เจอตัวจนได้!! ตำรวจภูธร ภาค 3 จ.บุรีรัมย์พอรู้ตัวแล้วโจรไหมพรมและใส่หมวกกันน็อคทับอีกชั้น คดีคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ปั้มน้ำมันก่อนจะใช้อาวุธปืนจี

วันนี้ 7 ต.ค.ความคืบหน้า กรณีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์พนักงาน ปั้มน้ำมัน PT สาขาสตึก 2 เลขที่ 35 หมู่ 9 ต.นิคม อ.สตึก ตั้งอยู่ถนนสาย สตึก – แคนดง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยทำทีเข้าไปเติมน้ำมัน จำนวน 70 บาท

ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้ไปที่คอของพนักงานเก็บเงิน ต่อหน้าเพื่อนพนักงานอีก 2 คน พร้อมบอกให้ส่งกระเป๋าเงินที่ได้จากการขายน้ำมันซึ่งคาดเอว มีเงินอยู่กว่า 7,000 บาท และข่มขู่พนักงานห้ามส่งเสียงดังไม่เช่นนั้นจะยิงให้ตาย ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปทาง อ.แคนดง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ของวันที่ 4 ต.ค.60 ที่ผ่านมา

ล่าสุด พล.ต.ต.วิสาร์ท สมปราชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรชัย สังขพัฒน์ , พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.ไพศาล สุวรรณทา ผกก. หัวหน้างานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์

ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดี และประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.พัฒนากุล บุญหลาย ผกก.สภ.สตึก และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 , กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และ สภ.สตึก เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อติดตามหาเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้

ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เบื้องต้นพอทราบตัวคนร้ายแล้ว คาดว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีในเร็วๆนี้ พร้อมทั้งกำชับตำรวจในทุกพื้นที่ ให้มีการออกตรวจตราในพื้นที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งปั๊มน้ำมัน ร้านทอง และศูนย์การค้า เพื่อป้องกันเหตุร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เคยเกิดมีเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ปั้มน้ำมัน PT สาขาร่อนทอง ถนนสายบุรีรัมย์-สตึก ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อต้นเดือน เมษายน 2560 ได้เงินสดไป 30,000 บาท โดยพฤติการณ์ของคนร้ายมีลักษณะคล้ายกัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมได้ จึงคาดว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนเดียวกัน

ภาพ/ข่าว วันชัย ผิวอร่าม ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ จ.บุรีรัมย์