สังคมขับไล่หรือปกป้อง!! เจ้าอาวาสวัดดังเมืองคอนแฉเหตุชาวบ้านรวมตัวขับไล่ สั่งห้ามพระลูกวัดเลี้ยงไก่ชน,ปลากัดขายทางออนไลน์ (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2560 ที่วัดธงทอง หมู่ 6 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้มีชาวบ้านกว่า 500 คนชาวบ้านที่รวมตัวขับไล่เจ้าอาวาส รวมตัวที่บริเวณลานวัด เพื่อขับไล่พระครูปลัดจัด ปัญญาวุฑโฒ หรือ “พ่อท่านจัด” เจ้าอาวาสวัดธงทอง โดยอ้างเหตุผลว่า เจ้าอาวาส บริหารงานวัดไม่โปร่งใส ทั้ง เงินทอดกฐิน ทอดผ้าป่า นอกจากนี้ยังไม่รับกิจนิมนต์ ไม่ปฏิบัติกิจของสงฆ์ ทำให้วัดธงทอง มีสภาพรกร้าง แต่เจ้าอาวาส กลับไปพัฒนาวัดแห่งหนึ่งในอำเภอปากพนัง จนมีความเจริญ โดยชาวบ้านที่รวมตัวขับไล่เจ้าอาวาส เรียกร้องให้เจ้าอาวาสวัด ออกจากตำแหน่ง และมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ขึ้นมาทดแทน  ในขณะที่มีชาวบ้านฝ่ายที่สนับสนุนพระครูปลัดจัด ปัญญาวุฑโฒ เจ้าอาวาส ไดเดินทางมารวมตัวปกป้องเจ้าอาอาวาสเช่นกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด จนต้องประสานขอทหาร มทบ.41 และตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของอำเภอร่อนพิบูลย์ รวมกว่า 20 นาย มาดูแลความสงบ เพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบของชาวบ้านทั้ง 2 กลุ่ม

ในขณะที่พระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (มหานิกาย) ได้มอบหมายให้เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าคณะตำบลร่อนพิบูลย์  ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนานครศรีธรรมราช รวมกับปลัดอำเภอร่อนพิบูลย์  ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมหารือในการแก้ปัญหา โดยเปิดโอกาสให้ชาวบ้านผู้รวมตัวประท้วงได้ชี้แจงแสดงความคิดเห็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจนเป็นสาเหตุให้ชาวบ้านรวมตัวประท้วงขับไล่เจ้าอาวาส โดยตัวแทนชาวบ้านได้สรุปสาเหตุเพราะ เจ้าอาวาส ไม่จำพรรษาที่วัดธงทองและไม่พัฒนาวัดธงทอง แต่กลับไปจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอปากพนัง และไปทุ่มเทพัฒนาวัดแห่งนั้นใน อ.ปากพนัง  จนมีความเจริญมากกว่าวัดธงทองที่ตนเองเป็นเจ้าอาวาส  นอกจากนี้ยังอ้างอีกว่าเจ้าอาวาสไม่รับกิจนิมนต์ ไม่ปฏิบัติกิจสงฆ์ ไม่ยืนบาตร รวมทั้งบริหารวัดไม่โปร่งใส

ในส่วนของ พระครูปลัดจัด ปัญญาวุฑโฒ ชี้แจงข้อกล่าวหา ว่าชาวบ้านผู้ประท้วงก่อนหน้านี้อาตมามีปัญหากับพระรูปหนึ่งในวัดธงทอง เนื่องจากพระรูปดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น เลี้ยงไก่ชน เลี้ยงปลากัดโพสต์ ขายผ่านเฟสบุ๊ก อาตมาจึงยื่นคำขาดให้หยุดการกระทำดังกล่าว ถ้าไม่หยุดก็นิมนต์ให้ไปจำวัดที่อื่น สุดท้ายพระภิกษุรูปดังกล่าวก็ไม่ยอมหยุดพฤติกรรมดังกล่าว อาตมาจึงนิมนต์ให้พระรูปนี้ออกจากวัดธงทอง และไปจำพรรษาที่วัดอีกวัดหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน  จึงสร้างความไม่พอใจให้กับพระภิกษุรวมทั้งญาติพี่น้องของพระภิกษุรูปรูปดังกล่าวซึ่งมีญาติพี่น้องในหมู่บ้านจำนวนมากเป็นอย่างมาก  ตั้งแต่นั้นมาอาตมากับญาติ ๆ ของพระรูปดังกล่าวก็เกิดมีปัญหาและทะเลาะกันบ่อยครั้ง ประกอบกับมีกลุ่มผู้นำท้องถิ่นบางคน ที่คอยยุยงให้ชาวบ้านในหมู่บ้านเกลียดอาตมาอและต้องการให้อาตมาออกไปจากวัดโดยมีเป้าหมายให้พระภิกษุที่เลี้ยงไก่ชน ปลากัด ประกาศขายทางเพซบุ๊คมาเป็นเจ้าอาวาสแทน แต่มีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งที่เห็นว่าอาตมาทำถูกต้องจึงรวมตัวกันปกป้องอามา ทำให้ในปัจจุบันชาวบ้านในหมู่บ้านแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย

 นอกจากนี้คือเวลามีงานบำเพ็ญกุศลศพในวัดธงทอง ทั้งญาติ ๆ ของผู้ตายและแขกที่มาร่วมงานศพ จะมีการดื่มเหล้าและเล่นการพนันภายในวัด แต่อาตมาไม่เห็นด้วย จึงว่ากล่าวตักเตือนและสั่งห้ามมีการดื่มเหล้าหรือมึนเมาและเล่นการพนันภายในวัด ทำให้ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวเกิดความไม่พอใจอาตมามากยิ่งขึ้น  ที่สำคัญยังลูกหลานของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้ามาบวชเป็นพระภิกษุจำพรรษาในวัด แต่กลับนำวัยรุ่นเข้ามั่วสุมยาเสพติด ต้มน้ำพืชกระท่อมในกุฏิ  อาตมารับไม่ได้จึงได้ขับไล่ออกจากวัด  พร้อมประกาศเป็นนโยบายว่าทางวัดจะไม่รับผู้ติดยาเสพติดมาบวชเป็นพระภิกษุ  จึงสร้างความไม่พอใจกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นโดยพยายามการปลุกระดมชาวบ้านมาประท้องขับไล่อาตมาดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การหารือเป็นไปอย่างตึงเครียดนานกว่า 4 ชั่วโมง ไม่สารรถตกลงหาทางออกได้ จึงมีการรายงานผลการหารือให้เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ทราบทางโทรศัพท์  เพื่อให้เดินทางมาแก้ไขปัญหาก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลายจากการที่ทั้งฝ้ายที่สนับสนุนและขับไล่มีปากเสียงทะเลาวะวาทกันอย่างรุนแรง แต่เนื่องจากเจ้าคณะจังหวัดติดภารกิจต่างจังหวัด และเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนจึงสั่งการด้วยวาจาให้พระครูปลัดจัด ปัญญาวุฑโฒ หรือ “ท่านจัด” หยุดการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดธงทอง เป็นการชั่วคราว 30 วัน พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย คณะสงฆ์ผู้มีอำนาจ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้แทนอำเภอร่อนพิบูลย์ ผู้แทนชาวบ้านที่ขับไล่เจ้าอาวาส และตัวแทนชาวบ้านฝ่ายที่สนับสนุนเจ้าอาวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมสอบสวนข้อเท็จจริง ภายในระยะเวลา 30 วัน ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายพอใจและแยกย้ายกันกลับไปในที่สุด.

ภาพ/ข่าว  ยุทธนะ  เตมะศิริ   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช