สุดโฉ่งฉ่าง !! อัยการจังหวัดอุบล สั่งฟ้อง 12 สจ. หลังแจ้งความผู้ว่าฯผิดคน งานนี้โดน 3 ข้อหาหนักเซ่นไม่ดูตาม้าตาเรือ

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 อุบลราชธานี – อัยการจังหวัดอุบลฯสั่งฟ้อง 12 ส.จ.อุบลฯในความผิดฐาน แจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาต่อพนักงานสอบสวน, หมิ่นประมาท และซ่องโจร กรณีนายสมศักดิ์ จังตระกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ส.ภ.เมืองอุบลฯ เพื่อดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯจำนวน 12 คนตกเป็นจำเลยประกอบด้วย 1.นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อายุ 41 ปี  2.นายฐิติวัฒน์ โควสุรัตน์ อายุ 34 ปี  3.นายประสิทธิ์ อาศัยบุญ อายุ 55 ปี  4.นายสุทัศน์ วะสุรีย์ อายุ 41 ปี  5.นายสุวทิน ดอกรัก อายุ 53 ปี 6. นายณรงค์ บุญญะศรี อายุ 40 ปี 7.นายประจักษ์ แสงคำ อายุ 52 ปี  8.นายเพรียวสุริยา สายใจ อายุ 47 ปี  9.นางพิมพกาญจน์ พลสมัครอายุ 54 ปี 10.นายจรัญ ฟองงาม อายุ 54 ปี 11.นายนฤชิต ผ่าโผน อายุ 56 ปี และ 12.นายอำนวย ทุมมากรณ์ อายุ 65 ปี  โดยอัยการจังหวัดได้พิจารณาจากสำนวนการสอบสวน และพยานหลักฐานตามสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ส.จ.ทั้ง 12 คนต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีในความผิดฐาน ร่วมกันแจ้งความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญาต่อพนักงานสอบสวนโดยรู้ว่า โดยรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแต่แจ้งให้ทราบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นเพื่อจะแกล้งให้บุคคลอื่นต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นและซ่องโจร โดยนำผู้ถูกกล่าวทั้ง 12 คนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีตามคดีหมายเลขดำที่ 3025/2560 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2560

สุดโฉ่งฉ่าง !! อัยการจังหวัดอุบล สั่งฟ้อง 12 สจ. หลังแจ้งความผู้ว่าฯผิดคน งานนี้โดน 3 ข้อหาหนักเซ่นไม่ดูตาม้าตาเรือ

สุดโฉ่งฉ่าง !! อัยการจังหวัดอุบล สั่งฟ้อง 12 สจ. หลังแจ้งความผู้ว่าฯผิดคน งานนี้โดน 3 ข้อหาหนักเซ่นไม่ดูตาม้าตาเรือ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีในขณะนั้นได้( ปัจจุบันเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น)เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีกับสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯ 12 คน ในความผิดฐาน ร่วมกันแจ้งความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญาต่อพนักงานสอบสวนโดยรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแต่แจ้งให้ทราบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นเพื่อจะแกล้งให้บุคคลอื่นต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นและซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137,172,173,174,181,326  ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย ทั้งในฐานะส่วนตัวและในฐานะตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งพฤติการณ์ในการกล่าวโทษ เนื่องจากเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2560 บุคคลทั้ง 12 คนได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลฯให้ ดำเนินคดีกับผู้แจ้งในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตอันเป็นเท็จ

สำหรับสาเหตุที่นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีในขณะนั้น เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลฯเนื่องจากถูกกลุ่ม ส.จ.ทั้ง 12 คนแจ้งความว่าเป็นผู้ที่ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ซึ่งไม่ใช่นายสมศักดิ์ จังตระกุล เนื่องจากผู้ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ที่มีปัญหาเป็นนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯในขณะนั้น (ปัจจุบันเป็นอธิบดีกรมที่ดิน)

ด้านนายประสิทธิ์ อาศัยบุญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี(ส.อบจ.)เขต 5 อำเภอเมือง เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากศาลปกครองอุบลราชธานี มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560ได้ พิพากษาให้เพิกถอนข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีโดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่ประกาศใช้ข้อบัญญัติดังกล่าว  แต่ทั้งนี้ คำบังคับของศาลไม่กระทบถึงกิจการหรือโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว

หลังจากนั้นทางกลุ่ม ส.จ. 12 คนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีในขณะนั้น(ปัจจุบันเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น) ที่ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 และนายสุทัศน์ เรืองศรี รักษาการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ที่ลงนามในข้อบัญญัติ และได้ออกประกาศองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เรื่อง ประกาศใช้ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีโดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558  ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต 

สุดโฉ่งฉ่าง !! อัยการจังหวัดอุบล สั่งฟ้อง 12 สจ. หลังแจ้งความผู้ว่าฯผิดคน งานนี้โดน 3 ข้อหาหนักเซ่นไม่ดูตาม้าตาเรือ

สุดโฉ่งฉ่าง !! อัยการจังหวัดอุบล สั่งฟ้อง 12 สจ. หลังแจ้งความผู้ว่าฯผิดคน งานนี้โดน 3 ข้อหาหนักเซ่นไม่ดูตาม้าตาเรือ

สุดโฉ่งฉ่าง !! อัยการจังหวัดอุบล สั่งฟ้อง 12 สจ. หลังแจ้งความผู้ว่าฯผิดคน งานนี้โดน 3 ข้อหาหนักเซ่นไม่ดูตาม้าตาเรือ

ต่อมากลุ่ม ส.จ.ทั้ง 12 คนได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่านายสมศักดิ์ จังตระกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้เป็นผู้ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ดังกล่าว จึงได้เดินทางมาถอนแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลฯเนื่องจากเป็นการแจ้งความผิดคน ซึ่งเป็นเหตุให้ถูกนายสมศักดิ์ จังตระกุลแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนและอัยการจังหวัดมีความเห็นสั่งฟ้อง ส.จ.ทั้ง 12 คน ต่อศาลจังหวัดอุบลฯซึ่งเบื้องต้น ส.จ.ทั้ง 12 คนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ขอยื่นประกันตัวต่อศาล เพื่อปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

ด้านนางพิมพกาญจน์ พลสมัคร ส.อบจ.เขต 2 อ.ม่วงสามสิบ เปิดเผยว่าเกิดความผิดพลาดเนื่องจากได้รับข้อมูลจากผู้อำนวยการกองกิจการสภา อบจ.อุบลฯว่าผู้ที่ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 คือนายสมศักดิ์ จังตระกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ จึงเป็นที่มาของการเข้าแจ้งความของกลุ่ม ส.จ.เมื่อมาทราบข้อเท็จจริงจึงได้พากันเดินทางมาถอนแจ้งความในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯซึ่งไม่มีเจตนาที่จะทำให้ผู้ว่าสมศักดิ์ เสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้กลุ่ม ส.อบจ.ทั้ง 12 คนได้ทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทางราชการ ติดตาม ตรวจสอบการใช้งบประมาณของ อบจ.ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตมาโดยตลอดแต่ก็ต้องมาตกเป็นผู้ต้องหา ถึงแม้นจะเสียกำลังใจแต่ก็พร้อมที่จะสู้คดีจนถึงที่สุด

ภาพ/ข่าว จิรวัฒน์ บุญจอง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดอุบลราชธานี

สุดโฉ่งฉ่าง !! อัยการจังหวัดอุบล สั่งฟ้อง 12 สจ. หลังแจ้งความผู้ว่าฯผิดคน งานนี้โดน 3 ข้อหาหนักเซ่นไม่ดูตาม้าตาเรือ