- 20 ธ.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
-- จากการที่เทศบาลตำบลเหมืองใหม่ ร่วมฉลอง 100 ปีชาตกาล ครูเอื้อ สุนทรสนาน” เพื่อเป็นการฉลองตามที่องค์การยูเนสโกได้เชิดชูให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านวัฒธรรมดนตรีไทยสากลปี 2553 และเนื่องในโอกาสครอบรอบ 100 ปีตั้งแต่กำเนิดจนสิ้นอายุขัยของครูเอื้อ โดยร่วมกับมูลนิธิสุนทราภรณ์ สร้างศาลครูเอื้อบริเวณหน้าวัดราษฎร์บูรณะ ซึ่งเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ครูเอื้อเรียนหนังสือ และได้ตั้งชื่อ "ถนนครูเอื้อสุนทรสนาน" ความยาว 3.5 กิโลเมตร ผ่านหน้าบ้านซึ่งเคยเป็นบ้านเกิด และผ่านยังวัดราชบูรณะไป รวมทั้งมีโครงการจัดทำป้ายชื่อถนนและชื่อซอยแยกย่อย เป็นชื่อเพลงของวงสุนทราภรณ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเหมืองใหม่จึงจัดรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตั้งชื่อซอยแยก ผลปรากฎว่าชาวบ้านเลือกเพลงตั้งชื่อซอยรวม 18 ซอย เช่น ซอยกลิ่นราตรี,ซอยลานจันทร์รัญจวน, ซอยอุษาสวาท, ซอยลมพาฝัน, ซอยฝั่งน้ำ. ซอยสายธาร, ซอยจำได้ไหม, ซอยฟ้างามยามค่ำคืน เป็นต้นโดยเฉพาะซอยพรานทะเลและ ซอยขอให้เหมือนเดิม ซึ่งมีชาวบ้านเลือกมากที่สุดจนต้องมีการจับฉลาก
--นางจุฬารัตน์ ฉ่ำทรัพย์ ปลัดเทศบาลตำบลเหมืองใหม่ กล่าวว่าครูเอื้อ สุนทรสนาน เกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2453 ที่ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา มีผลงานมากมาย จนองค์การยูเนสโกได้เชิดชูให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านวัฒธรรมดนตรีไทยสากลปี 2553สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสมุทรสงคราม ดังนั้นเนื่องในโอกาส 100 ปีชาตกาล เทศบาลตำบลเหมืองใหม่ จึงร่วมกับมูลนิธิสุนทราภรณ์ จึงเชิดชูครูเอื้อสุนทรสนาน โดยสร้างศาลครูเอื้อ ตั้งชื่อ "ถนนครูเอื้อสุนทรสนาน" รวมทั้งตั้งชื่อซอยแยกย่อย เป็นชื่อเพลงของวงสุนทราภรณ์ โดยได้จัดประชุมประชาคมให้ชาวบ้านเลือกชื่อเพลงกันเอง
--สำหรับครูเอื้อสุนทรสนาน เดิมชื่อ "ละออ" เป็นบุตรนายดี สุนทรสนาน กับนางแส สุนทรสนาน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 3 คน คือหมื่นไพเราะพจมาน หรืออาบ สุนทรสนาน, นางปาน แสงอนันต์ และเอื้อ สุนทรสนาน กระทั่งปี พ.ศ.2460 ได้ย้ายไปศึกษาต่อด้านดนตรีที่กรุงเทพ ต่อมาปี 2467 ได้เข้ารับราชการในกองเครื่องสายฝรั่งหลวง กรมมหรสพ กระทรวงวัง และในปี 2475 ครูเอื้อได้แต่งทำนองเพลง"ยอดตองต้องลม"เป็นเพลงแรกในชีวิตการประพันธ์และร้องเพลง"ในฝัน" ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง"ถ่านไฟเก่า"เป็นเพลงแรก ต่อมาในปี 2482 ได้เข้ารับราชการตำแหน่งหัวหน้าวงดนตรีกรมโฆษณาการ ก่อนจะตั้งชื่อวงดนตรีว่า "สุนทราภรณ์" หลังตกหลุมรักกับ อาภรณ์ กรรณสูต ด้วยการนำนามสกุลของตนเองไปรวมกับชื่อของคนรัก
--ครูเอื้อมีผลงานร่วมกับครูเพลงท่านอื่นๆ มากกว่า 2,000 เพลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพลงที่ครูเอื้อประพันธ์ทำนองและบรรเลงเพลง หรือขับร้องคู่กับศิลปินหญิงในวง เช่น เพลงขอให้เหมือนเดิม, นางฟ้าจำแลง, พรานทะเล, และกังหันต้องลม เป็นต้น นอกจากนี้ครูเอื้อ สุนทรสนาน ยังมีผลงานเพลงเกี่ยวกับเทศกาลต่างๆของไทย เช่น สวัสดีปีใหม่, รำวงเริงสงกรานต์, รำวงลอยเรือ, รำวงลอยกระทง กระทั่งปี พ.ศ.2522 ครูเอื้อป่วยเป็นมะเร็งปอดด้านขวาและมีอาการทรุดหนักเรื่อยมา ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2524 รวมอายุ 71 ปี 2 เดือน 11 วัน
ภาพ/ข่าว นพพร บุญทนาวงศ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สมุทรสงคราม




