ปู่-ย่าจูงหลานชายวัย 8 ขวบ ร้องสื่อ หลังถูกเพื่อนในห้องเรียน ยิงหนังสติ๊กจนตาบอด โดยไร้การเหลียวแล แฉซ้ำ ผอ.รร. ขอไม่ให้แจ้งความ!? (ชมคลิป)

นายประเทือง และนางวิลาศ  จันทร์แต้ม  สองสามีภรรยา จูงเด็กชายภาณุวัฒน์   เปียแดง  หรือน้องโอม หลานชายวัย 8 ขวบ เด็กนักเรียนชั้น ป.2โรงเรียนบ้านไสกุน  ในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง  ในสภาพปิดตาด้านขวา เข้าร้องต่อสื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีที่หลานชายถูกเพื่อนในโรงเรียนเดียวกันใช้หนังสติ๊กยิงใส่จนทำให้ตาด้านขวาบอด ต้องเข้ารับการรักษามากว่า 1 เดือน  ในขณะที่ผู้ปกครองของคู่กรณีไม่ได้หันมาเหลียวแล ส่วนทางว่าที่ร้อยตรีศรัณยู  สุคนธมัท  ผู้อำนวยการโรงเรียน จ่ายค่าประกันอุบัติเหตุในโรงเรียนจำนวน  10,000  บาท  แล้วเงียบหายไปไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไรอีกเลย

 

นายประเทือง ฯคุณปู่ของน้องโอมเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่  11  มกราคม  2561 ที่ผ่านมา  ครูประจำชั้น ป.2  ได้สั่งให้นักเรียนนำหนังสติ๊กไปโรงเรียนเพื่อไปซ้อมยิงขวด แข่งขันกิจกรรมวันเด็กที่ทางโรงเรียนจะจัดขึ้นในวันที่ 13  มกราคม   แต่ตนไม่อนุญาตให้น้องโอมเอาไป เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเด็ก  จนกระทั่งในชั่วโมงแรกทางครูแจ้งมาว่าทางโรงเรียนได้นำน้องโอมไปโรงพยาบาล เนื่องจากเจ็บตาเพราะเล่นกับเพื่อนนักเรียนด้วยกัน  หลังจากตนตามหลานชายไปที่โรงพยาบาลป่าพะยอม ทางพยาบาลแจ้งว่าต้องส่งน้องโอมไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทลุงเป็นการด่วน เพราะกระจกตาและเลนส์ตาด้านขวาแตก  หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลพัทลุงส่งตัวน้องโอมไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (โรงพยาบาล มอ.)  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  น้องโอมเข้ารับการผ่าตัดถึง  2 ครั้ง  ล่าสุดน้องโอมสามารถไปโรงเรียนได้แล้วแต่มองเห็นเพียงข้างเดียวเท่านั้น ส่วนอีกข้างต้องปิดไว้ป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งทางย่าของน้องโอมต้องตามไปหยอดยาให้น้องโอมในตอนเที่ยงทุกวัน

นายประเทือง ฯยังกล่าวอีกว่าตั้งแต่เกิดเหตุมาทาง ผอ.โรงเรียนนำเงินประกันอุบัติเหตุในโรงเรียนมาให้จำนวน  10,000  บาท  นอกจากนั้นตนได้เรียกค่าเสียหายกับผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีจำนวน  400,000  บาท  แต่ทางคู่กรณีจ่ายได้เพียง 100,000  บาทเท่านั้น โดยเจรจาผ่านทาง ผอ.ศรัณยู  พร้อมกับนัดจ่ายเงินในวันที่  16  กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  แต่ก็ไม่มีการจ่ายแต่อย่างใดแม้ตนทวงถามไปหลายครั้งแต่ทาง ผอ.ยังเฉย  จนกระทั่งตนไปร้องกับนายสุนาจ  แก้วสุข  ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพัทลุงที่ 1  และรับปากจะเจรจาให้พร้อมกับให้เงินช่วยเหลือมาจำนวน  3,000  บาท  หลังจากนั้นตนทวงถามไปอีกหลายครั้ง  ทาง ผอ.สุนาจ ฯบอกว่าได้โทรทวงถาม ผ.ศรัณยู ฯผอ.โรงเรียนบ้านไสกุนหลายครั้ง  แต่ก็ยังเฉยไม่มีการตอบรับอะไรเลย

 

ในวันนี้นายประเทืองฯจึงตัดสินใจเข้าร้องสื่อพร้อมกับเข้าแจ้งความที่ สภ.ป่าพะยอม  และเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับหลานชาย  หลังจากทาง ผอ.โรงเรียนได้ขอร้องไม่ให้แจ้งความและไม่ให้ร้องเรียน  เนื่องจากเกรงว่าทางโรงเรียนจะได้รับความเสียหาย ซึ่งจากการห่วงชื่อเสียงโรงเรียนแต่ขณะเดียวกันหลานชายของตนจะตาบอดหรือไม่  ไม่รู้ว่าจะต้องรักษานานแค่ไหน  ทางแพทย์เองก็ไม่สามารถระบุได้  ตนก็ได้แต่พาหลานชายไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง  ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางทุกครั้ง   เพราะฉะนั้นหน่วยงานที่รับผิดชอบ  ต้องเห็นใจครอบครัวตัวเองด้วย

อย่างไรก็ตามการรักษาตาของน้องโอมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง  หลังจากนี้ต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ อีกครั้งในวันที่  2  มีนาคมที่จะถึงนี้  เพื่อติดตามผลจากการผ่าตัดเย็บกระจกและเลนส์ตาของน้องโอม  ทางปู่กับย่าเป็นห่วงมากอีกทั้งเป็นช่วงใกล้จะสอบปิดภาค  หวั่นน้องโอมมีเวลาเรียนไม่พอ หากขาดสอบเพื่อเข้ารักษาตา  ปู่กับย่าบอกว่ากลัวน้องโอมจะไม่ได้เลื่อนชั้น 

ภาพ/ข่าว   ลัดดา  มณีรัตน์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.พัทลุง