- 15 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีคนร้ายอาวุธสงครามเอ็ม 16 กราดยิงนายสมศักดิ์ จิตติศักดิ์ อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 6/11 หมู่ 5 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช นางสุวณี อินทร์ธานี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/89 หมู่ 6 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราชในขณะเดินทางไปกรีดยางพาราในท้องที่ หมู่ 5 บ้านทุ่งบก ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเข้าไปจ่อยิงซ้ำที่ศรีษะอีกคนละ 1 นัดจนเสียชีวิตสุดสยองเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 11 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมา ในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทและขัดผลประโยชน์กับเพื่อนบ้านคนหนึ่ง รวมทั้งเรื่องชู้สาว เนื่องจากนางสุวณี อินทร์ธานี เพิ่งเลิกกับสามีคนที่ 2 และมาอยู่กินกับนายสมศักดิ์ จนกระทั้งมาถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว
(11 ม.ค.) ความคืบหน้า พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ และ พ.ต.อ.สมชาย ซื่อตรงต่อตระกูล สองรอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมชุดสืบสวน บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เดินทางลงพื้นที่ร่วมอำนวยการและสืบสวนหาสาเหตุการณ์สังหาร ที่แน่ชัด เนื่องจากเป็นคดีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุอย่างอุกอาจ เย้ายกฎหมายสะเทือนขวัญเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ชุดสืบสวน ภาค 8 ก็เดินทางลงมาร่วมคลี่คลายคดีเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.จุฬาภรณ์ ท้องที่เกิดเหตุ พบว่า พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว ผกก.ได้เรียกชุดติดตามคลี่คลายคดีมาประชุมติดตามความคืบหน้า โดยยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการสังหารที่แน่ชัดได้ แต่จากที่ให้น้ำหนักว่าเป้าสังหารของคนร้ายอยู่ที่นางสุวรณี เป็นหลักนั้นพบข้อมูลว่าเป้าสังหารที่แท้จริงน่าจะอยู่ที่นายสมศักดิ์ มากกว่า เพราะหากเป้าสังหารอยู่ที่นางสุวณี คนร้ายจะลงมือสังหารเมื่อไหร่ก็ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่นางสุวณี ออกไปกรีดยางพาราในสวนหน้าบ้านเพียงคนเดียวทุกคืน รวมทั้งในเส้นทางระหว่างบ้านของนางสุวณี กับย้ายนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นเส้นทางในสวนยางเปลี่ยวมาก ๆ คนร้ายสามารถลงมือสังหารในจุดใดจุดหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
โดย พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว กล่าวยอมรับว่าคดีไม่คืบหน้ามากนัก แต่จากการสอบสวนสืบสวนน่าเชื่อว่าคนร้ายมีการเตรียมการวางแผนมาเป็นอย่างดี และเป้าสังหารฝ่ายนายสมศักดิ์ น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า เพราะนายสมศักดิ์ เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกในข้อหาพยายามฆ่า และคู่กรณีก็อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่ในช่วงที่นายสมศักดิ์ ติดคุกคู่กรณีได้เสียชีวิต จึงมีเพียงลูกชายและลูกสาวของคู่กรณี ซึ่งไม่น่าจะมีขีดความสามารถในการบงการและว่าจ้างมือปืนมาสังหารนายสมศักดิ์ ได้ ปมสังหารจึงยังไม่ชัดเจนแต่ตำรวจกำลังตรวจเช็คว่านายสมศักดิ์ ไปพัวพันเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดหรือไม่
ทางด้าน พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ พร้อมด้วยชุดสืบสวน กก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนท่าเข้าอ่าวศรีเมือง ระหว่างบ้านของนายสมศักดิ์ กับบ้านของนางสุวณี พบรถยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่งเป็นรถยนต์สีขาว อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดเพราะอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นรถของคนร้ายที่เข้ามาวนเวียนก่อนลงมือก่อเหตุก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสิ่งที่ตำรวจหนักใจในคดีนี้เนื่องจากคนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มหลายสิบนัด แต่กลับไม่มีปลอกกระสุนปืนตกอยู่แม้แต่ปลอกเดียว จึงเชื่อว่าคนร้ายมีการวางแผนการสังหารมาเป็นอย่างดีและเลียนแบบมือปืนป๊อปคอร์น เมื่อครั้งการชุมนุมประท้วงของ กปปส. ที่ใช้ถุงใส่ป๊อปคอร์นรองรับปลอกกระสุนปืนเพื่อไม่ให้กระสุนปืนตกในที่เกิดเหตุทำให้การตรวจสอบติดตามเคลียร์คลายคดีของตำรวจเป็นไปอย่างยากลำบาก สำหรับอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนสงครามอื่น ๆ ยังมีอยู่ในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นจำนวนมาก เพราะเคยเป็นพื้นที่สีแดงเขตอิทธิพลของ ผกค. แม้จะมีการออกมามอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย แต่ยังมีการซุกซ่อนอาวุธปืนสงครามไว้เป็นจำนวนมาก โดยคดีฆ่ากันตายหลายคดีในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ มักจะนำอาวุธปืนสงครามมาใช้ที่สำคัญในคนพื้นที่จำนวนมากเดินทางไปเป็นการ์ด กปปส. จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ที่มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดีและเลียนแบบมือปืนป๊อปคอร์นใช้ถุงหรือกระสอบมาคลุมเก็บปลอกกระสุนปืนขณะยิงถล่ม ซึ่งตำรวจจะเร่งสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ต่อไป.
ภาพ/ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช