ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เมื่อเวลา 15.50 น.วันที่ 13 ส.ค. 60   ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี   รายงานความคืบหน้าสุดยอด  “แม่”   ที่เฝ้ารัก – ดูแลลูก  แม้แม่คือนางคำผง ทองเล็ก อายุ 76 ปี เลขที่ 37 หมู่  7 ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี   จะมีอายุมากถึง76ปีแล้ว   สภาพตาข้างตาซ้ายขณะนี้บอดมองไม่เห็น  บวกกับตาข้างขวา  กำลังอยู่ในภาวะฝ้าฟางตามวัย แต่หัวใจของความเป็นแม่ยังคงเฝ้า  ทำหน้าที่รัก-ห่วงใย  ดูแลลูกสาวนางวัญเพ็ญ ทองเล็ก วัย  50 ปี   ที่ล้มป่วยเส้นเลือดแตกในสมองกลายเป็นคนไข้ติดเตียงอยู่อย่างไม่มีวันเหนื่อย และก่อนหน้านี้  มีหลานสาวชื่อน้องกุ้งนาง  น่าชม อายุ 18 ปีเด็กหญิงยอดกตัญญู  ที่ในปี 2557   เคยเป็นข่าวโด่งดังทั่วประเทศ   เฝ้าดูแลแม่ ให้น้ำ,ยา,อาหารทางสายยาง ทำความสะอาดร่างกายให้ก่อนไปโรงเรียน และหลังเลิกเรียนแล้ว พร้อมยังช่วยพ่อที่พิการขาด้วนจากอุบัติเหตุในการเก็บหาของเก่าขายมาประทังเลี้ยงชีพ  จนเป็นภาพสะเทือนใจคนทั่วประเทศบริจาคช่วยเหลือ เงินร่วมกว่า 2 ล้านบาท  แต่ภายหลังได้แยกบัญชีเงินฝากธนาคารไว้ 2 ชุด  ๆ แรก  มีนายชณภัทร   ยอดดี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลโพธิ์งาม (สท.) อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี  ดูแล  และอีกฉบับหนึ่ง  เงินฝากรวมประมาณ 1 ล้านบาทมีนาย ส.นักข่าวส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งดูแลไม่ยอมให้บัญชีคืนโดยอ้างว่าเก็บเอาไว้รอให้น้องกุ้งนางอายุครบ 18 ปีก่อน  

ปัจจุบันเงินในบัญชีที่ทาง นายชณภัทร เก็บรักษาไว้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายอาหารเสริม,นม,ยารักษาโรค กับ นางวัญเพ็ญใกล้หมดแล้ว   ทางยายคำผง และ น้องกุ้งนาง  ได้ทวงถามเงินในบัญชีจากนาย ส.นักข่าวดังกล่าว   เพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลนางวัญเพ็ญ – ทุนการศึกษาให้กับน้องกุ้งนางตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค  แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง  และ  นอกจากนี้   ยังมีนักข่าวอีกคนหนึ่งชื่อ  น.สำนักข่าวเดียวกันได้เสนอให้พ่อของน้องกุ้งนางไปทำ ขาเทียม   โดยได้เบิกเงินสดไปก่อนกว่า 1 แสนบาท   ในปี 2557   แต่ภายหลังบอกว่าร้านขาเทียมปิดร้านหนีไปแล้ว    คืนเงินให้มาสามหมื่นบาท ไม่มีเงินจึงได้โทรหานักข่าวคนนั้นคืนเงินอีกราวสามถึงสี่พันบาท  เท่านั้น   ตามรายละเอียดที่เสนอไปก่อนหน้านี้ นั้น  พบ สื่อมวลชนแขนงต่างๆ  ที่ทราบข่าวดังกล่าว  ได้ติดต่อทำข่าว  ด้วยความสนใจ    น้องกุ้งนางกล่าวว่า  “นักข่าวชื่อ ส.ที่เก็บบัญชีเงินฝากไว้รวมประมาณ 1 ล้านบาทนั้น   ไม่ได้ให้เหตุผล  อะไรในการเก็บรักษาบัญชี    ตนเองต้องการนำมาใช้เพื่อรักษาแม่ที่นอนป่วยจากเส้นเลือดแตก เป็นคนไข้ติดเตียง  เคลื่อนไหวไม่ได้  พูดไม่ได้ใช้เพียงสัญญาณภาษามือเท่านั้น    ส่วนพ่อขาพิการรายได้เพียงจากเก็บหาของเก่าขาย   และยังมีน้องกำลังเล่าเรียนอีก 2 คน    ยังคงต้องใช้จ่ายเป็นค่าอาหารเสริม ,นม เนื่องจากแม่ต้องกินอาหารทางสาย  และ   ช่วงนี้ใกล้จบการศึกษาแล้ว   ที่จะนำมาใช้เป็นทุนในการศึกษา  

  แม่วัย 76 และหลานสาววอนขอบัญชีเงินบริจาคนับล้านบาทคืน หลังนักข่าวสำนักดังอาสาดูแลให้ กลับบ่ายเบี่ยง แถมส่อแววโกงชัด (มีคลิป)

ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) จะไปลงบันทึกแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป   ส่วนเรื่องเงินค่าขาเทียมที่สูญเสียไปนับกว่าแสนบาท  ได้คืนมาเพียงสี่พันกว่าบาท นับตั้งแต่ปี 2557 นั้นจะติดตามทวงคืนต่อไปแม้จะยากมากก็ตามที”น้องกุ้งนางกล่าว  ด้านนางคำผง ทองเล็ก อายุ 76 ปี  กล่าวว่า   “ในความเป็นแม่   หน้าที่   คือการให้ความรัก – ห่วงใย ที่ต้องดูแลลูกปกป้องลูกตลอดชีวิต  ที่ผ่านมา  มีอาชีพรับจ้างสานรำแพนไม้ไผ่รับจ้าง  แต่ช่วงนี้  ต้องดูแลลูกสาวคือนางวันเพ็ญอย่างใกล้ชิด  ประกอบกับตาซ้ายบอดจากต้อกระจก ตาขวาฝ้าฟาง  รายได้เพียงเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท   ซึ่งไม่เพียงพอ   อยากให้นักข่าวดังกล่าวคืนบัญชีกับน้องกุ้งนางด้วย   เพราะหากตนเองหรือ  นางวัญเพ็ญเกิดล้มป่วย หรือ เสียชีวิตขึ้นมาจะลำบาก  จะไปขอหยิบขอยืมใคร   ซึ่งได้ตกลงว่าหากไม่มีการคืนบัญชีให้กับน้องกุ้งนาง หรือ  ให้เงินขาเทียมคืน  จะแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป”นางคำผง    กล่าว

แม่วัย 76 และหลานสาววอนขอบัญชีเงินบริจาคนับล้านบาทคืน หลังนักข่าวสำนักดังอาสาดูแลให้ กลับบ่ายเบี่ยง แถมส่อแววโกงชัด (มีคลิป)

แม่วัย 76 และหลานสาววอนขอบัญชีเงินบริจาคนับล้านบาทคืน หลังนักข่าวสำนักดังอาสาดูแลให้ กลับบ่ายเบี่ยง แถมส่อแววโกงชัด (มีคลิป)

แม่วัย 76 และหลานสาววอนขอบัญชีเงินบริจาคนับล้านบาทคืน หลังนักข่าวสำนักดังอาสาดูแลให้ กลับบ่ายเบี่ยง แถมส่อแววโกงชัด (มีคลิป)

ภาพ/ข่าว  มานิตย์    สนับบุญ  /  ทองสุข    สิงห์พิมพ์    ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.ปราจีนบุรี