- 02 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 1 พ.ย. 60 พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ต.สมนึก สุวรรณวงศ์ สว.สส.สภ.ทุ่งใหญ่ ร.ต.อ.รักธรรม ส้มเขียวหวาน รอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.นนทวัช รัตนนิพนธ์ รอง สว.สส. ร.ต.อ.ธวัชชัย ยั่งยืน ชุดสืบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ และ อส.ตร. ได้รับแจ้งว่าผู้ต้องสงสัยในคดีลักทรัพย์หลบซ่อนตัวอยู่กับแม่ในเพิกพักริมรั้วภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนางปรีดา ชนะพล อายุ 57 ปี ตามบัตรประจำตัวประชาชนอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 85/1 หมู่ 5 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในเพิกพักโกโรโกโส มีฐานะการเป็นอยู่ยากจนแร้นแค้น ภายในบ้านมีเสื้อผ้าอยู่เพียง 2-3 ชุด ไม่มีวัสดุอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใด ๆ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา เป็นภาพที่น่าเวทนาแก่ผู้ที่พบเห็นยิ่งนัก โดยเมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามถึงลูกชาย ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลักเล็กขโมยน้อยนางปรีดา แจ้งว่าลูกชายได้วิ่งหลบหนีไปก่อนหน้าที่ตำรวจจะมาถึงเล็กน้อย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส. เห็นภาพความเป็นอยู่ของนางปรีดา จึงเกิดความเอ็นดูสงสารที่มีฐานะยากจนใช้ชีวิตเป็นอยู่อย่างเวทนาแทบไม่มีข้าวกิน ไม่มีน้ำดื่ม เสื้อผ้ามีเพียง 2 ชุด จึงสอบสวนทราบว่านางปรีดา ไม่มีที่อยู่เป็นของตนเอง จึงมาขออาศัยริมรั้วของมหาวิทยาลัยอาศัยอยู่กับลูกชาย ใช้การมุดรั้วเข้าไปเวลาเข้าออกเพิงพักเป็นชีวิตที่น่าเวทนาสงสาร ทางพ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงพากันกลับออกไป ก่อนจะร่วมกันบริจาคเงินส่วนตัวคนละเล็กละน้อยซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ประกอบด้วย ข้าวสารอาหารแห้ง ผ้าห่ม ที่นอน และเครื่องอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตนำมาให้กับนางปรีดา ชนะพล ที่เพิงพักดังกล่าว ท่ามกลางความดีใจของนางปรีดา
นางปรีดา ชนะพล กล่าวว่าชีวิตตนยากจนแร้นแค้น ไม่มีที่ดินและบ้านเป็นของตัวเอง จึงมาปลูกเพิกพักภายในรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช อาศัยอยู่กับลูกชาย ด้วยความยากลำบาก อดมื้อกินมื้อ โดยอาศัยน้ำฝนจากชายคาเพื่อดื่มกิน ถ้าฝนแล้งก็ต้องเดินไปขอน้ำจากเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างออกไป 1 กม. โดยตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมากที่มีน้ำใจช่วยเหลือคนยากจนแร้นแค้น ส่วนเรื่องลูกชายตนไม่ทราบว่าได้ไปทำผิดกฎหมายอะไรบ้าง และที่ผ่านมาพยายามอบรมสั่งสอนลูกชายให้เป็นคนดี แม้จะยากจนแร้นแค้นต้องอดทนไม่ไปลักขโมยหรือทำผิดกฎหมาย หากเขาทำผิดไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ขอให้เจ้าหน้าที่จับกุมไปดำเนินคดีตามกฎหมาย นางปรีดา กล่าวด้วยน้ำตานองใบหน้า
ภาพ/ข่าว / ยุทธนะ เตมะสิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครศรีธรรมราช




