- 07 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ผู้ประกอบการท่าทรายโร่ขอแจงผ่านสื่อหลังหญิงชราถวายฎีกาขอความช่วยเหลือจากเบื้องสูง พร้อมระบุมีหลักฐานการประกอบการ พื้นที่ขุดมีเอกสารครอบครองและที่ดินไม่เกี่ยวข้องกันของผู้ร้องอยู่ด้านหน้าพื้นที่ประกอบการอยู่ด้านใน ด้านรักษาการนายอำเภอบ้านนาเดิมยันใบอนุญาตดังกล่าวไม่ถูกต้อง พื้นที่ขุดที่มีความลึกเกิน 3 เมตรกว้างเกิน 10,000 ตารางเมตรจะต้องขออนุญาตเจ้าพนักงานท้องถิ่น
7 ตุลาคม ๒๕๖๐ นายสฤษดิ์ วีระสุนทร อายุ 57 ปี ผู้ประกอบการท่าทรายเหมืองแร่ห้วยใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 65/1 ม.6 ต.นาใต้ อ.บ้านนาเดิม จ.หวัดสุราษฎร์ธานี ได้ติดต่อขอชี้แจงผ่านผู้สื่อข่าวหลังข่าวหลายสำนักได้นำเสนอข่าว กรณี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560 ที่วัดชุมพูพลหมู่ที่ 1 ต.บ้านนา อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.กัลย์สรรค์ จันทรเสน ผู้แทนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และคณะได้เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบให้นายสุชีพ คงวิสุทธิวงศ์ จิตอาสาที่ช่วยเหลือสังคมด้วยการดูแลรักษาและซ่อมแซมถนนภายในหมู่บ้าน ในขณะที่ผู้แทนพระองค์ฯ กำลังจะเดินทางกลับ ได้มีนางราตรี บัวบุญ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 1 ต.บ้านนา อ.บ้านนาเดิม ร้องให้ส่งเสียงดังวิ่งฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ายื่นหนังสือถวายฎีกาต่อ พล.ต.กัลย์สรรค์ พร้อมร้องขอความช่วยเหลือจากเบื้องสูง กรณีถูกกลุ่มบุคคลบุกรุกเข้าครอบครองพื้นที่สวนปาล์มและดำเนินการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์และทำเป็นท่าทราย พร้อมประกาศไม่ให้ตนเข้าพื้นที่ ทั้งที่เป็นมรดกตกทอดจากบิดามีเอกสาร สค.1 ครอบครองกว่า 12 ไร่ จึงได้มอบหมายให้นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งดำเนินการตรวจสอบและรายงานให้ทราบโดยเร็วเพื่อนำความกราบถวายรายงานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น
นายสฤษดิ์ ได้กล่าวว่าหลังจากมีข่าวออกไปว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพลได้ส่งผลกระทบต่อตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงขอความเป็นธรรมผ่านสื่อโดยระบุว่ากองทรายที่กองอยู่ไม่ได้ดูดทรายขึ้นมาจากคลอง แต่เป็นกองทรายที่ตนให้รถแบคโฮขุดทรายในพื้นที่ที่เป็นกองทรายทับถมที่อดีตผู้ประกอบการเหมืองแร่ดีบุกที่รับสัมประทานจากรัฐได้ดูดขึ้นมากองไว้ พร้อมกับนำหลักฐานการครอบครองที่ดินมามายันเป็นโฉนดที่ดินจำนวน 4 แปลงที่ครอบครองในชื่อนายจิระ บุณยะโหตระ ประกอบด้วยโฉนดเลขที่ 8601,8654,6693,6694, พื้นที่รวมประมาณ 59 ไร่ และมีใบอนุญาตโอนการประกอบกิจการโรงงาน ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ระบุวันที่ 30 ธันวาคม 2557 อนุญาตให้ บริษัท บุณตระ จำกัด ประกอบกิจการ ขุดตักล้างทราย กำลังเครื่องจักร 185.00 แรงม้า คนงานจำนวน 2 คน ในพื้นที่ ม.1 ต.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี ออกให้โดยนายเอกภัทร วังสุวรรณ อุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสฤษดิ์ ยังได้ระบุอีกว่าทรายในพื้นที่ที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท บุณตระ จำกัด นั้นตนได้ทำสัญญาซื้อขายทรายจากบริษัทดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 จึงเข้ามาดำเนินการขุดทรายขาย และได้ขออนุญาตเรื่องการบรรทุกทรายเกินน้ำหนักวิ่งผ่านเส้นทางในพื้นที่ต่อองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา และได้รับการอนุญาตที่ลงนามโดยนายวิจิตร อุ่นสอน รองนายก อบต.บ้านนา รักษาราชการแทนนากยก อบต.บ้านนา ที่แจ้งมาเป็นรายลักษณ์อักษรว่ายินดีให้ความร่วมมือในเรื่องรถบรรทุกทรายให้บรรทุกตามที่กฎหมายกำหนดและใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ในเขตชุมชนเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560 มาประกอบการชี้แจง
นอกจากนั้นนายสฤษดิ์ ยังได้ย้ำว่า พื้นที่ของนางราตรีที่มีปัญหาร้องเรียนอยู่ด้านหน้าพื้นที่ขุดทรายของตนเองซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันดังเป็นข่าว ดังนั้นตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อขอความเป็นธรรมจากรณีดังกล่าว
ด้านนายสำนวน ทองศรี ปลัดอวุโสรักษาราชการแทนนายอำเภอบ้านนาเดิมเผยว่า ขณะนี้นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมหาทางเยี่ยวยาและให้การช่วยเหลือเรื่องคดี พร้อมทำรายงานเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยและรายงานเสนอต่อพล.ต.กัลย์สรรค์ จันทรเสน ผู้แทนพระองค์
ในส่วนการขุดดิน-ขุดทรายนั้นผู้ประกอบการจะต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในกรณี ที่มีการขุดดินหรือขุดทรายที่มีความลึกเกิน 3 เมตรและมีความกว้างเกิน 10,000 ตารางเมตร ดังนั้นผู้ประกอบการนำใบอนุญาต ขุดตักล้างทราย ดังกล่าวมาแสดงไม่ถูกต้อง
ภาพ/ข่าว ณัฐธิดา เริ่มฤกษ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุราษฎร์ธานี