- 26 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
แกนนำชาวบ้านจาก 24 เครือข่ายอนุรักษ์ ประมาณ 50 คน ภายใต้การนำของนายทวี ภูมิสิงหราช ประธานชมรมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบจังหวัดพัทลุง เข้าพบนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ที่ห้องประชุมแพรทอง ศาลากลางจังหวัดพัทลุง พร้อมยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วโดยมีเจ้าหน้าที่ กอรมน. ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม สำนักชลประทานพัทลุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสังเกตการ กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านเดินหน้าคัดค้านมานานถึง 28 ปี จนเกิดความแตกแยกของชาวบ้านอย่างรุนแรง แต่ทางกรมชลประทานยังพยายามดำเนินการต่อ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมเวนคืนที่ดินในโครงการ
โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว ตั้งอยู่ที่บ้านเหมืองตะกั่ว ม.1 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เป็นโครงการของกรมชลประทาน สร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ในการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ อ.ป่าบอนและ อำเภอใกล้เคียง ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท โครงการดังกล่าวได้จัดทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2533 หลังจากทางกรมชลประทานเข้าไปจัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน มีชาวบ้านแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มเห็นด้วยและกลุ่มไม่เห็นด้วย หลังจากนั้นก็มีการยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อคัดค้านการก่อสร้างมาตลอด
นายสันติ ชายเกตุ ประธานชมรมรักษ์สิ่งแวดล้อมพัทลุง กล่าวในที่ประชุมว่ากลุ่มไม่เห็นด้วยอ้างว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากหลายชนิดอย่างเช่น นกเงือก เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ควรค่าที่จะอนุรักษ์ อีกทั้งยังมีอ่างเก็บน้ำป่าบอนที่สร้างแล้วเสร็จ อยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร นอกจากนั้นในพื้นที่ อ.ตะโหมด เป็นพื้นที่ติดกับ อ.ป่าบอนยังมีอ่างเก็บน้ำเขาหัวช้างอีกแห่งที่สามารถผันน้ำลงมาใช้ได้ ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะสร้างอ่างตัวใหม่ขึ้นมาในพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อปี 2557 แกนนำเครือข่ายอนุรักษ์ ได้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จนมีการเปิดเวทีไต่สวนสาธารณะขึ้น โดยมีนายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ เป็นประธาน ผลสรุปได้มีมติให้ยกเลิกโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเมืองตะกั่ว พร้อมกับให้จังหวัดพัทลุงร่วมกับ อ.ป่าบอน แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำใช้ ซึ่งในปัจจุบันปัญหาดังกล่าวก็หมดไป ด้วยการสร้างประปาภูเขา อีกทั้งจัดทำฝายเพื่อชีวิตคลอบคลุมในทุกตำบล ส่งผลให้ อ.ป่าบอนมีฝายเพื่อชีวิตมากที่สุด
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 ทางกรมชลประทานได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านอีกครั้ง ที่วัดหลักสิบ ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่มีชาวบ้านได้รับผลกระทบน้อย จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นว่ากรมชลประทานไม่เคารพต่อมติของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ร่วมกันสรุปครั้งที่ผ่านมา สร้างความแตกแยกให้กับชาวบ้านอย่างหนัก มีการลอบทำร้ายกันหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา มีการลอบสังหารสมาชิกเครือข่าย โดยใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่บ้านจนได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีการเสียชีวิต หากไม่มีการแก้ปัญหาให้สิ้นสุดเกรงว่าความแตกแยกของชาวบ้านจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตามทางด้านนายกู้เกียรติ ฯ ผวจ.พัทลุง ได้กล่าวภายหลังจากรับหนังสือว่า จากนี้ไปจะเร่งสรุปถึงรายละเอียด หลักการและเหตุผลในการคัดค้าน ความจำเป็นของโครงการ ผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน จากนั้นก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนผู้ใดที่เห็นด้วยกับการสร้างอ่างเก็บน้ำดังกล่าว ก็ให้ส่งหนังสือมาเป็นลายลักษณ์อักษร ทางจังหวัดจะพิจารณาให้ความกระจ่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งแกนนำทั้งหมดต่างก็พอใจแยกย้ายกันกลับ
ภาพ/ข่าว ลัดดา มณีรัตน์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.พัทลุง