- 07 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ขนมลา เป็นขนมพื้นบ้านของภาคใต้ ถือเป็นขนมที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นขนมที่ใช้ในงานบุญสำคัญ ทั้งชาวไทยพุทธ เช่น งานบุญเดือนสิบ และชาวไทยมุสลิม เช่น งานบุญ 40 วัน งานนุหรี งานรายา แต่ปัจจุบันจะไม่นิยมทำกันอย่างแพร่หลายเหมือนในอดีต ส่งผลให้เด็กหรือเยาวชนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักกับขนมลากันมากนัก นอกจากนั้น ยังเป็นขนมที่ต้นทุนต่ำ และเก็บไว้กินในครัวเรือนได้นาน เพื่อเป็นการลดช่วยรายจ่ายด้วย
นางสาวรอฮานี อาแวกาจิ ผอ.กศน.อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ได้เห็นถึงความสำคัญถึงคุณค่าของขนมลา จึงให้ครู กศน.ตำบลลงพื้นที่สำรวจชาวบ้านในชุมชนที่สนใจกว่า 20 คน เพื่อเข้ามาร่วมเรียนรู้การทำขนมลาโบราณ จาก นางสาวสุภาพร ไชยมล ชาวหมู่ที่ 5 บ้านนาควน ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ เนื่องจากเป็นผู้ที่ทำขนมลาสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ที่สำคัญคือ ใช้วัตถุดิบน้อย โดยประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม แป้งมันสำปะหลัง 2.5 กรัม น้ำตาลทราย 6 กรัม และน้ำสะอาด 1 ถ้วย
ขณะเดียวกัน ขั้นตอนในการทำขนมลาก็ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากการนำน้ำสะอาด เทผสมกับน้ำตาลทราย แล้วคนให้ละลาย จากนั้น เทแป้งข้าวเจ้า และแป้งมันสำปะหลัง ลงไปนวดให้เข้ากัน ก่อนหมักทิ้งไว้ 40 นาที แล้วนำมานวดอีกครั้ง หลังจากนั้น นำไปใส่ในกะลามะพร้าว ที่เจาะรูที่ก้น เพื่อให้แป้งไหลผ่านได้ แล้วนำไปร่อนในน้ำมันที่ร้อนปานกลาง โดยใช้ไม้ไผ่ขนาดเท่ากับไม้ตะเกียบ ยาว 1 ฟุต เคาะที่กะลา เพื่อให้แป้งไหลลงอย่างช้าๆ ก่อนนำขนมลามาพับเป็นชิ้นๆ แล้วยกไปพักเพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จสิ้น
นางสาวเบ็ญจพร แข็งแรง ครู กศน.ตำบลตะเสะ กล่าวว่า ขนมลา คือ ขนมที่บรรพบุรุษ ใช้กะลามะพร้าวมาเจาะรู เพื่อใช้เป็นภาชนะในการใส่แป้ง เพราะสมัยก่อนไม่มีภาชนะที่เป็นพลาสติก หรือสแตนเลส เหมือนเช่นปัจจุบันนี้ จึงมีความเชื่อกันว่า ชื่อของขนมลา ก็มาจากกะลานั่นเอง โดยขนมลาเหล่านี้ชาวบ้านจะนำไปฝากขายตามร้านค้าในชุมชน และที่ตลาดประชารัฐ ในราคา 2 ชิ้น 5 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากๆ แถมยังอร่อยมากด้วย ทำให้ขณะนี้ชาวใต้สามารถกินขนมลาได้ตลอดทั้งปี นอกเหนือไปจากในช่วงงานบุญ
ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตรัง




