ด้วยสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ!! เปิดชีวิตครอบครัวชาวญวนอพยพ หนีภัยสงครามเข้ามาในแผ่นดินไทย ยึดหลักคำสอนของพ่อหลวงมาใช้ในชีวิต

     วันที่ 25 ตุลาคม  60 เวลา 17.30 น. ที่บ้านพักเลขที่ 38 ซอยแจ่มนุสรณ์  ถ.ประจักษ์ศิลปาคม เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายจิระพันธ์ ควรค้าธีรศรี  อายุ  70 ปี และ นางประภาพร หรือ นางเหี่ยน เลวัน  ควรค้าธีรศรี  อายุ 60 ปี ซึ่งประกอบอาชีพ  เปิดร้านขายอาหารตามสั่งและอาหารเวียดนาม  เป็นชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ลูกหลานชาวญวนของผู้อพยพ หลบหนีภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จากประเทศเวียดนาม เข้ามาพึ่งพระโพธิสมภาร ในแผ่นดินไทย 

     โดยได้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทำการเก็บรักษา พระบรมฉายาลักษณ์  พระบรมพระสาทิสลักษณ์ และธนบัตรฉบับ ตั้งแต่ 1 บาทไปจนถึง 1,000 บาท และธนบัตร ในวาระโอกาส พิเศษต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก พร้อมกับเม็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน  นอกจากนี้แล้วยังมีหลานชายที่มีความสามารถวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ ลายเส้นในพระราชอิริยาบถต่างๆได้อย่างสวยงาม

      นางประภาพร  ควรค้าธีรศรี   เปิดเผยว่า พระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ และเงิน ธนบัตรทั้งหมดนี้ ตนเอง ได้สะสมเก็บรักษามาเป็นเวลา 33 ปีแล้ว ส่วนหนึ่งก็นำเอาใส่กรอบติดไว้ข้างฝาร้านแต่ไม่มาก เพราะกลัวว่าควันไฟ ฝุ่นละอองจะปลิวไปจับ แล้วทำให้เกิดความเสียหาย จึงใช้วิธีเก็บรวมๆกันบรรจุใส่ไว้ในถุงอย่างดี และเก็บรักษาไว้ในห้องพระ ส่วนธนบัตรชนิดราคาต่างๆ เก็บไว้ในตู้เซฟ จะไม่ค่อยเอามาให้ใครดูบ่อยนัก นอกจากคนในครอบครัวเท่านั้น

 

     โดยครอบครัว พ่อ แม่ เป็นชาวญวน หรือ เวียดนาม  ได้อพยพหนีภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาจากประเทศเวียดนาม ผ่านประเทศลาว ทางเมืองท่าแขก ข้ามแม่น้ำโขง มาอยู่ที่จังหวัดนครพนม และต่อมาได้มาตั้งครอบครัว อยู่ที่บ้านดงมะไฟ ต.ขมิ้น อ.เมืองสกลนคร จนมีลูกหญิง ลูกชาย รวมทั้งหมด 9 คน  และตนเองเป็นลูกคนที่ 2 

     เมื่อตนเองมีอายุได้ 19 ปี ก็เดินทางเข้าประกอบอาชีพในเมืองอุดรธานี และแต่งงานกับสามี มีลูกด้วยกัน 4 คน ปัจจุบันเหลือ 3 คน ซึ่งตนเองได้เลี้ยงลูกและสั่งสอน ลูกทุกคนให้มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ตามที่พ่อหลวงสอนไว้  ด้วยการไม่คิดคดโกงใคร ทำอาชีพอย่าสุจริต แต่ต้องมีความขยัน

     ในส่วนของตนเองนั้น แม้ว่าจะเป็นลูกหลานชาวญวนอพยพ แต่ตนก็มีความจงรักภัคดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นอย่างมากและความเสียใจที่พระองค์ท่านได้สวรรคตไป  ซึ่งตนและครอบครัว เคยเดินทางลงไปกรุงเทพ เข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทุกวันนี้เมื่อตนเองคิดถึงในหลวง ก็จะร้องไห้ทุกครั้ง และในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 นี้ ก็จะหยุดขายอาหาร จะพาครอบครัวไปถวายดอกไม้จันทน์ ที่พระเมรุมาศจำลอง ที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรฯ 

     ตนจะทำความดี เพื่อพ่อหลวง เนื่องจากตนเองก็ถูกสั่งสอน มาจากพ่อแม่ ให้ใช้ชีวิตอย่างเพียงพอ ขยันอดทนประหยัด และรู้คุณแผ่นดินไทย โดยจะช่วยเหลือสังคมที่สามารถไปร่วมได้  และที่ผ่านมาก็เข้าไปร่วมในกิจกรรมต่างๆ แม้ว่าตนเอง จะเป็นคนไทยเชื้อสายเวียดนามก็ตาม ซึ่งตนเองได้รับสัญชาติไทยเมื่อปี พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นรุ่นแรกของชาวเวียดนามที่เกิดในประเทศไทย  และยังคงที่จะทำความดีเพื่อในหลวง ตลอดไป  ซึ่งตน ทำการสั่งสอนให้ลูกหลานทุกคน ให้ดำเนินชีวิตในแนวทาง ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงดังกล่าว

     นอกจากนี้ ด.ช.กุมภาหรือ ออร์แกน ควรค้าธีรศรี  อายุ  13 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2  โรงเรียน อุดรวิทยา ซึ่งเป็นหลานชาย  มีความสามารถวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ อย่างสวยงามและเหมือนกับพระบรมฉายาลักษณ์จริงมาก ซึ่ง ด.ช.กุมภา หรือ ออร์แกนฯ ได้วาดโชว์ ใช้เวลาเพียง  10 นาที ในการวาดรูป พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

     สำหรับด.ช.กุมภา หรือ ออรแกนฯ  สามารถวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ได้ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.4 และได้ทำการวาดภาพ มาเรื่อยๆ เก็บเอาไว้ที่โรงเรียน มีคนขอ ก็ให้ไป ไม่ได้เก็บสะสมเอาไว้ โดยในอนาคตเมื่อเรียนจบระดับมัธยมแล้ว หากมีโอกาสได้เรียนในระดับที่สูงขึ้นไป จะเรียนวิชาดนตรี ทุกวันนี้เล่นเครื่องดนตรีกีตาร์ และชอบเล่นเพลงสไตล์เพลงแจ๊ส ส่วนการวาดภาพด้วยดินสอลายเส้นก็คงจะยังใช่เวลาว่างทำการวาดอยู่เหมือนเดิม

     ด.ช.กุมภา หรือ ออร์แกนฯ บอกว่าตนเอง ได้รับการสั่งสอนจากย่าว่า ให้มีความขยันหมั่นเพียร ให้เรียนสูงๆ สอนให้รู้จักความพอเพียง ไม่คดโกง มีความซื่อสัตย์ และเมื่อเวลาที่มีข่าวทางโทรทัศน์ทุกครั้ง ย่าจะเรียกให้ลูก หลาน มานั่งดูข่าวของในหลวง และเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับในหลวง และสั่งสอนให้ลูกหลานทุกคน ทำตามที่ในหลวงได้พระราชดำริ เอาไว้ดังกล่าว

 

นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ภูมิภาค สำนักข่าว ทีนิวส์