ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ชุมพร ชาวประมงพื้นบ้านโต้”สื่อ”สำนักใหญ่นำเสนอบิดเบือน “ซากรถผีสิงห์””ศาลพระภูมิเก่า”เป็น”ขยะใต้ทะเล”จนถูกจี้เลิกโครงการฯ โวย”สื่อ”ยังไม่ตายหลอกกันทำไม วอน ดร.ธร ร่วมพิสูจน์ยันเป็น”แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ”

เมื่อเวลา 10.00 น.(27 พฤศจิกายน 2560) ที่ศูนย์วิจัยชุมชนมัจฉาสตรีท เลขที่ 18 หมู่ 1 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน ต.สะพลี อ.ปะทิว ประมาณ 30 คน นำโดย นายนรงค์ ม่วงทองคำ ผู้จัดการโรงรับจำนำปูสะพลี นายพรชัย พรหมรักษ์ เลขานุการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชาวประมง อ.ปะทิว นายสมโชค พันธุรัตน์ อุปนายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดชุมพร นายสุริยา ล้อมทอง เหรัญญิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชาวประมง อ.ปะทิว ต.สะพลี นายพนา คงมั่น รองประธานวิสาหกิจชุมชนชาวประมง อ.ปะทิว นายบุญสืบ พรหมเสนา ชาวประมงอวนปู และ นายสุนันท์ เบญจรัส ชาวประมงพื้นบ้าน ต.สะพลี ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดโครงการสร้างบ้านปลาทรงไทยด้วยศาลพระภูมิเก่าและซากรถเมล์ ซากรถยนต์ บริเวณเกาะริปู ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร


ประมงพื้นบ้านโต้..!! สื่อใหญ่บิดเบือน “ซากรถผีสิง ศาลพระภูมิเก่า” ว่าเป็นขยะ! จนถูกจี้เลิกโครงการฯ ท้าพิสูจน์เป็น "แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ"

นายพรชัย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2556 โดยเริ่มแรกเป็นแค่กิจกรรมเล็กๆ ที่ชาวประมงพื้นบ้านร่วมกันทำซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐหลายหน่วยงาน รวมทั้ง นายนักรบ ณ ถลาง อดีตนายอำเภอปะทิว (ปัจจุบันเป็นนายอำเภอเมืองชุมพร) ที่เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดดังกล่าว โดยนำเอาปัญหาการนำศาลพระภูมิเก่าที่ถูกทิ้งอยู่ข้างถนนซึ่งเป็นทัศนียภาพที่ไม่น่าดู มารวมกับปัญหาเรืออวนลาก อวนรุนขนาดใหญ่ เข้ามาทำประมงใกล้ชายฝั่ง สร้างความเสียหายให้อุปกรณ์จับปลาของชาวประมงพื้นบ้าน หลังจากนั้น ก็พบว่าศาลพระภูมิเก่าที่ถูกนำลงไปทิ้งใต้ทะเล กลายเป็นปะการังเทียมที่มีสัตว์น้ำเพิ่มจำนวนขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ชาวประมงมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่า เช่น บางรายเคยมีรายได้ว่าละ 300-400 บาท ก็กลายเป็นวันละ 1,000 บาท บางรายที่ขยันมากก็เคยได้รายได้สูงถึงวันละ 10,000 บาท

นายพรชัย กล่าวต่อไปว่า จนในปี 2558 ชาวประมงเห็นว่าบางจังหวัดในภาคใต้ตอนล่างมีการนำซากรถบัส ซากโบกี้รถไฟลงไปวางใต้ทะเล เพื่อทำปะการังเทียมด้วย จึงมีการขอซากรถบัส ซากรถยนต์จากหน่วยงานต่างๆ มาทิ้งลงไปเพื่อให้กลายเป็นปะการังเทียมบ้าง โดยเอาศาลพระภูมิเก่า ซากรถยนต์ ซากรถบัส มากองไว้ชั่วคราวบริเวณท่าเทียบเรือสะพลี ก่อนทยอยนำลงไปทิ้งในทะเลปีละไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง และมีการจัดพิธีเปิดกิจกรรมอย่างเป็นทางการปีละ 2-3 ครั้ง ส่วนที่มีข่าวว่าทางการจะขอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมนี้ โดยอ้างว่าเป็นการสร้างขยะใต้ทะเล ชาวประมงทุกคนไม่เห็นด้วยและรู้สึกตกใจมาก จึงอยากให้นักวิชาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาสอบถามชาวประมงตัวจริงเสียงจริงก่อน อย่าเพียงแค่อ่านจากข่าวที่สื่อบางสำนักเสนอด้วยข้อมูลที่บิดเบือนว่าหาดสะพลีเป็นหาดผีสิงเพราะศาลพระภูมิเก่าเหล่านี้เท่านั้น ปะการังเทียมที่เคยนำมาทิ้งก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ก็ทำจากปูนซิเมนต์ และศาลพระภูมิเก่าเหล่านี้ก็ทำจากปูนซิเมนต์เหมือนกัน เพียงแต่เปลี่ยนรูปทรงเท่านั้น

นายนรงค์ กล่าวว่า หากบอกว่าศาลพระภูมิเก่าและซากรถที่นำลงไปทิ้งเพื่อให้กลายเป็นปะการังเทียมเหล่านี้เป็นขยะ ก็อยากถามว่า แล้วที่ จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส ที่มีการนำซากโบกี้รถไฟ และซากรถเมล์ ลงไปวางใต้ทะเลเพื่อให้เป็นปะการังถือเป็นขยะใต้ทะเลด้วยหรือไม่ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จังหวัดชุมพรเคยน้ำเรือหลวงปราบลงไปทำปะการังใต้ทะเลแถวเกาะง่ามน้อย ถือเป็นขยะทะเลด้วยหรือไม่ ถ้าเป็นขยะก็ต้องเอาขึ้นจากทะเลให้หมด ในฐานะที่ทำอาชีพชาวประมงมาทั้งชีวิต จึงไม่เห็นด้วยหากทางการจะสั่งห้ามไม่ให้จัดกิจกรรมนี้ต่อไป ส่วนที่บอกว่าหาดสะพลีกำลังกลายเป็นหาดผีสิงเพราะศาลพระภูมิเก่าเหล่านี้ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ถ้ามีผีป่านนี้ทุกคนคงขอเลขท้ายสองตัวกันหมดแล้ว ก่อนหน้าทำกิจกรรมสร้างบ้านปลาด้วยศาลพระภูมิเก่า พวกเราต้องออกไปจับปลาไกลๆ แต่หลังจากทำกิจกรรมนี้ พวกเราก็ไม่ต้องออกเรือไปจับปลาไกลๆ อีกแล้ว


ประมงพื้นบ้านโต้..!! สื่อใหญ่บิดเบือน “ซากรถผีสิง ศาลพระภูมิเก่า” ว่าเป็นขยะ! จนถูกจี้เลิกโครงการฯ ท้าพิสูจน์เป็น "แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ"
ประมงพื้นบ้านโต้..!! สื่อใหญ่บิดเบือน “ซากรถผีสิง ศาลพระภูมิเก่า” ว่าเป็นขยะ! จนถูกจี้เลิกโครงการฯ ท้าพิสูจน์เป็น "แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ"

ประมงพื้นบ้านโต้..!! สื่อใหญ่บิดเบือน “ซากรถผีสิง ศาลพระภูมิเก่า” ว่าเป็นขยะ! จนถูกจี้เลิกโครงการฯ ท้าพิสูจน์เป็น "แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ"
ประมงพื้นบ้านโต้..!! สื่อใหญ่บิดเบือน “ซากรถผีสิง ศาลพระภูมิเก่า” ว่าเป็นขยะ! จนถูกจี้เลิกโครงการฯ ท้าพิสูจน์เป็น "แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ"

นายบุญสืบ กล่าวว่า ชาวประมงทุกคนไม่เคยกลัวผี แต่ที่พวกเรากลัวก็คือนักข่าวที่นำเสนอข่าวผิดๆ โดยไม่เคยเข้ามาสอบถามชาวประมงจริงๆ เลย ถ้าสงสัยเรื่องไหนขอให้นักข่าวเข้ามาสอบถามชาวประมงเองดีกว่า อย่าเสนอข่าวสร้างความเสียหายให้ชาวประมงพื้นบ้านซึ่งมีอาชีพหาเช้ากินค่ำแบบนี้อีกเลย อยากฝากถามว่า “นักข่าวเหล่านั้น ยังไม่ตายแล้วทำไมมาหลอกกันซะเอง แบบนี้แหละที่น่ากลัวยิ่งกว่าผีซะอีก” เท่าที่ดูจากข่าวเปรียบเหมือนว่า นักข่าว เขียนข่าวขึ้นเอง อยากถามว่า “พวกเราชาวประมงพื้นบ้านหาเช้ากินค่ำไปทำอะไรให้ท่านนักข่าวเหล่านั้นไม่พอใจหรือ” อย่าให้พวกเราหมดทางทำมาหากินเลย

นายสุริยา กล่าวว่า หลังจากจัดกิจกรรมอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2558 มีปลาหายาก เช่น วาฬบรูด้า ฉลามวาฬ เข้ามาในพื้นที่บ่อยขึ้น ซึ่งมีผลต่อการท่องเที่ยวด้วย ทำให้คุณภาพชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านดีขึ้น เพราะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น จากที่เคยมีรายได้หลักร้อยต่อวัน กลายเป็นหลักพัน โครงการดีๆ ที่ชาวบ้านช่วยกันทำขึ้นมาแบบนี้ ถ้าภาครัฐไม่ให้การสนับสนุน ก็ขอร้องว่าอย่าคัดค้านหรือสั่งห้ามเลย และขณะนี้กำลังประสานของซากโบกี้รถไฟที่ปลดระวางแล้วมาทำปะการังเทียมบ้าง

นายสุนันท์ กล่าวว่า ตนทำอาชีพประมงไดหมึก ผลประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการสร้างบ้านปลาด้วยศาลพระภูมิเก่า ซากรถยนต์ ซากรถบัส มีเยอะมากจนไม่สามารถบรรยายได้หมด ไม่ได้มีผลเสียตามที่เป็นข่าว ที่ระบุว่าสิ่งเหล่านี้เป็นขยะใต้ทะเล และอาจจะขอให้ยกเลิกนั้น ขอบอกว่าถือเป็นความคิดที่ผิดมากๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้วงจรชีวิตของสัตว์ทะเลมีการแพร่ขยายพันธุ์ได้มากขึ้น เมื่อมีปลาเล็กปลาน้อยเข้ามาใช้เป็นที่อยู่อาศัย ก็จะมีปลาใหญ่ตามเข้ามา หากหน่วยงานใดที่อยากทราบว่าโครงการนี้มีผลดีอย่างไร ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาหาตน และตนพร้อมที่จะพาลงไปดูใต้ทะเลตลอดเวลา

นายสมโชค กล่าวว่า หลังจากนำศาลพระภูมิเก่า ซากรถบัส ซากรถยนต์ รูปปั้นจ่าเฉย ซากสัญญาณไฟจราจร ลงไปวางใต้ท้องทะเลมีเสียงตอบรับจากนักดำน้ำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาก บางครั้งก็มีนักดำน้ำชาวต่างชาติมาร่วมนำสิ่งเหล่านี้ลงไปวางใต้ท้องทะเลด้วย และมีหลายองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญขอเข้ามาร่วมกิจกรรมด้วย โดยมีการวางแผนกันอย่างชัดเจนว่าจะจัดกิจกรรมปีละกี่ครั้ง จะมีการจัดที่พักลักษณะโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ จนทำให้เกิด “โรงรับจำนำปูสะพลี” เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมและศึกษาเรียนรู้ด้วย ดังนั้น หากทางการจะสั่งให้ยกเลิกการจัดโครงการนี้ต่อไป ก็อยากขอให้ส่งนักวิชาการเข้ามาสอบถามและหาข้อมูลจากชาวประมงจริงๆ และขอให้ทบทวนให้ดีก่อน ถ้านักวิชาการตรวจสอบแล้วสรุปว่าโครงการนี้ไม่ดี พวกเราก็พร้อมที่จะยกเลิก

 

“เวลาภาครัฐนำซากโบกี้รถไฟ ซากเครื่องบิน ซากเรือรบใหญ่ๆ ที่ปลดระวางแล้วลงไปวางใต้ทะเล เพื่อต้องการให้เป็นปะการังเทียม ถามว่าเหตุใดจึงทำได้ แต่พอชาวบ้านจะทำบ้างด้วยการร่วมแรงร่วมใจของชาวประมงเองเพื่อร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์แล้วใช้ประโยชน์ควบคู่กันไป หากหน่วยภาครัฐบางหน่วยไม่เห็นด้วย หรือพอมีสื่อที่นำเสนอบิดเบือนแล้วก็ไปเต้นตามโดยที่ไม่พิจารณาจากข้อเท็จจริง หากเป็นเช่นนี้พวกเราไม่เห็นด้วย จึงขอวิงวอนไปยังนักวิชาการประมงทะเล เช่น รองศาสตราจารย์ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาร่วมพิสูจน์หากข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ” นายสมโชคกล่าว

ภาพ/ข่าว พงศกร นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชุมพร