เปิดตำนาน “ลุงป่วน เจียวทอง”ปราชญ์ภูมิปัญญาชาวบ้านรุ่นที่ 6 ผู้อนุรักษ์ศิลปะการทำเครื่องเงินแบบโบราณ สืบทอดต่อกันมาถึง 6 รุ่น (คลิป)

จังหวัดสุรินทร์  นอกจากจะเป็นที่รู้จักของชาวไทยและชาวต่างชาติว่าเป็นเมืองช้างแล้ว จังหวัดสุรินทร์ก็ยังมีของดีอีกมากมายซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอีก  อธิเช่น  ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา  ผ้าไหมลายพื้นเมืองที่เลื่องชื่อ  แหล่งอารยะธรรมของ 3 ชนเผ่า และการทำหัตถกรรมเครื่องเงินแบบโบราณที่บ้านโชค อ.เขวาสินรินทร์  ที่มีการทำสืบทอดต่อกันมายาวนานจนถึงรุ่นที่ 6 และจะยังคงสืบทอดกันต่อไป  เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมโบราณที่นับวันจะหาคนทำยากยิ่ง  เนื่องจากขั้นตอนการทำต้องใช้ความมานะอดทนสูง เพราะงานทุกชิ้นต้องใช้ฝีมือล้วนๆ  โดยไม่มีเครื่องจักรทันสมัยช่วย   

 

โดยที่บ้านโชคหมู่ที่ 3 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ซึ่งในปัจจุบันได้รับการขนานนามว่า  เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมเครื่องเงินโบราณ  ซึ่งเดิมทีชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตร  เมื่อว่างเว้นจากการทำนา  ชาวบ้านก็จะมารวมตัวกันเป็นกลุ่ม เพื่อทำอุตสาหกรรมในครัวเรือน  โดยการทำเครื่องประดับเงิน  ซึ่งใช้กรรมวิธีการทำแบบโบราณ  ที่มีการสืบทอดมายาวนาน  โดยการผลิตลูกประคำเงิน หรือคนพื้นเมืองที่นี่จะเรียกว่า “ลูกประเกือมเงิน” และ “ตะเกาเงิน” ซึ่งเป็นรูปดอกไม้  โดยเมื่อนำมาเป็นเครื่องประดับของสุภาพสตรี ก็จะมีความสวยงามมาก  ซึ่งลวดลายต่างๆ  ล้วนแล้วแต่เป็นเอกลักษณ์ของคนพื้นเมืองที่นี่  “ลูกประเกือมเงิน” และ “ตะเกาเงิน” จึงเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงมายาวนาน  ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ  ต่างต้องการหาไปประดับกัน

ลุงป่วน เจียวทอง อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 3 บ้านโชค ต.เขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ปราชญ์ชาวบ้านสาขาศิลปหัตถกรรมและสิ่งทอเครื่องประดับเงินโบราณ  ซึ่งได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็นครูภูมิปัญญาไทยรุ่นที่ 6 จากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2552 และยังเคยได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติอีกมากมายจากหลายหน่วยงาน  ซึ่งมีผลงานอันเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ  ก็ได้เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้สืบทอดการทำเครื่องเงินโบราณมาเป็นรุ่นที่ 6 แล้ว โดยก่อนที่จะมาทำเครื่องเงินโบราณ  แต่ก่อนเคยเป็นช่างทำทองมาก่อน โดยเริ่มทำมาตั้งแต่ตอนอายุ 13 ปี  แต่ต่อมาทองคำเริ่มมีราคาสูงขึ้นจึงได้เลิกทำ และได้หันมาทำเครื่องเงินแทน  เพราะราคาเงินถูกกว่าและหาง่าย  โดยหาขอซื้อจากชาวบ้านในระยะแรกๆ  แต่ต่อมาก็เริ่มจะหมดไป  จึงได้สั่งซื้อเงินจากกรุงเทพฯมาแทน จากนั้นก็จะนำมาหลอมตามขนาด  แล้วก็นำมาดึงให้เป็นเส้น บ้างก็เอามารีดให้เป็นแผ่นบางๆ  จากนั้นก็จะนำมาขึ้นรูป  โดยขั้นตอนในช่วงนี้แต่ละชิ้นงาน จะทำด้วยมือล้วนๆโดยไม่ใช้เครื่องจักรช่วย   ส่วนลวดลายแบบต่างๆก็จะเป็นไปตามแบบโบราณที่ได้สืบทอดกันมา  ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร  โดยจะมีลูกค้าติดต่อสั่งซื้อเข้ามาทางไลน์  ซึ่งก็จะมีลูกสาวเป็นคนช่วยรับงานให้ และบางส่วนก็จะทำไปขายตามงานOTOP ต่างๆ ซึ่งรายได้แต่ละเดือนก็ประมาณ 8 หมื่นถึง 1 แสนบาท แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วก็เหลือไม่เท่าไหร่  เพราะเราไม่ได้ทำเอากำไรมาก

ปราชญ์ชาวบ้านยังได้กล่าวอีกว่า  ทุกวันนี้ก็มีคนมาขอให้สอนวิธีทำกันเป็นจำนวนมาก  แต่ตนก็เลือกที่จะสอนให้  เพราะต้องการที่จะให้ศิลปะการทำเครื่องเงินโบราณนี้  ได้ตกทอดสู่อนุชนรุ่นหลังที่เป็นชาวสุรินทร์โดยแท้  เพราะต้นกำเนิดอยู่ที่นี่  แต่ทุกวันนี้ก็ยังหาคนที่มีฝีมือจริงๆยาก  เพราะงานนี้มันเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนสูง  และต้องใช้ฝีมือล้วนๆ  ซึ่งคนรุ่นใหม่มักจะไม่ค่อยมีความสนใจ  และมองว่าเป็นงานที่ยาก  แต่จริงๆแล้วหากมีความตั้งใจจริงก็ทำได้ไม่ยาก ซึ่งถ้าหากใครมีความสนใจที่จะมาเรียนรู้ดูงาน  หรือว่าจะสั่งทำสินค้า ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์ 081-3094352 และ 089-0436794 (คุณเพชรรัตน์) ได้ทุกวัน

ภาพ / ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์