- 01 ก.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ตราด/นายโกสิทธิ์ นิลรัตย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง พร้อมนายชุมพร ขาวผ่อง ผช.หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง นำเจ้าหน้าที่ป่าไม้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เข้าทำการตรวจยึดสะพานเกาะเหลายาม.3 ต.เกาะช้างใต้ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดและส่งพ.ต.ท.บรรเจิด กระจ่างแสง สารวัตรเวร สภ.เกาะช้าง เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา แต่พบว่า สะพานดังกล่าวไม่ยอมหยุดทำการก่อสร้าง แม้จะส่งเรื่องฟ้อง สภ.เกาะช้าง และใช้มาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ สั่งรื้อถอนสะพานดังกล่าว แต่ผู้กระทำผิดไม่เชื่อฟัง ยังคงฝ่าฝืนดำเนินการก่อสร้างสะพานต่อ จึงเข้าทำการตรวจยึดรอบ 2 ซึ่งสะพานดังกล่าวเคยถูกนายพันธุ์พงษ์ คงเดชอดิศักดิ์ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ตรวจยึดจับกุมและใช้มาตรา22 สั่งรื้อถอน เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555พร้อมส่งฟ้อง สภ.เกาะช้าง คดีอาญาที่ 136/2555 แต่คดีดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า เพราะไม่พบตัวผู้กระทำผิด ขณะอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง อยู่ระหว่างตั้งงบประมาณทำการรื้อถอน
สำหรับการตรวจยึด จับกุมในวันนี้ เป็นการตรวจยึดเป็นรอบที่ 3 หลังจากวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบมีการต่อเติม ก่อสร้างสะพานแห่งนี้ใหม่ จึงเข้าทำการตรวจยึดและส่งฟ้องร้องกล่าวโทษที่สภ.เกาะช้าง แต่ผู้กระทำผิดไม่ยอมหยุด ยังคงทำการก่อสร้างสะพานต่ออีกโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หลังตรวสอบพบมีการต่อเติมสะพานเพิ่ม รวมพื้นที่บุกรุกทั้งสิ้น 128 ตรม. คิดเป็นความเสียหายต่อรัฐ 12,000 บาท จึงถามหาผู้รับผิดชอบของเกาะเหลายาที่เกิดเหตุ โดยผู้ควบคุมการก่อสร้างสะพาน เปิดเผยว่าได้รับการมอบหมายจากนายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายก อบจ.ตราด เจ้าของเหลายารีสอร์ต สั่งให้ทำการต่อเติมซ่อมแซมสะพานดังกล่าวเพื่อปรับปรุงและรองรับการท่องเที่ยว แต่ตนเองไม่ได้ดื้อรั้น ฝ่าฝืน หลังจากเจ้าหน้าที่มาตรวจยึดรอบ2 วันที่ 29 สิงหาคม ตนได้สั่งให้คนงานหยุดทำการก่อสร้าง และไปควบคุมการก่อสร้างบริเวณจุดอื่น แต่คนงานไม่หยุดและทำการก่อสร้างต่อ จนเจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดรอบที่ 3 ในวันนี้
นายโกสิทธิ์ นิลรัตย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง บอกว่าตนเองปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หลังมารับตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติคนใหม่ แทนนายวีระ ขุนไชยรักษ์ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ที่ได้รับคำสั่งไปปฎิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่าย สำนักอนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชาจ.ชลบุรี ซึ่งคดีนี้จะได้เข้าพบกับนายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายก อบจ.ตราด เป็นการส่วนตัว เพื่อชี้แจงให้ทราบและขอความร่วมมือในการปฎิบัติตามกฎหมาย และพื้นที่ดังกล่าวจะต้องใช้มาตรา 22 สั่งรื้อถอน โดยจะตั้งงบประมาณในการรื้อถอนให้กลับสภาพเดิมทางธรรมชาติต่อไป ส่วนในเรื่องของความผิดตามคดีอาญาเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.บรรเจิด กระจ่างแสง เจ้าของคดี จะต้องสืบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว พูลศักดิ์ บุญลอย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตราด




