป็น เมนูตำหอยแครง /ราคา 80 บาท เมนูน้ำตกหมูสามชั้น /ราคา 60 บาท ยอดขายเฉลี่ยต่อวัน 2,000 -2,500 บาท หักต้นทุนก็จะเหลือกำไรวันละ 1,500 บาท เดือนหนึ่งจะมีรายได้ประมาณ 20,000-30,000 บาท

 

ทั้งร้านมีกัน 2 คน คือตนและน้องสาว ตนเรียนจบ ป.ตรี วิชาเอก ภาษาจีน  จาก ม.ขอนแก่น ส่วนน้องสาว จบ ป.ตรี คุรุศาสตร์ มรภ.สุรินทร์ เปิดร้านแรกๆพ่อแม่ก็ว่า แต่พอพิสูจน์ตัวเองในระดับหนึ่ง มีคนเข้ามาชื่นชม สนับสนุน พ่อแม่ค่อยวางใจและภูมิใจ การทำงานเลือกทำในสิ่งที่เราชอบ เลือกทำในสิ่งที่เรารัก แล้วคุณจะรู้สึกว่า เราไม่จำเป็นต้องวิ่งไปหางาน งานจะมาหาเราเอง อยู่กับงาน กับสิ่งที่เราทำทุกวันนี้ให้เต็มที่ ที่สุดแล้วทุกสิ่งจะมาเอง

 

พืชผัก สวนครัวที่ใช้ภายในร้าน เราเอามาจากไร่สมเจตนา ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี้ไปอีก 7 ก.ม. อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เราทำเกษตรผสมผสาน ตอนนี้ปลูกดอกดาวเรือง ยางพารา ปลูกทั้งไม้ยืนต้น พืชล้มลุก พืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ และเลี้ยงปลาด้วย บนเนื้อที่ 7-8 ไร่ มีพ่อแม่ ตนและน้องสาว การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วงที่ชีวิตยังล้มลุกคลุกคลาน เริ่มต้นสร้างฐานการใช้ชีวิตแบบพอเพียง ช่วงแรกอาจจะยังไม่แน่นอน อาจจะยังมีปัญหา ขรุขระบาง แต่ตนเชื่อว่าในระยะยาว การใช้ชีวิตอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียง จะไม่ทำให้คุณเป็นคนร่ำรวย แต่มันจะทำให้คุณมีความสุขในด้านจิตใจ มากที่สุด มากกว่าการแสวงหา ลาภ ยศถาบันดาศักดิ์ ทั้งปวง นี้คือความจริงของชีวิต ที่ ในหลวง ร.9 สอน

 

ภาพ/ข่าว ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์