คนโกงกลับอยู่ดี!! "โครงการผลิตปุ๋ยหมักโบกาฉิ" โกงกันทุกขั้นตอน ชาวบ้านโดนข่มขู่ อยู่อย่างหวาดผวาด (รายละเอียด)

     เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 60 นางประจบ นิดแสวง ผู้แทนแรงงานชาวบ้านพร้อมตัวแทนชาวบ้าน หมู่ 6 บ้านธรรมวงค์ ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน(ลาว)นำป้ายข้อความว่า "ปุ๋ยไม่มีคุณภาพใครจะซื้อ" "นายกจ๋าโกงกินแม้กระทั่งปุ๋ย" "ปปช.อยู่ไหน" "ผู้ว่าตรวจสอบด่วน" เขียนขึ้นด้วยปากกาหมึกสีน้ำเงินติดประจานที่บริเวณโรงปุ๋ยริมถนนสาย 1268 สายห้วยมุ่น-ภูสอยดาว โรงผลิตปุ๋ยหมักโบกาฉิ ภายใต้โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน ให้การสนับสนุนโดยคสช.กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณและกรมส่งเสริมการเกษตร นำมาติดยังกระสอบปุ๋ยพร้อมถือป้ายชูเป็นการแจ้งบอกให้คนทั่วประเทศทราบว่า "ปุ๋ย"ในโครงการดังกล่าวไม่ได้คุณภาพ เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะคสช. รับรู้ว่าในพื้นที่มีการโกงกินแม้กระทั่งปุ๋ย ถามถึงปปช. หน่วยงานในการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติอยู่ไหน รวมถึง นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เข้ามาตรวจสอบการทุจริตในครั้งนี้ด่วน เรียกร้องให้หน่วยงานกลางของจังหวัดอุตรดิตถ์เข้าตรวจสอบ นำตัวคนผิดมาลงโทษเนื่องจากไม่ไว้ใจหน่วยงานภายในอำเภอน้ำปาด พื้นที่ดูแลรับผิดชอบโครงการนี้โดยตรง โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยที่นายปรีชา สุทนต์ เป็นนายอำเภอน้ำปาด และ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ปัจจุบันเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย

     ในโรงปุ๋ยเป็นอาคารปูนยาว10เมตรด้านนอกโรงปุ๋ยสร้างเป็นเพิงไม้มุงด้วยหญ้าคาบางส่วนยาวกว่า 10 เมตรนำปุ๋ยที่ไม่ได้คุณภาพบรรจุลงในกระสอบพลาสติกจำนวนกว่า 2,000 กระสอบมาวางเรียงกันเป็นชั้นตรวจสอบในถุงปุ๋ยที่เพิงไม้มุงหญ้าคามีแต่แกลบตรวจสอบโรงปุ๋ยในอาคารพบถุงปุ๋ยถูกวางเรียงเป็นชั้นเช่นกันมีกลิ่นเน่าเหม็นฟุ้งทั้งโรงเก็บพบถุงปุ๋ยหลายใบมีคลาบน้ำไหลเยิ้มออกมาตรวจสอบถุงปุ๋ยพบน้ำไหลเยิ้มปุ๋ยจับตัวเป็นก้อนขนาดใหญ่และพบบางถุงมีแต่แกลบซึ่งไม่ได้มาตราฐานเหมือนปุ๋ยทั่วไป

     จากนั้น นางประจบตัวแทนแรงงานชาวบ้านพร้อมด้วยชาวบ้าน นำป้ายข้อความดังกล่าวทั้งหมดกองรวมกันแล้วจุดไฟเพื่อเผาทิ้ง หลังเสร็จสิ้นการนำมาเป็นสัญญลักษณ์ชูให้เห็นถึงการผลิตปุ๋ยที่ไม่มีคุณภาพมีทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นของโครงการโดยไม่มีการจัดทำประชาคมภายในหมู่บ้านก่อนที่จะเริ่มโครงการ อ้างว่าเป็นโครงการเร่งด่วนจำเป็นต้องรีบทำการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ ด้วยการเรียกรับเงินเปอร์เซ็น20% การจ้างแรงงานและการจ่ายค่าแรงงงานให้กับผู้เข้าทำงาน มีการเบิกจ่ายค่าจ้างแรงงานเท็จให้กับผู้ที่ไม่ได้เข้าทำงานหรือบัญชีผี วิธีการและขั้นตอนการทำปุ๋ยรวมถึงส่วนผสมไม่ตรงตามหลักของวิธีการทำปุ๋ยจริง ทั้งมูลสัตว์แกลบ รำละเอียด จุลินทรีย์ กากน้ำตาลและน้ำสะอาด ส่วนผสมไม่ได้มาตราฐานผิดเพี้ยนไปหมดทุกอย่าง ไม่ครบตามสูตรของการทำปุ๋ย ทำให้ปุ๋ยที่ผลิตออกมา รวมถึงการคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยความชื้นและการหมักไม่ได้มาตราฐาน และไม่สามารถนำไปเป็นปุ๋ยเพื่อโรยใส่แปลงเกษตรตามที่ต้องการได้ อาทิ ใส่แปลงสับปะรดห้วยมุ่นที่กำลังปลูกกันอยู่ทุกวันนี้ เพราะชาวบ้านไม่กล้าซื้อ เนื่องจากเป็นปุ๋ยที่ไม่ได้คุณภาพมีแต่แกลบแถมเน่าเหม็น

     นางประจบ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ได้รับความเห็นชอบจากชาวบ้านให้เป็นตัวแทนในการตรวจสอบความไม่โปร่งใสของโครงการผลิตปุ๋ยหมักโบกาฉิภายใต้โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยเกษตรอำเภอน้ำปาดเป็นผู้จัดสรรโครงการมาให้ พร้อมงบประมาณจำนวน 2,500,000 บาท ไม่มีการประชาคมหมู่บ้านก่อนดำเนินการเพื่อถามความสมัครใจของชาวบ้านต้องการหรือไม่และมีผู้นำหมู่บ้านเป็นผู้รับโครงการดังกล่าวเข้ามาเมื่อนำเข้ามาแล้วพบเห็นความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นหลายอย่างตั้งแต่เรื่องการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ วัสดุภัณฑ์ทำหรับทำปุ๋ยรวมถึงค่าแรงที่ไม่เป็นธรรม คนที่ไม่ได้ทำงานแต่กลับมีรายชื่อรับเงินชาวบ้านหลายคนเห็นว่า เป็นคนกล้าพูดจึงนำเอกสารหลักฐานการทุจริตหลายอย่างมามอบให้เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยคาดหวังจากตนเองทุกอย่าง

     นางประจบกล่าวด้วยว่าหลังจากตรวจสอบและร้องไปยังหน่วยงานราชการหลายแห่ง อาทิ ปปช. ศูนย์ดำรงธรรม ร้องไปยังนายปรีชา อดีตนายอำเภอน้ำปาด และ นายพิพัฒน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เรื่องก็เงียบหายไป ชาวบ้านหลายคนที่นำเอกสารเรื่องการทุจริตมามอบให้ ต่างโดนข่มขู่ รวมถึงตนเองด้วย ถูกผู้นำท้องถิ่นกลั่นแกล้งและรังแก เบิ้ลรถมอเตอร์ไซด์หน้าบ้าน พร้อมยิงปืนข่มขู่ ขว้างปาด้วยขวดน้ำปลาแตกกระจายทั่วหน้าบ้าน พูดจาแจกของลับ ป่าเถื่อนเหมือนบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีกฏหมายคุ้มครอง คนในบ้านรวมทั้งเด็กต่างหวาดกลัวไปหมด หวั่นความไม่ปลอดภัยที่จะเกิดขึ้นต่อทรัพย์สินและร่างกาย แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำอยู่นอกบ้านยังไม่กล้าเข้า ต้องใช้กระถังมาวางในห้องนอนเพื่อขับถ่าย อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์  จันทน์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยหาคนมาคุ้มครองดูแลด้วย หากยังถูกกระทำย่ำยี่และไม่มีใครช่วย จะเข้ากรุงเทพบุกยังทำเนียบรัฐบาลตั้งโต๊ะแถลงข่าวให้ทุกคนรับรู้ทั่วประเทศ "ตายเป็นตาย"

     ข้าราชการหนึ่งในคณะกรรมการโรงผลิตปุ๋ยหมักโบกาฉิภายใต้โครงการ9101 ไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล กล่าวว่า ยอมรับมีการทุจริตเกิดขึ้นจริงจากโครง การนี้และมีเอกสารที่ร้องเรียนเรื่องการทุจริตรั่วไหลจากอำเภอไปถึงผู้นำหมู่บ้าน ส่งผลทำให้ผู้นำหมู่บ้านไม่พอใจและประกาศข่มขู่หากใครเป็นพยานในเรื่องนี้ถึงตายแน่ รวมถึงข่มขู่นางประจบผู้แทนแรงงานชาวบ้านที่จัดทำเอกสารการทุจริตร้องไปยังหลายหน่วยงานทั้งอำเภอและจังหวัด แต่สุดท้ายท้ายคนต้านทุจริตโดนรังแกนี่หรือประเทศไทย ที่จะปราบคอรัปชั่นคนโกงกินบ้านเมือง คนดีแทบจะเอาชีวิตอยู่ในหมู่บ้านไม่ได้ถูกข่มขู่สารพัด

     คนในหมู่บ้านทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เตรียมจัดประชุมครม.สัญจร ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และพื้นที่ จ.สุโขทัย อยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี จัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการทุจริตปุ๋ยหมักโบกาฉิ ภายใต้โครงการ9101 ในพื้นที่ตำบลห้วยมุ่น เอาคนผิดมาลงโทษตามกฏหมาย และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ใช้ ม.44 ปลดผู้นำท้องถิ่น ลุแก่อำนาจใช้ปืนยิงข่มขู่ชาวบ้าน ใช้ขวดน้ำปลาขว้างหน้าบ้านและแจกของลับ รวมถึงข่มขู่ลูกบ้านที่ออกมาแฉการทุจริตปุ๋ยครั้งนี้ คนเช่นนี้ไม่เหมาะสมเป็นผู้นำอีกต่อไปแล้ว หากไม่ปลดออกจากตำแหน่งผู้นำแล้วชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการย้ายทหารยศ ร.ต. สังกัดกองทัพภาคที่ 3 ออกจากพื้นที่ด้วย เพราะชาวบ้านเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตครั้งนี้ ร่วมกับผู้นำหมู่บ้าน ข้าราชการหนึ่งในคณะกรรมการกล่าว

ภาพ/ข่าว  สมภพ  สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.อุตรดิตถ์