ป.ป.ช.สตูลรับเรื่องคดีข้อพิพาท สภ.เกาะหลีเป๊ะกับรีสอทร์ดัง เตรียมแสวงหาข้อมูลเอกสารกองโต 4 แฟ้มใหญ่ภายใน 60 วัน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืบหน้ากรณีที่ทางด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร . หัวหน้าคณะทำงานทวงคืนวนอุทยานเกาะหลีเป๊ะ แถลงข่าวเรื่องยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ 6 จนท.รัฐทำเอกสารที่ดินเกาะหลีเป๊ะเป็นเท็จ พร้อมรื้อคดีเอาผิด 2 รีสอทร์ทันที

 

และเปิดเผยพบการจัดทำเอกสารเท็จเพื่อนำมาใช้ยืนยันความถูกต้องและความชอบธรรมในการออก ส.ค. 1 และ น.ส.3 แปลงที่ 29, 33 และ 39 ว่าเป็นการได้ ส.ค.1 มาโดยชอบ และออกเอกสาร น.ส.3 มาด้วยความถูกต้อง เพื่อใช้เป็นหลักฐานมิให้คณะกรรมการตรวจสอบที่ดินตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลทำการเพิกถอน น.ส.3 และยกเลิก ส.ค.1 ทั้ง 3 แปลงดังกล่าว อีกทั้งได้นำมาใช้เป็นพยานหลักฐาน เอกสารราชการ เพื่อใช้ยืนยันในการดำเนินการต่างๆ รวมตลอดถึงใช้อ้างอิงในการต่อสู้คดีชั้นพนักงานสอบสวนและศาล จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่คดีและความยุติธรรม

 


โดยผู้กระทำผิดในการจัดทำเอกสาร ประกอบด้วย นายฉลองศักดิ์ เชียรวิชัย อดีตปลัดอาวุโสเมืองสตูล ในฐานะประธานกรรมการ, นายณรงค์ เอกวงศ์ อดีตผู้ช่วยเกษตรจังหวัดฝ่ายวิชาการสตูล, นายสุริยา ลักษโณสุรางค์ อดีตพนักงานที่ดินจังหวัดสตูล, นายอัครพล เชียรวิชัย อดีต ปลัดอำเภอเมืองสตูล, นายกิจชัย หอพิสุทธิสาร อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล และนายจำลอง ศรีไชย อดีตเจ้าหน้าที่วิชาการเกษตรจังหวัดสตูล

ป.ป.ช.สตูลรับเรื่องคดีข้อพิพาท สภ.เกาะหลีเป๊ะกับรีสอทร์ดัง เตรียมแสวงหาข้อมูลเอกสารกองโต 4 แฟ้มใหญ่ภายใน 60 วัน

ในส่วนการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการรื้อฟื้นคดีอาญาที่ 688/2554 ของ สภ.เมืองสตูล ซึ่งทางพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2556 ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบพยานหลักฐานใหม่ คือ 1.การนำชี้พิกัดที่ดินที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ ที่เป็นเหตุสั่งไม่ฟ้องผิดสถานที่

 


2.แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2493, 2497, 2522, 2529, 2539 และ 2556 โดยผู้เชี่ยวชาญอ่านและแปลผลยืนยันว่า สถานที่เกิดเหตุและที่พนักงานสอบสวนอ้างถึงไม่มีคนอยู่อาศัย 3.การปฏิบัติหน้าที่มิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐในการออกเอกสาร ส.ค.1, น.ส.3 และแบบตรวจนับอายุมะพร้าวโดยมิชอบ

 


4.คำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขแดงที่ 7974/2540 และ 5697/2559 ระหว่างนางณัฐฎญา สมานุกร กับกรมตำรวจ ศาลพิพากษายกฟ้องกรมตำรวจ ด้วยเหตุกรมตำรวจได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้อย่างถูกต้อง 5.การยืนยันสถานที่เกิดเหตุ ตามคดีอาญาที่ สภ.เกาะหลีเป๊ะ ที่ 59/2559 คดีหมายเลขแดงที่ 481/2560 และคดีอาญาที่ 48/2560 ซึ่งยืนยันว่าผิดสถานที่เกิดเหตุจริง

 


จึงสรุปสำนวนมีความเห็นเชื่อว่ามีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแห่งคดี เชื่อว่า นายมานิต กวีรัตน์ ผู้ต้องหา ได้สร้างกำแพงบุกรุกเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาโดยมิชอบ จึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 688/2554 ลงวันที่ 30 พ.ย.2554 และผลการสอบสวนเพิ่มเติมไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณา

ป.ป.ช.สตูลรับเรื่องคดีข้อพิพาท สภ.เกาะหลีเป๊ะกับรีสอทร์ดัง เตรียมแสวงหาข้อมูลเอกสารกองโต 4 แฟ้มใหญ่ภายใน 60 วัน

สำหรับกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ออกเอกสาร ส.ค.1, น.ส.3 โดยมิชอบ และเจ้าหน้าที่ที่จัดทำแบบตรวจนับคำนวณอายุมะพร้าวอันเป็นเท็จ ซึ่งจากการสอบสวนมีพยานหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเป็นการกระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ โดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162 (1) และมาตรา 83

 


แต่เนื่องจากระยะเวลาผ่านมาเนิ่นนาน ทำให้คดีขาดอายุความ สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป จึงไม่สามารถดำเนินคดีจากผู้กระทำความผิดได้ แต่จากการสอบสวนมีพยานหลักฐานยืนยันการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่แน่ชัด จึงส่งสำนวนการสอบสวนให้ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาไต่สวนคดี ยืนยันว่ามีการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันจะนำไปสู่การยกเลิก ส.ค.1 และเพิกถอน น.ส.3 และยกเลิกแบบนับจำนวนอายุมะพร้าว และบันทึกการไม่เพิกถอนสิทธิในที่ดิน น.ส.3 ในแปลงเลขที่ 29, 33 และ 39 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

 

ล่าสุดทางด้านนายมงคล วุฒินิมิต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล กล่าวว่า ได้ให้นางสาวทิพภาพร ต้นจะโข พนักงานใต่สวนชำนาญการ นางสาวไพลิน ทองวงศ์ พนักงานไต่สวนชำนาญการ นายมังกร อิ่มประพันธ์ตรี พนักงานไต่สวนปฎิบัติการ สำนักงาน ปปช.สตูล ออกตรวจเอกสารทั้งหมด 4 แฟ้มที่ได้รับจากพนักงานสอบสวนฯและทางป.ป.ช.ส่วนกลางส่งมาเพราะเรื่องทั้งหมดเป็นปัญหาในพื้นที่จังหวัดสตูล

 

โดยกระบวนการดังกล่าวในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบเอกสารทั้งหมด 4 แฟ้มใหญ่และต้องใช้เวลาถึง 60 วัน แต่คาดว่าการทำงานอย่างจิงจังจะเสร็จเร็วเพราะตอนนี้เราขอเอกสารเพิ่มเติมทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตาและสำนักงานที่ดินจังหวัดไปแล้ว

 

นายมงคล วุฒินิมิต ผอ.ป.ป.ช.จ.สตูล กล่าวอีกว่า การพบอดีตเจ้าหน้าที่ราชการทั้ง 6 คนที่ผิดเรื่องเอกสารนั้น ทางเราจะดำเนินการเพียงแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะตามจริงทั้งหมดมี 12 คนพบเสียชีวิตไปแล้ว 4 คน และเพียง 8 คนโดยล่าสุดทางตำรวจแจ้งว่า พบผิด 6 คนแต่อย่างไรการทำงานในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบเอกสารข้อเท็จจริงต่อไปเพื่อเร่งสรุปผลส่งกลับไปให้ทางด้านคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่เพื่อดำเนินการต่อไป

 

ทั้งนี้การข่าวพบว่านายมานิตย์ กวีรัชต์ เจ้าของบันดาหยารีสอร์ทและบันดาหยาวิลล่า บนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เจ้าของพื้นที่ดินปัญหาข้อพิพาทระหว่างโรงพัก สภ.เกาะหลีเป๊ะ พื้นที่ทั้งหมด 18 ไร่เหลือเพียงครึ่งไร่ เตรียมเปิดบ้านแถลงข่าวยืนยันความบริสุทธิ์ใจอีกครั้งพร้อมทนายความและพี่น้องชาวเลในพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่อาศัยพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเกาะหลีเป๊ะในวันที่ 27 ก.พ.นี้และยืนยันคำเดิมต่อสู้จนทวงความเป็นธรรมให้กับตนเองและรีสอทร์ต่อไป


ป.ป.ช.สตูลรับเรื่องคดีข้อพิพาท สภ.เกาะหลีเป๊ะกับรีสอทร์ดัง เตรียมแสวงหาข้อมูลเอกสารกองโต 4 แฟ้มใหญ่ภายใน 60 วัน

ภาพ/ข่าว เอนก  ขันทสิกรรม ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสตูล