ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า ที่ร้านกว้องจั้น สาขา 4 ถ.พิกุลทอง อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง (เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว) ผู้คนที่ผ่านไปมาคงรู้สึกคุ้นตากับชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งที่เปิดร้านชายข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ และก๋วยเตี๋ยว ตั้งแต่เช้าตรู่ 06.00น.-14.00น.ทุกวัน แท้จริงแล้วร้านดังกล่าวเป็นร้านของ  นายวิทย์สรัช ก้องสุวรรณคีรี หรือภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น นายธนากฤต สุรโชคธรากร หรือ “โจ๊ก” อดีตนักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย วัย 34 ปี พลิกผันชีวิตตัวเองมาเปิดร้านดังกล่าว มานานเกือบ 5 ปี  ถึงแม้จะเคยเป็นถึงนักกีฬาทีมชาติที่มีความเก่งกาจในฝีไม้ลายมือ ศิลปะแห่งการต่อสู้ฟันดาบ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน  แต่เมื่อจังหวะและโอกาสไม่เอื้ออำนวยก็จำเป็นต้องกลับบ้านเกิดเพื่อสร้างครอบครัว

ทั้งนี้นายธนากฤต หรือ “โจ๊ก” อดีตนักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย กล่าวว่า ตนเล่นกีฬาฟันดาบมาตั้งแต่เรียนอยู่ที่ ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือฯ ชั้นปีที่ 2 อายุประมาณ 19 ปี รู้สึกสนุกและหลงรัก กีฬาชนิดนี้เป็นอย่างมาก เพราะคิดว่าเป็นกีฬาที่มีเสน่ห์ ต่างจากกีฬาชนิดอื่น โดยผู้เล่นต้องชนะหรือแพ้ด้วยตัวเอง ต้องคิดท่าทาง ไหวพริบและวางแผนการเล่นด้วยตนเอง ทุกครั้งที่ลงสนามแข่งขัน ตนเองรู้สึกเหมือนการลงศึกสงครามแห่งการต่อสู้ รู้สึกเท่ อย่างบอกไม่ถูก มีการฝึกซ้อม มีความอดทน อดกลั้น มีความพยายาม และลงสนามแข่งขันกวาดเหรียญรางวัลมาแล้วมากมาย เคยเป็นตัวแทนรับใช้ชาติไปแข่งขันที่ต่างประเทศได้รับเหรียญทองในการแข่งขัน การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปี 2011 ครั้งที่ 26 ที่ กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่ภูมิใจที่สุด ที่ได้ทำหน้าที่และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

อดีตนักกีฬาฟันดาบทีมชาติ..!! พลิกผันชีวิต..ยึดอาชีพขายข้าวหมูแดง และก๋วยเตี๋ยวสูตรดั้งเดิม สร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัว..

หลังการแข่งขันเสร็จสิ้น ก็เริ่มมองหาก้าวต่อไปของชีวิต  ใจหนึ่งก็อยากเป็นครูสอนกีฬาฟันดาบเพื่อสานต่อในสิ่งที่ชอบ ก็เคยคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน แต่ก็ยังหาความลงตัวไมได้และบางครั้งชีวิตคนก็รอไม่ได้ ตนเองก็เลยตัดสินใจกลับภูมิลำเนาที่ จ.ตรัง เพื่อหาอาชีพ แต่งงาน และสร้างครอบครัว ด้วยตนเอง

อดีตนักกีฬาฟันดาบทีมชาติ..!! พลิกผันชีวิต..ยึดอาชีพขายข้าวหมูแดง และก๋วยเตี๋ยวสูตรดั้งเดิม สร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัว..

ประกอบกับเวลานั้น มีพี่เขยเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ที่มีชื่อเสียงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นตำนานของร้านก๋วยเตี๋ยวเมืองห้วยยอด จ.ตรัง ชื่อร้านกว้องจั้น เปิดขายมานานกว่า 80 ปี ก็ได้ปรึกษาหารือกันก็ทำให้ตนเองและภรรยามานำสูตรมาขยายสาขาเพิ่มเป็นสาขาที่ 4 อยู่ที่ อ.ย่านตาขาว ซึ่งเป็น บ้านเกิดของภรรยา ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปี ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะวัตถุดิบที่สด สะอาด โดยเฉพาะเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ร้านพี่เขยไม่ใช้เครื่องจักรแต่ทำแฮนเมดท์ ทุกวันทำให้เป็นที่ติดใจของลูกค้า ซึ่งช่วงที่เศรษฐกิจดีๆ ยางพาราราคาดี ก็ขายดีหน่อยหมดเร็วทุกวัน มาช่วงพักหลังๆ เศรษฐกิจไม่ดี ก็ปรับไปตามสภาพ ปัจจุบันนี้ อาชีพขายอาหารก็แค่ ได้กิน ได้ใช้ แต่ไม่มีเงินเหลือเก็บ แต่ละวันตนเองก็ตื่นตี 4 เตรียมของทุกอย่างไว้ให้ภรรยา ส่งลูก 2 คนชายหญิงไปโรงเรียน แล้วก็ไปทำงานที่สหกรณ์การเกษตรฯใกล้บ้าน เพื่อเสริมรายได้อีกทาง 

อย่างไรก็ตาม ชีวิตตนเองมีโอกาสได้ทำหลายอย่าง โดยเฉพาะการเป็นนักกีฬาทีมชาติ และ การเปิดร้านขายอาหาร ตนเองคิดว่า ทุกอาชีพมีความมานะอดทน ฝึกฝนตั้งใจ และที่สำคัญต้องมีความซื่อสัตย์ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น แต่ยอมรับว่าในใจลึกๆ ก็อยากจะเป็นครู หรือ กลับไปรับใช้ชาติ อยู่ภายใต้ข้าของแผ่นดินไทย แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิต..อดีตทีมชาติไทย กล่าวทิ้งท้าย.

 

อดีตนักกีฬาฟันดาบทีมชาติ..!! พลิกผันชีวิต..ยึดอาชีพขายข้าวหมูแดง และก๋วยเตี๋ยวสูตรดั้งเดิม สร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัว..

ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตรัง