ลพบุรี ตามรอยอริยธรรมชมภาพวาดสีฝุ่นวัดถ้ำตะโก เทือกเขาสมอคอน ที่มีตำนานเล่าขานมานานหลายร้อยปี

สำหรับวัดถ้ำตะโก พุทธโสภา เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2446 โดยมีหลวงพ่อพุทธสราจารย์เภา ได้เดินธุดงค์มาปักกลดในพื้นที่บริเวณนี้ ต่อมามีพุทธศาสนิกชนที่เคารพเลื่อมใสในปฏิปทาของหลวงพ่อได้เริ่มก่อสร้างเป็นสำนักปฏิบัติธรรม เนื่องจากบริเวณวัดมีถ้ำอยู่ที่เชิงเขา และมีต้นตะโกขึ้นอยู่หน้าปากทางเข้าถ้ำเป็นจำนวนมาก จึงได้ตั้งชื่อว่า วัดถ้ำตะโก และใช้ชื่อพระประธานในพระอุโบสถเป็นคำสร้อย วัดจึงมีชื่อว่า "วัดถ้ำตะโก พุทธโสภา" โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2451 ซึ่งวัดจะตั้งอยู่บนเชิงเขา รอบๆ บริเวณวัดมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุม ให้ความร่มรื่น ที่วัดนี้มีถ้ำวิปัสสนา เรียกว่า "ถ้ำตะโก" เนื่องจากมีต้นตะโกอยู่หน้าถ้ำ (ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ซึ่งสิ่งที่จะพาชมในวันนี้ก็คือเจดีย์ตั้งอยู่บนเรือสำเภา ซึ่งเรียกว่า "พระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์" อยู่บนยอดเขา คล้ายกับที่วัดเขาวงกตแต่ที่นี่สร้างก่อน เนื่องจากวัดดังกล่าวเป็นวัดที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่ได้ทรงมาศึกษาศิลปวิทยา จนมาถึงสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

 

 

ซึ่งวัดแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจที่เราจะพาขึ้นไปดูคือ พระอุโบสถตั้งอยู่บนยอดเขากว้าง ๗ เมตร ยาว ๑๑ เมตร ก่อสร้าง เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๕๑ โครงสร้างของพระอุโบสถก่อด้วยอิฐถือปูน มีภาพเขียนสีภายใน ซึ่งเขียนจากสีฝุ่น เป็นรูป อสุภะ และเทพต่าง ๆ ที่เล่าถึงพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ที่กำลังพิจารณาตั้งแต่การเกิด การตายในแต่ละช่วงเวลา การลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึง และประเพณีต่างๆในอดีต ที่มีความสวยงามของภาพวาด ที่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มากและเจดีย์ที่อยู่บนอยู่เขา เห็นแล้วทราบได้ทันทีว่าวัดนี้เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน นอกจากพระอุโบสถและบนยอดเขาก็ยังมี วิหารเก่าแก่ขนาดไม่ใหญ่นักมีประประธานอยู่ภายในวิหาร และที่นี้มีภาพวาดฝาพนังที่สวยงามจากช่างชาวพม่าวาดไว้เพราะประเพณีต่างๆจะเป็นของพม่าเป็นส่วนใหญ่

 

เจ้าอาวาสวัดถ้ำตะโกพุทธโสภา บอกว่า ที่วัดแห่งนี้มีอริยธรรมของแต่ละยุคแต่ละสมัยรวมร่วมเอาไว้จากการก่อสร้าง และภายวาดที่อยู่ตามผาพนังของวิหาร และ พระอุโบสถหลังเก่า จึงเป็นอีกสถานที่ ที่มีความน่าสนใจศึกษาเรียนรู้ประวัติทางพระพุทธศาสนา ประวัติของช่างเขียนสีฝุ่น ที่ในปัจจุบันหาดูอยากมากแล้วจะหลงเหลือและอนุรักษ์อยู่ในจังหวัดลพบุรีก็จะเป็นที่วัดถ้ำตะโกแห่งนี้เท่านั้นเอง

 

ภาพ-ข่าว ชัชวาลย์  แก้วกระจาย  ทีมข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดลพบุรี