EEC สรุปประชุมสัมนา ปลัด อปท.เครือข่าย 3 จังหวัด ภาคตะวันออก ปชช.มีรายได้เพิ่มและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

        ในวันนี้ 4 ก.พ.61 ตามที่ ดร.อภิชาติ ทองอยู่ เลขาธิการฟอรั่ม 21 (Forum21 st.co.) นำปลัดเทศบาลและปลัด อบต.ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) เข้าร่วมประชุมสัมนาเสริมสร้างความรู้เรื่อง EEC พร้อมนำเสนอแผนงานในการพัฒนาพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับ EEC ในหัวข้อ 5 ปัญหาหลัก 5 ประโยชน์หลักและ 5 สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นวิทยากรสร้างความรู้ความเข้าใจในท้องถิ่นถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตามแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ต่อยอดความสำเร็จจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ที่ได้ดำเนินการมากว่า 30 ปีที่ผ่านมาโดยสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ) มีเป้าหมายหลักในการอบรมเสริมสร้างความรู้ให้กับปลัดเทศบาลและปลัด อบต.ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) เพื่อเป็นวิทยากร EEC ให้ความรู้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและและประชาชนในท้องถิ่นโดยทั่วไป ระหว่างวันที่ 3-4 ก.พ.61 ณ สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี ดร.กิตติเกษม ชำนิไกร ผู้ประสานงานจังหวัดระยอง ดร.สมโภชน์ กวักหิรัญ ผู้ประสานงาน จังหวัดฉะเชิงเทรา

 

     นางอุมารักษ์ สุวรรณมณี ผู้ประสานงาน จังหวัดชลบุรี ตลอดจนผู้เข้าร่วมประชุมสัมนาและคณะกรรมการ CAEC ได้สะท้อนปัญหาและความต้องการพื้นฐานหลัก 5 อย่างของ 3 จังหวัด พอสรุปได้ดังนี้

      จังหวัดชลบุรี ด้านปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้แก่ 1.โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค 2.การอพยพแรงงานต่างด้าว/ปัญหาอาชญากรรม 3.ปัญหาขยะ สิ่งแวดล้อม 4.ถนนมอเตอร์เวย์รถติดเข้าออกด่านเก็บเงิน/รถติดในถนนคู่ขนานเชื่อมมอเตอร์เวย์ 5.ถนนเสียหายจากรถบรรทุก ด้านประโยชน์ที่จะได้รับได้แก่ 1.ความเจริญแบบใหม่ สะดวกสบายขึ้น 2.รายได้ชุมชนเพิ่มขึ้น/รายได้จากการท่องเที่ยว 3.ได้งบประมาณพัฒนาท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 4.มูลค่าทรัพย์สิน/ที่ดิน เพิ่มขึ้นมากขึ้น

     สิ่งที่จะเกิดการปลี่ยนแปลงได้แก่ 1.สังคมชนบทเปลี่ยนเป็นสังคมเมือง 2.วิถีชุมชนเปลี่นไปในทางที่ดีขึ้น ความเป็นอยู่ดีขึ้น 3.การบังคับใช้กฎหมายเปลี่ยนไปตาม พ.ร.บ.EEC 4.เปลี่ยนเป็นสังคมดิจิตอล บาร์โค้ด ออนไลน์ อีแบงค์กิ้ง และ 5.รูปแบบการจัดการท้องถิ่นเปลี่ยน รวดเร็วทันใจประชาชน

จังหวัดฉะเชิงเทรา ปัญหาจะเกิดขึ้น ได้แก่ 1.ปัญหาการจัดการขยะ 2.ปัญหาจราจรติดมาก 3.ปัญหาโรงงานก่อมลพิษ(โรงงานอยู่ภายนอกอุตสาหกรรม) 4.ปัญหาผังเมืองยังไม่ชัดเจน 5.ปัญหาระบบราชการ การปกครองท้องถิ่น ประโยชน์ที่จะได้รับ 5 ประการได้แก่ 1.การคมนาคมที่ดีขึ้น 2.ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น 3.มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น 4.ระบบสาธรณูปโภคดีขึ้น 5.สังคมมีความเป็นเมืองมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลง 5 ประการที่จะเกิดขึ้นได้แก่ 1.มีการจัดการระบบขยะที่ดี 2.มีการจัดระบบการจราจรที่ดีขึ้น 3.การแก้ไขปัญหามลพิษจากโรงงานดีขึ้น 4.มีการจัดการผังเมืองที่ดีและ 5.การให้บริการระบบราชการที่สะดวกรวดเร็วขึ้น

        ส่วนจังหวัดระยอง ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น 5 ประการได้แก่ 1.โรงงานในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดต้องการใช้กฎหมายใหม่หรือไม่ 2.โรงงานผลิตใช้หุ่นยนต์แล้วคนจะไปทำงานที่ไหน/(ตอบความเติบโตของเมือง โรงงานเพิ่มมากขึ้น/ต้อง การแรงงานเพิ่มขึ้ง) 3.อุตสาหกรรมมาบตา พุด ยังมีมลพิษจะแก้ไขอย่างไรให้ดีขึ้น 4.ระยองจะพัฒนาการเกษตรให้ทันสมัยได้อย่างไร และ 5.พื้นที่เดียวกันฝั่งถนนด้านหนึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเจริญ อีกฝั่งหนึ่งเป็นเกษตรกรรมจะทำอย่างไรให้เจริญสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นในจังหวัดระยอง คือ 1.การกำจัดขยะออกจากพื้นที่ 2.การป้องกันน้ำท่วม 3.การดูแลสุขภาพอนามัยคนระยอง 4.นววัตกรรมใหม่ของเกษตรกรระยอง และ 5.การเปลี่ยนแปลงผังเมือง (ตามเขตที่กำหนด) ด้านประโยชน์ที่จะได้รับจาก EEC ได้แก่ สร้างความเจริญให้กับจังหวัดระยอง ทั้งด้านสาธารณูปโภค การคมนาคม การพัฒนาศักยภาพคนในพื้นที่ให้มีงานทำ และมีรายได้เพิ่มขึ้น นั่นคือผลสรุปถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงและผลประโยชน์ที่ประชาชนที่จะได้รับ เพื่อเป็นแนวทางของ EEC ที่จะดำเนินการใน 3 จังหวัด จากผู้เข้าร่วมประชุมสัมนาและคณะกรรมการ CAEC ที่ได้สะท้อนปัญหาและความต้องการหลัก 5 อย่าง ในครั้งนี้

โดยมี ดร.เพ่ง บัวหอม ปลัดเทศบาล ตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประธานคณะกรรมการประสานงานพัฒนาท้องถิ่นระเบียงเศรษฐกิจ ภาตะวันออก 3 จังหวัด และนายสาคร โพธิ์คำ ผู้ประสาน CAEC เป็นผู้ประสานการจัดประชุมสัมนาในวันนี้

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล/นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี