ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ระดับน้ำที่เริ่มลดในช่วงเย็นที่ผ่านมาแต่พอถึงช่วงหัวค่ำกลับมีระดับน้ำหลากเข้าท่วมเพิ่มสูงขึ้นอีกต่อเนื่อง ทางผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ สั่งเร่งระดมทุกภาคส่วนเข้าช่วยเหลือบริการผู้ป่วยสร้างสะพานเชื่อมทางเข้าถึงรพ.ชัยภูมิได้ง่ายสะดวกให้มากขึ้นแล้ว เชื่อรับมือไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ป่วยได้

ด้านชาวบ้านอีกในหลายชุมชนขณะนี้หลายหน่วยงานทั้งตำรวจ ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งจัดชุดลงพื้นที่ช่วยเยี่ยวยาจิตใจ ตั้งโต๊ะประกอบอาหารสดริมทางหน้าทางเข้าชุมชนที่ยังพอมีพื้นที่เหลือไม่ถูกน้ำท่วมช่วยลดความเครียดประชาชนในหลายพื้นที่เพิ่มมากขึ้นหลังถูกน้ำท่วมบ้านมานานกว่า 3 วันแล้ว ด้านตร.-ทหารชัยภูมิไอเดียเก๋เอาใจชาวบ้านที่เดือดร้อนช่วยผ่อนคลายจัดตั้งโต๊ะก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดและ อบจ.ชัยภูมิ ออกแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกตัดขาดการช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึงตลอดช่วงหัวค่ำยันกลางดึกต่อเนื่อง

เดือดร้อนหนัก!! ยังคงหวาดหวั่นกับสภาพแปรปรวน หวั่นเกิดน้ำท่วมหนัก ทางผู้ว่าเร่งระดมทุกภาคส่วนช่วยสร้างสะพานเชื่อมทางเข้า รพ.ให้สะดวกมากขึ้น

เดือดร้อนหนัก!! ยังคงหวาดหวั่นกับสภาพแปรปรวน หวั่นเกิดน้ำท่วมหนัก ทางผู้ว่าเร่งระดมทุกภาคส่วนช่วยสร้างสะพานเชื่อมทางเข้า รพ.ให้สะดวกมากขึ้น

ขณะที่จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าเมื่อช่วง22.30 น.ของวันที่18 ก.ย.60 เมื่อคืนที่ผ่านมา สถานการณ์น้ำตั้งแต่ช่วงบ่ายเริ่มทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โซนเศรษฐกิจตัวเมืองชัยภูมิ เริ่มทรงตัวและมีระดับลดลงบ้างเล็กน้อยกว่า 10 ซม. จากที่รายงานความเสียหายน้ำท่วมชัยภูมิจากฤทธิ์พายุทกซูรีทำให้น้ำล้นสันเขื่อนลำปะทาวเกินจุมากว่า106% มาตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.60 ที่ผ่านมาจนเกิดน้ำล้นทะลักสันเขื่อนสูงกว่า60 ซม. และเริ่มลดระดับลงต่อเนื่องมาล่าสุดอยู่ที่ 20ซม.ทำให้เขื่อนลำปะทาวเองต้องเร่งระบายน้ำลงมาผ่านหลายพื้นที่รอยต่อหลายตำบลและเชื่อมเข้าท่วมตัวเมืองชัยภูมิวันละมากกว่า724,634ลบม.ต่อวัน(โดยเฉลี่ยปริมาณน้ำ1 ล้าน ลบ.ม.จะสามรถกระจายท่วมพื้นที่ได้มากกว่า 8 พันไร่)

ซึ่งล่าสุดมีระดับหลากเข้าพื้นที่เข้าสู่เป็นวันที่สาม แล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.ย.60 ที่ผ่านมา เริ่มทรงตัวและทางจังหวัดคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มในช่วง2-3วันจากนี้การเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำของชลประทาน เทศบาลเมืองชัยภูมิ และหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปพื้นที่ความเสียหายได้ แต่ในเบื้องต้นมีความเสียหายพื้นที่ในโซนเศรษฐกิจตัวเมืองชัยภูมิขณะนี้มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำเข้าท่วมเสียหายแล้ว มากกว่า9ชุมชนที่ชุมชนเมือง,โนนสาทร,โนนสมอ,หนองบ่อ,กุดแคน,กินตั้ง,เมืองเก่าและหนองบัวบ้านเรือนประชาชนเดือดร้อนกว่า1,500ครอบครัวเนื้อที่การเกษตรอีกไม่น้อยนับหมื่นไร่

เดือดร้อนหนัก!! ยังคงหวาดหวั่นกับสภาพแปรปรวน หวั่นเกิดน้ำท่วมหนัก ทางผู้ว่าเร่งระดมทุกภาคส่วนช่วยสร้างสะพานเชื่อมทางเข้า รพ.ให้สะดวกมากขึ้น

เดือดร้อนหนัก!! ยังคงหวาดหวั่นกับสภาพแปรปรวน หวั่นเกิดน้ำท่วมหนัก ทางผู้ว่าเร่งระดมทุกภาคส่วนช่วยสร้างสะพานเชื่อมทางเข้า รพ.ให้สะดวกมากขึ้น

 

สถานการณ์ล่าสุดมาตั้งแต่ช่วงเวลา 22.300 น.ที่ผ่านมาระดับน้ำที่เริ่มทรงตัวและมีบางส่วนลดระดับลงบ้างแล้ว กลับมีปริมาณท่วมสูงมากขึ้นกลับมาซ้ำอีก จนชาวบ้านในพื้นที่ต้องเดือดร้อนหนักซ้ำตั้งตัวไม่ทันได้รับความเดือดร้อนในการช่วยเหลือเข้าไปไม่ถึงและขาดแคลนอาหารบริโภคอีกเป็นจำนวนมากโยเฉพาะในรอยต่อ 3 ชุมชนที่ชุมชนหนองบ่อ,โนนสมอ และกุดแคน ชาวบ้านกว่า 800 ครอบครัวต้องเดือดร้อนหนักมากขึ้นซ้ำอีก

ทางหน่วยงานตำรวจนำโดยพล.ต.ต.สมพจน์  ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยกำลังฝ่าย ทหาร และฝ่ายปกครองผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ นายก อบจ.ชัยภูมิ และเทศบาลเมืองชัยภูมิจึงได้มีการจัดชุดจากศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจ.ชัยภูมิ ที่มีการตั้งขึ้นวันนี้เป็นวันแรก เพื่อออกไปช่วยเหลือเยี่ยวยาสภาพจิตใจ สร้างความเข้าใจต่อชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม พร้อมทั้งฝ่ายจนท.ตร.ชัยภูมิยังได้มีการตั้งโต๊ะประกอบอาหารสดประเภทก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของจังหวัด นำออกแจกจ่ายประชาชนที่การช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง และยังขาดแคลนอาหาร เครื่องดื่ม อีกจำนวนมากนับพันครอบครัวอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงหัวค่ำถึงกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.ชัยภูมิ จะสามารถคลี่คลายลงได้อีกโดยเร็วหากไม่มีฝนตกเพิ่มลงมาในช่วงนี้ได้อีกอย่างน้อยต้องใช้เวลามากขึ้นอีกนานนับสัปดาห์ได้เช่นกัน

เดือดร้อนหนัก!! ยังคงหวาดหวั่นกับสภาพแปรปรวน หวั่นเกิดน้ำท่วมหนัก ทางผู้ว่าเร่งระดมทุกภาคส่วนช่วยสร้างสะพานเชื่อมทางเข้า รพ.ให้สะดวกมากขึ้น

เดือดร้อนหนัก!! ยังคงหวาดหวั่นกับสภาพแปรปรวน หวั่นเกิดน้ำท่วมหนัก ทางผู้ว่าเร่งระดมทุกภาคส่วนช่วยสร้างสะพานเชื่อมทางเข้า รพ.ให้สะดวกมากขึ้น

ภาพ/ข่าว อนุชา ลูกพ่อแล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชัยภูมิ