รมช.พาณิชย์!! ดึงผ้าไหมภาคอีสาน สู่ปักธงชัยเป็นจุดศูนย์กลาง ส่งออกต่างประเทศ พร้อมชูนโยบายท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (มีคลิป)

นาย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะ ติดตามผลการดำเนินงานการ ณ หมู่บ้านท่องเที่ยววัฒนธรรมไหมบ้านดู่ ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย จ. นครราชสีมา โดยมี พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา และ นายอำเภอปักธง นำข้าราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ โดยมีกรรมการกองทุนหมู่บ้าน อ.ปักธงชัย นำเสนอผลการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านฯและ โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ

สำหรับอำเภอปักธงชัย เป็นอำเภอที่มีพื้นที่มีการปกครอง 16 ตำบล 215 หมู่บ้าน มีประชากร 110,000 คน ชาวอำเภอปักธงชัยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร โดยมีการผลิตผ้าไหมและสินค้า OTOP ที่มีชื่อเสียงเป็นอาชีพเสริม ในแต่ละปีอำเภอปักธงชัยมีมูลค่าการจำหน่ายผ้าไหมประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี ในปัจจุบันการค้าผ้าไหมของอำเภอปักธงชัย ลดน้อยลงเป็นลำดับ สาเหตุหลักมาจากคนรุ่นใหม่ไม่สนใจที่จะทำผ้าไหมเป็นอาชีพ เนื่องจากการค้าผ้าไหมของอำเภอปักธงชัย ส่วนใหญ่เป็นการขายส่งทำให้ไม่ได้ราคาที่เหมาะสม ดังนั้นจึงมีความต้องการให้ภาครัฐเข้ามาส่งเสริมการตลาดที่สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม

นาย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากปัญหาราคาผ้าไหมที่ตกต่ำและชาวบ้านเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์นโยบายช่วยเหลือประชาชน ในอันดับแรกต้องทำให้เส้นทางในอำเภอปักธงชัยเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ปักธงชัยซึ่งเป็นหมู่บ้านผ้าไหม ซึ่งมีตำนานมานานกว่า 100 ปีแห่งนี้ โดยทางกระทรวงพาณิชย์จะมาดำเนินการสร้างตลาดผ้าไหมที่ปักธงชัย และจะนำตลาดผ้าไหมปักธงชัยผลักดันสู่เส้นทางการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็จะมีการพัฒนารูปแบบหรือดีไซน์ผ้าไหม นำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะการทำผลิตภัณฑ์ นอกจากการนำมาตัดเย็บ ที่สำคัญต้องนำตลาดผ้าไหมไปเชื่อมโยงกับตลาดผ้าไหมที่อื่นๆ ในภาคอีสานด้วย อาทิ ที่จ.ขอนแก่น กาฬและอุดรธานี เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงของหมู่บ้านผ้าไหมและตลาดผ้าไหมทั้งภาคอีสาน ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกตลาดผ้าไหม ดังนั้นตลาดผ้าไหมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยในการควบคุมราคาได้ ทำให้ชาวบ้านที่ทอผ้าไหมจะไม่เป็นเพียงแค่ผู้รับจ้างแรงงานเท่านั้น และที่สำคัญภูมิปัญญาท้องถิ่นเองก็จะได้รับการสืบสานต่อไป

 

ภาพ/ข่าว  ไพฑูรย์  คาบพิมาย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครราชสีมา