ทำเอาปรี๊ด..ไม่ยิงไม่ได้ ! ผู้กองปืนโหดสารภาพ สาเหตุยิงเพื่อนร่วมงาน โดนดูถูกว่าตนใกล้จะเกษียณอายุราชการแล้ว "ยังไม่อะไรเลย" ..!??

วันที่ 8 กุมพันธ์  61 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี  พร้อมด้วย พนักงานสอบสวน หลังจากได้ทำการสอบปากคำ ร.ต.อ.สมสดี  สุทธิประภา  อายุ58 ปี  รองสว.ป.รฟ.หนองคาย กก.5 บก.รฟ.  ซึ่งอาวุธปืนขนาด.38 มม. แบบ ปืนลูกโม่ ขนาด .38 มม. ยิง ร.ต.อ.สมชาย  สีดายา อายุ47ปี  รองสว.ส.รฟ.หนองคาย กก.5 บก.รฟ.   และ ร.ต.ท.ชาญชัย  ภาคอินทรีย์  อายุ 61 ปี อดีต ตำรวจรถไฟ ที่บ้านพักเลขที่ 307   ซอยหนองเหล็ก 3 ชุมชนหนองเหล็ก หมู่9 ในเขตเทศบาลนครอุดรธานีเสียชีวิต ทั้ง 2 คน ถึงสาเหตุ

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี  เปิดเผยว่า ในตอนนี้ได้ทำการสอบปาก ร.ต.อ.สมสดี  สุทธิประภา และ นายสัญญา  พันธุ์สุภา  อายุ50 ปี  อยู่บ้านเลขที่434  หมู่4 ตำบลโนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นนักการภารโรง ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดย ร.ต.อ.สมสดี  สุทธิประภา ได้สร่างเมา ก็ได้ยอมรับ เป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืน ก่อเหตุ ยิง ร.ต.อ.สมชาย  สีดายา และ ร.ต.ท.ชาญชัย  ภาคอินทรีย์  เจ้าของบ้าน

 

โดย ร.ต.อ.สมสดี  สุทธิประภา  ให้การรับสารภาพว่า ได้นั่งดื่มเหล้า ที่บ้านเกิดเหตุ ด้วยกัน4 คน ผู้ตายได้พูดจาเหน็บแนม ว่าตนเอง ใกล้จะเกษียณอายุราชการแล้ว ยังไม่มีอะไรเลย และพูดจาดูถูก ต่างๆ นานๆ ทำให้เกิดความโมโหขึ้นมา ประกอบตนเอง อยู่ในอาการเมาด้วย จึงได้ขี่รถสามล้อเครื่องกลับไปบ้านพัก ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไม่ไกลนักเพื่อ ไปเอาอาวุธปืนมายิง ร.ต.อ.สมชาย  สีดายา จำนวน2นัด และยิง  ร.ต.ท.ชาญชัย  ภาคอินทรีย์  จำนวน1 นัด ซึ่งตนก็อยู่ในที่เกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ก่อนที่ตำรวจเข้ามาทำการจับกุมตัวดังกล่าว 

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา  กล่าวว่า ผู้ต้องหา มีนิสัย เป็นคนอารมณ์ร้าย ประกอบกับถูกเพื่อนร่วมงานพูดจาดูถูก ด้วย ทำให้เกิดโมโหโกรธ เป็นอย่างมาก และได้มีการดื่มเหล้าเข้าไป ทำให้ การควบคุมอารมณ์ หรือยั้งคิดไม่ได้ จึงได้กลับไปเอาปืนที่บ้านพัก มายิง ผู้ตายทั้งสองคน  โดยผู้ตายทั้งสองคนก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรมาก่อนกับผู้ต้องหา ซึ่งร.ต.อ.สมสดี  สุทธิประภา มักจะไปดื่มเหล้ากับ ผู้ตาย บ่อยครั้ง

 

 

อย่างไรก็ตามขอให้ตำรวจทุกคนควรรักษาและยึดถือศีลทั้ง 5  ข้อ และมีความ อดทนอดกลั้น ถ้ามีเรื่องอะไรหรือมีคำพูดใด ที่ทำให้กระทบกระเทือนจิตใจของตนเอง เพราะเราเป็นตำรวจและมีอาวุธปืนอยู่ในมือ ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ส่วนการดำเนินกับ  ร.ต.อ.สมสดี  สุทธิประภา  ได้แจ้งข้อหา คนผู้อื่นโดยเจตนา  โดยไม่มีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากผู้ต้องหา ไม่ต้องให้ไปทำแผน ซึ่งจะนำตัว  ร.ต.อ.สมสดี  สุทธิประภา  ไปทำการส่งศาลฝากขัง ในวันพรุ่งนี้ หรือ วันที่9 กุมภาพันธ์ ในช่วงเช้า ส่วนอาวุธปืนที่จะก่อเหตุนั้น ตรวจสอบแล้ว เป็นอาวุธปืนของหลวง  อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้น ในการสอบถามว่า ผู้บังคับบัญชา  ของ ร.ต.อ.สมสดี  สุทธิประภา ว่าทำเรื่องในการยืมอาวุธปืนหลวงไปใช้ ถูกต้องหรือไม่ ดังกล่าว

 

ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.อุดรธานี