- 24 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จะไปไหนก็ไปไม่รอดอยู่ดี นักโทษแหกคุก หลบหนีจากเรือนจำยโสธร คิดถึงครอบครัว ตัดสินใจหลบหนี จากเรือนจำ ไปอยู่กับครอบครัว แม่ ภรรยา ลูก และครอบครัว พานำมอบตัว กับเจ้าหน้าที่เรือนจำยโสธร นายชาติชาย ไชยรักษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมามีผู้ค้องหา อายุ 39 ปี ชาว ตำบลคำน้ำสร้าง อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ผู้ต้องขังชายในคดียาเสพติดหมายเลขแดงที่ 1731/2560 ถูกศาลจังหวัดยโสธรพิพากษาจำคุก 4 ปี 3 เดือน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดยโสธร
สืบเนื่องจากเมื่อวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 09.00 น ของวันที่ 23พฤศจิกายน.2560 มีรถเก็บขยะของเทศบาลเมืองยโสธรเข้ามาเก็บขยะในเรือนจำทุกวัน โดยจะมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ว่าภายในรถมีอุปกรณ์หลบหนี อุปกรณ์เหล็กแหลม และสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ต้องขึ้นไปนั่งข้างคนขับรถขยะเข้าไปเข้าในด้วย โดยทุกวันจะมีผู้ต้องขังจากแดนกลางที่รับผิดชอบทำหน้าที่ขนขยะขึ้นรถประมาณ 10-15 คนแล้วแต่จำนวนขยะที่มากหรือน้อยต่อวัน และมีผู้ดูแลทำความสะอาดบริเวณโรงเก็บขยะประมาณ 6-10 คน ต่อวัน ซึ่งวันเกิดเหตุมีขยะน้อยทำให้ขนขยะเสร็จเร็ว จากนั้นก็มีการตรวจนับนักโทษที่ขนขยะก็ครบตามจำนวน แล้วก็มีการตั้งแถวเพื่อเดินออกจากที่ดังกล่าว จากนั้นรถขนขยะก็ขับออกไป ซึ่งคาดว่านักโทษคนดังกล่าวได้ใช้เวลาแค่เสี่ยววินาทีปีนขึ้นไปบนรถก่อนที่รถขยะจะขับออกไป โดยปกตินักโทษคนดังกล่าวจะทำหน้าที่ขึ้นขยะเป็นประจำไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ระหว่างที่รถขยะขับออกไปนั้นจะมีด่านตรวจหลายด่านมากพร้อมมีการใช้เหล็กแหลมเพื่อปกกันผู้ต้องขังหลบหนี ต่อมาเวลา 13.00 น.ของวันที่เกิดเหตุมีการเช็คยอดนักโทษ จึงทราบว่ามีนักโทษชื่อนายแสวงหรือจ่อย หลบหนีออกจากเรือนจำ ต่อมานายชาติชาย ไชยรักษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร จึงได้ตั้งศูนย์บัญชาการและแบ่งทีมออกติดตามไล่ล่าจับกุมจำนวน 5 ชุด และประสานกับเจ้าหน้าตำรวจท้องที่ให้ระดมกำลังช่วยติดตาม จากนั้นก็มีอีกหนึ่งทีมติดตามไปยังบ้านพ่อแม่ผู้ต้องหา และหากพบให้ติดต่อกลับมาด่วน ต่อมาเวลา 21.00 น.ทางพ่อแม่ผู้ต้องได้ต่อต่อมาว่าผู้ต้องขังได้กลับมาบ้านจริง จึงประสานนัดรับตัวผู้ต้องหาในช่วงเวลา 00.00 ของเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีพ่อแม่และลูกสาวคนเล็กของผู้ต้องขังมาส่งที่จุดนัดพบ
ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร กล่าวว่า หลังจากรับตัวผู้ต้องขังมาแล้วได้สอบถามแล้วรับว่าผู้ต้องขังอยากกลับบ้านคิดถึงลูกคิดถึงเมีย จึงอาศัยช่วงที่ผู้คุมเผลอแอบกระโดดขึ้นรถไปหลบซ่อนใต้กองขยะและไปลงตรงจุดทิ้งขยะที่บ้านดงบัง ตำบลหนองคู อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร จากนั้นได้เดินลัดเลาะตามป่าและไปพบเสื้อของชาวนาจึงได้หยิบขึ้นมาเปลี่ยน จากนั้นก็รอให้ถึงช่วงเย็นเพื่อได้เดินตามข้างทางถนนวารีราชเดช มาถึงบ้านหนองไม้ตาย ตำบลทุ่งนาโอก อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร และได้ว่าจ้างให้ชาวบ้านขี่รถจักยานยนต์บริเวณดังกล่าว ไปส่งที่บ้านเกิด พอถึงบ้านเกิดก็บอกให้พ่อแม่นำเงินให้คนมาส่งแล้วนั่งกินข้าวกับพ่อแม่และลูกสาวคนเล็ก จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและรายงานผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับเหตุการณ์ผู้ต้องขังหลบหนี ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยทางเรือนจำได้ปรับในการส่งวัสดุไม่ให้เข้าไปภายในเรือนจำโดยจะใช้วิธีขนถ่ายเอาเพื่อป้องกันผู้ต้องขังซุกซ่อนตัวเหมือนเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ทางเรือนจำได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความเอาผิดกับผู้ต้องขังที่รายดังกล่าวที่หลบหนี
ข่าว/ภาพ ไพรทูล บุญมา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ทีนิวส์ จ.ยโสธร