- 02 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ประชาชนชาวชุมพร และนักท่องเที่ยวที่ผ่าน “วัดป่ายาง” ตั้งอยู่ ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นกับความเชื่อของเจ้าอาวาสวัดป่ายาง ที่ทาสีวัดเป็นสีเหลืองทองทั้งหมด ทั้ง พระอุโบสถ พระเจดีย์ พระปรางค์ต่างๆ หอระฆัง ประตูรั้ว ซุ้มประตูทางเข้าวัด องค์รูปจำลองพระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นความมหัศจรรย์ และความแปลกใหม่เป็นวัดแรกของจังหวัดชุมพรที่ทาสีทองเหลืองอร่ามทั้งวัด สร้างความประทับใจให้กับบุคคลทั่วไปที่พบเห็นและสามารถดึงดูดความสนใจจุดประกายให้เยาวชนหันมาสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้นด้วย
สำหรับบรรยากาศทั่วไปภายในบริเวณวัด มีต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความร่มรื่น เย็นสบาย เงียบสงบ มีศาสนสถานกว้างขวาง เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมวินัยตามพระพุทธศาสนา เช่น การเวียนเทียน การสวดมนต์ การทำสมาธิ
พระครูนิเทศธรรมพิลาส (หลวงปู่) เจ้าอาวาสวัดป่ายาง กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเน้นทาสีเหลืองทอง เพราะเป็นสีที่สวยงาม และมีอนุภาพ เป็นสีแห่งบุญ เป็นสีมงคล ใครมองแล้วรู้สึกสุขสดชื่น มีบารมี และทนทาน ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากแต่อยู่ได้นานคงทน วัดต้องให้ดูใหม่เสมอ สะอาดอยู่เสมอ ทาสีทองตั้งแต่เริ่มสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในวัดทั้งหมด เพราะเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความเคารพบูชา เช่น พระพุทธเจ้าให้คำสั่งสอนที่ดีให้ของดีกับทุกคน และทุกคนก็ให้ความเคารพเพราะฉะนั้นเราต้องเอาสีทองมาทาให้สวยงามเพื่อให้เหมาะสมกับพระพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สีทอง คือ สีที่สะท้อนถึงอนุภาพของความดี ปัจจัยที่ญาติโยมทำบุญมาให้ วัดก็พยายามสะสมทีละเล็กทีละน้อยจนมีมากขึ้น
ส่วนการก่อสร้างพระธาตุเจดีย์พุทธภัททภัปป หลวงปู่ ยังเล่าอีกว่า เขียนแปลนด้วยตัวเองใช้เวลา 1 คืน และเริ่มสร้างด้วยเงินเพียง 2,500 บาท ด้วยลักษณะเหมือนรูปดอกบัว 5 ดอก มีพญานาคจำนวน 4 ตัว อยู่ล้อมรอบบนเจดีย์ เพื่อให้ดูแล เพราะพญานาคเป็นคู่บุญกับพระพุทธศาสนา จนถึงปัจจุบันเงิน 2,500 บาทก็ยังไม่หมดมันก็ยังงอกเงยขึ้นมาเรื่อยๆ
วัดป่ายาง หรือที่ชาวบ้านมักเรียกว่า “วัดเนินสำลี” แต่เดิมชื่อวัดศรีวิไลซ์รัตนาราม ตั้งอยู่เลขที่ 35 หมู่ 4 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดป่ายางสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2400 โดยมีพระภิกษุ ฤกษ์ เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการก่อสร้าง
ในปีพ.ศ.2485 ได้ดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถโดยการนำของพระภิกษุ ไฝ มีญาติโยมช่วยกันสร้าง มุงหลังคาด้วยใบจาก และสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2487 ในสมัยนั้นพื้นที่ของวัดส่วนใหญ่เป็นป่ามีไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะต้นยาง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่า ธรรมชาติร่มรื่น ราษฎรตำบลสะพลีและตำบลใกล้เคียงมักจะนำบุตรหลานมาฝากไว้ที่วัด เพื่อให้ได้ศึกษาเล่าเรียน และบวชอยู่ในวัดแห่งนี้
ต่อมาในปี พ.ศ.2510 กรมการศาสนาได้เปลี่ยนชื่อวัดว่า วัดป่ายาง ซึ่งมีพระภิกษุชม สุจิตุโต เป็นเจ้าอาวาส อีก 5 ปี ต่อมา ทางวัดได้ก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น ก่อสร้างด้วยอิฐถือปูนใช้เวลาก่อสร้างถึง 9 ปี จึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2524 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ต่อมาปลายปี พ.ศ.2532 วัดได้รับความเสียหายจากภัยพายุใต้ฝุ่นเกย์ ขณะนั้นพระครูไพบูลย์ เจ้าอาวาสได้มรณภาพลง ทางเจ้าคณะตำบลสะพลีจึงได้แต่งตั้งพระมนูญธรรม ถิรจิตุโต รักษาแทนเจ้าอาวาส ปี พ.ศ.2535 จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสมาจนถึงปัจจุบันพร้อมกับได้ทำนุบำรุงพัฒนาวัดมาโดยตลอด และด้วยการทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องมีผลงานจึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัติในราชทินนามที่ “พระครูนิเทศธรรมพิลาส(เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท) ยังเกียรติประวัติอันดีงามให้เกิดในหมู่สงฆ์และพุทธศาสนิกชนของชาวอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพรสืบมา
อย่างไรก็ดี ด้วยความสวยงามของสีทองที่เหลืองอร่ามไปทั้งวัด จนได้รับความสนใจจากคู่บ่าวสาว มาถ่ายปรีเวดดิ้ง กันอยู่ตลอดเวลา
ภาพ/ข่าว พงศกร นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชุมพร




