- 28 ก.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่ นายดนัย แป้นกระโทก อายุ 25 ปี เดินทางเข้าพบผู้สื่อข่าวเพื่อให้ช่วยตามหาแม่บังเกิดเกล้า เนื่องจากปัจจุบันนายดนัยอาศัยอยู่กับพ่อ และแม่บุญธรรมที่เลี้ยงดูนายดนัยมาตั้งแต่เกิด และตัวนายดนัยไม่มีเอกสารราชการประจำตัวใดๆ มีเพียงบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนติดตัวเท่านั้น ซึ่งนายดนัยต้องการให้แม่ผู้ให้กำเนิดมาเซ็นต์รับรองยืนยันเพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารทางราชการต่างๆ เพื่อให้นายดนัยเป็นประชาชนคนไทยเต็มตัว และสามารถนำเอกสารไปศึกษาเล่าเรียนต่อได้ โดยเมื่อ 25 ปีก่อนนายดนัย ถูกแม่บังเกิดเกล้าคลอดออกมา แล้วนำนายดนัยไปทิ้งไว้ให้กับนายมัด แป้นกระโทก อายุ 56 ปี พ่อบุญธรรม และนางส้ม ใจกล้า อายุ 70 ปี แม่บุญธรรม ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปอยู่บริเวณสถานีขนส่งปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และจากนั้นมานายดนัยก็ไม่เคยพบแม่บังเกิดเกล้าอีกเลย ซึ่งต่อมานายดนัยได้ออกติดตามหาแม่บังเกิดเกล้า และเดินทางไปที่โรงพยาบาลปากช่องนานาเพื่อหาหลักฐานการเกิดของตนเอง แต่เนื่องจากระยะเวลาผ่านไปนานหลายสิบปีแล้วจึงทำให้หาเอกสารไม่พบ ทำให้นายดนัยไม่มีเอกสารประจำตัวใดๆ มาจนถึงทุกวันนี้ และได้ประสานให้ผู้สื่อข่าวช่วยติดตามหาแม่บังเกิดเกล้า ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เรื่องราวที่เหมือนดั่งนิยายก็เป็นจริง เมื่อนางจำลอง เพลิดขุนทด อายุ 56 ปี ซึ่งปัจจุบันบวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ได้เดินทางมาหานายดนัย พร้อมกับแสดงตัวว่าเป็นแม่บังเกิดเกล้า และทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ดำเนินการตรวจดีเอ็นเอ และผลการตรวจปรากฏว่าทั้งสองคนเป็นแม่ลูกกันจริงๆ
ล่าสุดเช่าวันนี้ (28 กันยายน 2560) นายดนัยได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอพิมาย เข้าพบกับนายชูศักดิ์ ชุนเกาะ นายอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอทำบัตรประจำตัวประชาชน โดยขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่ได้นำชื่อของนายดนัยเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของพ่อแม่บุญธรรม จากนั้นก็เป็นขั้นตอนการทำบัตรประจำตัวประชาชน โดยในขั้นตอนนี้นายดนัยได้ขอเปลี่ยนชื่อจริงเป็น นายประกาศิต แป้นกระโทก ทางอำเภอได้ดำเนินการทุกอย่างให้จนเสร็จสิ้น จนในที่สุดนายดนัยฯ ก็ได้รับบัตรประจำตัวประชาชนเป็นคนไทยเต็มตัวตามที่หวัง ซึ่งนายดนัยฯ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมาก และกล่าวขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง และให้ความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้นายดนัยก็จะไปสมัครเรียนต่อ และหาสมัครงานทำ เพื่อจะได้ทำงานเป็นหลักแหล่งเหมือนกับคนไทยทั่วไป
ภาพ/ข่าว สุภาวดี รัตนโสภา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครราชสีมา