- 05 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อบ่ายวันนี้วันนี้( 5 ตุลาคม 2560) นายนักรบ ณ ถลาง นอภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วย นางอารี อินทะเสม ปลัดอำเภอเมืองชุมพร นายสมชาย เมฆีนุรักษ์ กำนัน ต.ขุนกระทิง นายสุพิศ เกษสถิตย์ ผญบ.หมู่ 7 ต.ขุนกระทิง ผู้นำชุมชนชุด ชรบ.ในพื้นที่ ต.ขุนกระทิง ได้นำสื่อมวลชนเดินทางไปยังวัดถ้ำกระทิงทอง หมู่ 7 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อร่วมกันสำรวจ “ถ้ำกระทิงทอง” ก่อนหาแนวทางในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.เมือง จ.ชุมพร
เมื่อไปถึงก็ได้พบ พระสมคิด อภิปุณโญ (ปลูกทรัพย์) อายุ 58 ปี เจ้าอาวาสวัดถ้ำขุนกระทิง จากนั้น พระสมคิดได้นำคณะเข้าไปสำรวจภายในถ้ำขุนกระทิงอยู่สูงกว่าพื้นดินกว่า 10 เมตร โดยต้องเดินเท้าขึ้นบันไดพญานาคจำนวน 24 ขั้น พบหน้าถ้ำมีพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ที่สกัดเข้าไปในหน้าผาซึ่งเป็นหินแกรนิตในลักษณะประติมากรรมนูนสูง กว้าง 4 เมตร สูง 14.80 เมตร ด้านข้างมีข้อความที่สกัดเข้าไปในหน้าผาระบุชื่อผู้บริจาคเงิน ปีที่สร้าง และขนาดขององค์พระ ส่วนภายในถ้ำกระทิงทองมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ที่ถูกแบ่งเป็นห้องๆ ตามธรรมชาติ มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม แต่ที่สร้างความตื่นตาให้ทุกคนก็คือ พระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางต่างๆ ที่เกิดจากการสกัดเข้าไปในผนังและเพดานถ้ำซึ่งเป็นหินแกรนิตในลักษณะประติมากรรมนูนสูงถึง 7 องค์ และยังประติมากรรม “เจ้าแม่รัตนมณี” ที่สกัดเข้าไปในผนังถ้ำลักษณะเดียวกันอีก 1 องค์
พระสมคิด เปิดเผยว่า ตนได้ซื้อที่ดินและเข้ามาบุกเบิกสร้างวัดถ้ำกระทิงทองตั้งแต่ปี 2525 ปัจจุบันวัดถ้ำกระทิงทองมีพระภิกษุจำนวน 7 รูป เดิมถ้ำภายในวัดมีหินขนาดใหญ่ปิดปากถ้ำอยู่ ตนกับชาวบ้านจึงช่วยกันนำหินออกก็พบว่ามีถ้ำที่แบ่งเป็นห้องต่างๆ หลายห้อง และมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ส่วนที่ชื่อถ้ำกระทิงทองเป็นเพราะในสมัยโบราณมีชาวบ้านพบวัวกระทิงสีเหลืองตัวใหญ่มากหลุดมาอยู่ในบริเวณดังกล่าว เมื่อเจอถ้ำเมื่อประมาณปี 2511 ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ถ้ำกระทิงทอง” สำหรับแนวคิดในการสร้างพระพุทธรูปด้วยการแกะสลักหินภูเขาซึ่งเป็นหินแกรนิต เนื่องจากเมื่อประมาณปี 2550 มีชาวต่างชาติสองคนซึ่งพูดภาษาไทยได้ เข้ามาพูดที่วัดว่า ไปดูพระพุทธรูปที่วัดๆ หนึ่งในจังหวัดแถวภาคตะวันออก (ชลบุรี) เป็นพระพุทธรูปที่ใช้สีเขียนบนหน้าผา แต่คนไทยหลอกชาวต่างชาติว่าเป็นพระพุทธรูปที่แกะเข้าไปบนหน้าผา
“อาตมาได้ยินแล้วก็คิดว่าฝรั่งสองคนนั่นกำลังดูถูกว่าคนไทยแกะสลักหินภูเขาเป็นพระพุทธรูปไม่ได้ จึงคิดว่าเราต้องแกะพระพุทธรูปบนหินหน้าผาให้ได้ นอกจากนั้น อาตมายังฝันเห็นหญิงสาวแต่งชุดสีเหลือง เอาภาพพระพุทธรูปปางต่างๆ มาให้ดูแล้วถามว่าชอบองค์ไหน เมื่ออาตมาชี้ว่าชอบองค์หนึ่ง หญิงสาวคนนั้นจึงบอกว่าให้เอารูปพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวไปติดที่หน้าผาแล้วจะอยู่นานจนถึงศาสนาหน้า จากนั้นก็ตื่นขึ้นมา จึงเปิดทีวีพบสารคดีของประเทศจีนกำลังมีการแกะสลักพระพุทธรูปบนหน้าผาพอดี จึงเข้าไปนั่งภาวนาจิตในห้องพระว่า ถ้าอาตมามีบุญวาสนาก็ขอให้หาเจ้าภาพในการแกะสลักพระพุทธรูปบนหน้าผาได้ด้วยเถิดก่อนจะหลับไป” พระสมคิด กล่าว
พระสมคิด กล่าวต่อไปว่า พอรุ่งเช้า นายเสน่ห์ เกิดแพ ช่างฝีมือในพื้นที่มาที่วัด ตนจึงถามว่าสามารถแกะสลักหินหน้าผาให้เป็นรูปพระได้หรือไม่นายเสน่ห์ตอบว่าแกะได้ บ่ายวันเดียวกันก็มีโยมชื่อชิต (นายฉัตร เหลืองพูนทรัพย์) มาบอกว่าเขาลงทุนสร้างโบสถ์ตั้ง 2 ล้านบาท เพื่อนำพระไปไว้ในโบสถ์วัดแห่งหนึ่งใน อ.ปะทิว แต่มีคนจากกรุงเทพฯ มาเช่าไปในราคา 8 แสนบาท จึงรู้สึกโกรธมาก ตนจึงบอกว่ามาเป็นเจ้าภาพแกะสลักพระพุทธรูปบนหน้าผาไหม แกะสลักแล้วไม่มีใครยกไปไหนได้ และสามารถอยู่ได้เป็นพันๆ ปี นายชิตตอบตกลง จึงเริ่มต้นแกะสลักมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2551 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2554 ใช้งบประมาณ 7 แสนบาท ส่วนพระพุทธรูปที่มีการแกะสลักตามผนังและเพดานถ้ำใช้งบประมาณองค์ละ 5 หมื่นบาท สรุปก็คือทั้งพระพุทธรูปองค์ใหญ่ด้านนอกและในถ้ำทั้ง 7 องค์ใช้งบประมาณ 1.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากการบริจาคของญาติโยมที่มีจิตศรัทธาทั้งสิ้น
“ได้รับการเชิญชวนจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนใน ต.ขุนกระทิง ให้เข้ามาดูความสวยงามของพระพุทธรูปที่แกะสลักเข้าไปในหินหน้าผา ผนังถ้ำ และเพดานถ้ำ ในวัดถ้ากระทิงทอง เมื่อเข้ามาดูก็รู้สึกทึ่งในความพยายามของเจ้าอาวาสวัดมากที่สามารถทำได้ขนาดนี้ ดังนั้นอำเภอเมืองชุมพรจะจัดงบประมาณปี 2562 เข้าปรับปรุงวัดถ้ำกระทิงทอง เพื่อให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและศาสนาของ อ.เมืองชุมพร เพราะเห็นว่าการแกะสลักพระพุทธรูปขนาดใหญ่บนหน้าผาเช่นนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ ต้องใช้ความอุสาหะพยายามเป็นอย่างมากจึงจะสามารถทำได้ นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบพระขรรค์เก่าแก่ในยุคอาณาจักรศรีวิชัยด้วย จึงเป็นสถานที่ ที่ควรค่าแห่งการมาชื่นชมและท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง” นอภ.เมืองชุมพร กล่าว
นายสมชาย และ นายสุพิศ ก็กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณนายอำเภอเมืองชุมพรที่เสียสละเวลาพาสื่อมวลชนเข้ามาดูความสวยงามของพระพุทธรูปที่แกะสลักอยู่บนหน้าผา ผนังถ้ำ และเพดานถ้ำวัดแห่งนี้ แล้วจะจัดงบประมาณเข้ามาปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ อ.เมืองชุมพร ซึ่งทุกปีชาวบ้านในพื้นที่จะร่วมกันจัดงานประจำปีในช่วงวันตรุษไทยคือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 เพื่อช่วยกันหาเงินมาทำนุบำรุงวัดและยังมีการทอดผ้าป่า ทอดกฐินเป็นประจำทุกปีด้วย
ข่าว/ภาพ พงศกร นวนละมัย ทีมข่าวทีนิวส์ จ.ชุมพร




