- 25 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ (25 ม.ค.61) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่ พบ นายชัยยา บุญสงค์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 บ้านโสกแดง หมู่ที่ 7 ต.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ ทำไร่ตามแบบทฤษฎีใหม่ เกษตรพอเพียง ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลุก เหลือค่อยเอาไปขาย พลิกผืนนาที่แห้งแล้ง กลายมาเป็น ธนาคารกินได้ ด้วยการปลูก พืชผักสวนครัว ปลูกแตงโม เลี้ยงปลา ทำการเกษตร ใช้ชีวิตสบาย ๆ สโลว์ไลฟ์ ได้ทุกวัน เกษตรกรยุค 4.0 ประสบความสำเร็จ พลิกความเชื่อที่ว่ายุคนี้ทำการเกษตรแล้วไม่เวิร์ค สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว กว่าเดือนละ 20,000 บาท เลยทีเดียว
นายชัยยา บุญสงค์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำนา หลังจากเสร็จสิ้นฤดูเก็บเกี่ยวข้าวพื้นที่นาก็ไม่ได้ทำอะไร ตนได้ดูทีวี เรื่องศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จึงได้นำมาปรับปรุงใช้ในครัวเรือนในชีวิตหรือแม้แต่การทำงาน และต้องมีหัวใจในการรักในการทำการเกษตรด้วย เมื่อก่อนนั้นหลายปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยปลูกพืชหลังการเก็บเกี่ยว มาปีนี้จึงคิดว่าจะลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ จึงหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์มากขึ้น แทนที่จะมาใช้ปุ๋ยเคมี ด้วยการปลูกพืชบำรุงดิน เช่น ปลูกแตงโม ถั่วเขียว ฟักทอง ถั่วฟักยาว คะน้า กะหล่ำ ผักกาด สลัด พริก มะเขือ เป็นต้น ที่ตนหันมาทำเกษตรพอเพียง ไร่นาสวนผสม เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งให้กับครอบครัว เป็นอาชีพเสริมหลังจากฤดูเก็บเกี่ยว เป็นอาชีพเสริมที่เรามีรายได้ต่อวันก็ประมาณ 600 บาท ซึ่งบ้านเราก็ถือว่าอยู่ได้แล้ว ตนเป็นผู้ผลิตแล้วส่งให้แม่ค้านำไปขายที่ตลาดต่อ
ซึ่งการปลูกผักปลอดสารพิษ แปลงผักของตนจะใช้ปุ๋ยคอก เพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี ตนใช้พื้นที่ในการทำการเกษตรหลังฤดูเก็บเกี่ยวโดยการปลูกผักอื่นๆประมาณไร่เศษๆ และในส่วนการทำไร่นาส่วนผสมมีพื้นที่ทั้งหมด 13 ไร่ ทำนา 3 ไร่ นอกนั้นจะปลูกกล้วย ปลูกยาพารา ปลูกพริก ปลูกมะเขือ ซึ่งเป็นพืชผักที่ปลูกไว้ในสวน และอีกส่วนหนึ่งได้ขุดบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งเป็นแหล่งอาหารไว้บริโภคในครัวเรือนโดยไม่ต้องไปหาซื้อปลาที่อื่น พืชผักต่างๆเราก็สามารถที่จะเก็บมากินเองได้ไม่ต้องไปซื้อเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอีกทางหนึ่ง
ภาพ/ข่าว สมศักดิ์ ตระกูลสุข ทีมข่าวสุรินทร์นิวส์
เรียบเรียง ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์