- 31 ธ.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเย็นวันที่ 30 ธันวาคม 2560 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พร้อมคณะฯ เดินทางมาจังหวัดแพร่เพื่อเส้นทางสัญจรของพี่น้องประชาชนช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางด้วยความปลอดภัย มาดูพื้นที่ด้วยตนเอง การเดินทางในเทศกาลปีใหม่ของประชาชนทำให้เส้นทางต่างๆ ในภาคเหนือมีการจราจรหนาแน่นต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 28-30 ธันวาคม มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุจำนวนมากบนทางหลวงหมายเลข 11 ช่วงระหว่าง จ.อุตรดิตถ์ เด่นชัย และทางหลวงหมายเลข 101 ช่วง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ไป อ.เวียงสา จ.น่าน และเส้นทางหมายเลข 103 มีการเกิดอุบัติเหตุมากด้วยเช่นกัน จุดแรกเข้าตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนของกรมทางหลวง บริเวณสามแยกสนามบิน โดยมีนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้การต้อนรับ จากนั้นได้เดินทางตรวจสอบเส้นทางหลวงหมายเลข 101 จาก อ.เมืองแพร่ – อ.เด่นชัย และ หมายเลข 11 จาก อ.เด่นชัยไปจนถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งพบปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะการทำสัญญาณเตือนภัยยังไม่เพียงพอ และผู้ใช้รถใช้ถนนขับรถด้วยความเร็วสูง เนื่องจากถนนมีความพร้อม โดยเร่งให้แก้ไขโดยเร่งด่วนให้ทันการเดินทางกลับของประชาชน จึงเป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งที่ผ่านมา
ทางนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.กระทรวงคมนาคม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีฝนตกลง ประกอบช่วงขาลงเขาไปทางเขาพลึง ได้ติดตั้งแอนตี้สกิ๊ด เพื่อเตือนและเพิ่มความหนืดบนผิวถนน และสิ่งที่ดำเนินการไปแล้วคือ ป้ายกำหนดความเร็ว อย่างไรก็ตามประชาชนยังใช้ยังใช้ความเร็วเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งกรมทางหลวง ตำรวจ ช่วยกันลาดตระเวนและติดสัญญาณไฟวาบๆ เพื่อเป็นการปรามการใช้ความเร็วเกินกำหนด ในช่วง อ.เด่นชัยมาถึงเขาพลึงมีโค้งจำนวนมาก ได้สั่งการให้ติดป้ายกำหนดความเร็ว และไฟวาบเพิ่ม ตั้งแนวบอริเออร์กั้นทางโค้งจะมีไฟวาบๆ คล้ายรันเวย์สนามบิน เพื่อการเดินทางขากลับได้รับความปลอดภัยมากขึ้น ประการต่อมามีการทาสีแอนตี้ สกิ๊ดบนผิวจราจรเพิ่มในทางโค้ง ประการที่ 3 คือจะต้องทำการซ่อมทางเป็นเรื่องระยะยาว คือการเปลี่ยนผิวจราจรให้มีหลุมบ่อหรือรอยปะน้อยที่สุด
นายอาคมกล่าวอีกว่า ในภาพรวมทั้งประเทศจากประวัติการเดินทางย้อนหลังไป 3 ปี พบว่ามีเส้นทางอันตราย 61 จุด ทางหลวงหมายเลข 11 นี้ก็คือหนึ่งใน 61 จำนวน 30 กม.ที่มีการเฝ้าระวังเข้มข้น ซึ่งในจุดเหล่านี้ ณ วันที่ 30 ธันวาคม มีผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย 2 ครั้งจากรถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุเองเนื่องจากเมาสุรา ไม่มีคู่กรณี ถือว่าสามารถควบคุมได้อย่างน่าพอใจ ส่วนพฤติกรรมของคนขับรถควรร่วมกันรณรงค์ต่อไป ก็ได้รับความร่วมมือจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้ความร่วมมือทั้งตำรวจ ทหาร ร่วมกันรณรงค์อย่างเต็มที่ทั้งเส้นทางหลักและในตรอกซอกซอย ในช่วงปีใหม่ทางกรมทางหลวงได้นำเครื่องจับความเร็วมาติดตั้งเน้นเป็นการปรามไม่ให้ขับเร็ว และขอความร่วมมือในการเดินทางจากนี้ไปควรเปิดไฟหน้าในเวลากลางวัน เพื่อการมองเห็นได้ชัดขึ้นจากสถิติในต่างประเทศเปิดไฟหน้าจะลดอุบัติเหตุได้ร้อยละ 30 และประการสุดท้ายคือ ผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัด ในรถตู้และรถบัสโดยสารสาธารณะมีการบังคับอยู่แล้วแต่รถส่วนบุคคลขอความร่วมมือในการใส่เข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง สำหรับผลของการควบคุมเข้มข้นในพื้นที่จังหวัดแพร่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุน้อยลง รายงานของคณะกรรมการควบคุมอุบัติภัยบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่จังหวัดแพร่ รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 31 ธันวาคม นายศราวุธ คชารักษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 7 ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ขับรถยนต์เก๋งชนกับรถยนต์เก๋งที่ กม. 45 ทางหลวงหมายเลข 1023 สายอ.ลอง – แพร่
ข่าว/ภาพ ธีรพงษ์ ธงออน ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดแพร่