- 01 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
“นครศรีธรรมราช”เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่เมืองหนึ่งของไทย โดยในอดีตเมืองนครศรีธรรมราชมีเมืองบริวารมากถึง 12 เมือง จึงมีการเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เมือง 12 นักษัตร” และยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางพุทธศาสนา โดยมีพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยเฉพาะพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าที่เรียกว่า “พระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้าย” เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นสง่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วโลกมาอย่างยาวนานนับพันปี จนมีการเรียกนครศรีธรรมราชอีกชื่อหนึ่งว่า “เมืองพระ” มาจนถึงปัจจุบันนี้
นครศรีธรรมราช จึงมีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น ประเพณี มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ,วิสาขบูชา ,บุญสารทเดือนสิบ,ชักพระออกพรรษา,บุญให้ทานไฟ,ยกขันหมากปฐม เป็นต้น โดยเฉพาะประเพณี “มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ” เป็นประเพณีที่เก่าแก่ที่สุด โดยตามคติความเชื่อมแต่ครั้งโบราณที่ว่า “หากจะทำบุญหรือกราบไหว้บูชาให้ได้กุศลจริง ๆ จะต้องปฏิบัติหน้าพระพักตร์หรือใกล้ชิดพระพุทธองค์ให้มากที่สุด แต่เมื่อพระพุทธองค์เสด็จเข้าสู่ปรินิพพานแล้ว การได้ทำบุญกราบไหว้พระพุทธรูป พระเจดีย์ ยิ่งถ้าเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าก็เสมือนว่าได้ทำบุญหรือกราบไหว้บูชาอย่างใกล้ชิดกับพระพุทธองค์เช่นเดียวกัน”
ซึ่งงานประเพณี “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ได้ยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาจนเป็นประเพณีที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนครศรีธรรมราช และมีเพียงแห่งเดียวในโลกก็ว่าได้ แต่เดิมจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวัน “มาฆบูชา” และในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวัน “วิสาขบูชา” แต่ในระยะหลัง ๆ ชาวพุทธจะนิยมมาร่วมแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันมาฆบูชามากกว่าในวันวิสาขบูชา เพราะอยู่ในช่วงหน้าแล้ทำให้สะดวกในการเดินทางมาร่วมกิจกรรมและพุทธศาสนิกชนทั้งในและต่างประเทศ จังหวัด ฯ จึงเน้นการจัดงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันมาฆบูชาเป็นหลัก เรียกว่าประเพณี “มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ” มาจนถึงปัจจุบัน
ตามตำนานระบุว่าในราว พ.ศ. 1773 ในขณะที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราช และชาวเมืองนครศรีธรรมราชกำลังจัดเตรียมงานสมโภชองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ปรากฏว่ามีชาวเมืองอินทปัตย์ในเขมร ประมาณ 100 คน เดินทางด้วยเรือสำเภาเพื่อนำผ้าพระบฏ ซึ่งเป็นผ้าที่มีลายเขียนเกี่ยวกับพุทธประวัติมุ่งหน้าไปบูชาพระพุทธเจ้าที่เมืองลังกา แต่เรือสำเภาถูกลมพายุจนอับปางกลางทะเล ผ้าพระบฏและชาวอินทปัตย์รอดชีวิตประมาณ 10 คน ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นที่ชายหาดในอำเภอปากพนัง ชาวบ้านในอำเภอปากพนัง จึงนำผ้าพระบฏมาถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช จนมีมติร่วมกันว่าในการสมโภชพระบรมธาตุเจดีย์ในวันเพ็ญเดือน 3 หรือ “วันมาฆบูชา” จะมีแห่นำเอาผ้าพระบฏดังกล่าวไปถวายโอบห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า หรือ “ถวายเป็นพุทธบูชา” โดยชาวอินทปัตย์ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุจึงเกิดขึ้นและยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ประเพณี “มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุที่เมืองนคร”นับเป็นกิจกรรมที่ณรงค์ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้ตระหนักถึงความสำคัญในการจัดกิจกรรมต่าง ๆในวันมาฆบูชา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเพื่อจรรโลงสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีคุณธรรม จริยธรรมอย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมของชาวพุทธที่ปฏิบัติสืบทอดต่อเนื่องกันมายาวนาน ในปีนี้เป็นปีที่ 788 กำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ -1 มีนาคม 2561 โดยกำหนดแผนการจัดงานภายใต้แนวคิด “พระบรมธาตุ มรดกธรรม มรดกโลก” เชื่อมเส้นทางศรีวิชัยเปิดประตูประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กิจกรรมมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร เพื่อรณรงค์ให้พุทธศาสนิกชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวันมาฆบูชาและเพื่อจรรโลงสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ดีมีคุณธรรม จริยธรรมอย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม และสนองยุทธศาสตร์จังหวัดในประเด็นพัฒนาการท่องเที่ยวบนพื้นฐานธรรมะ ธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรม โดยใช้มิติทางศาสนาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน และเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของบรรพบุรุษชาวนครศรีธรรมราชที่สืบทอดมาช้านานให้คงอยู่สืบไป
สำหรับกิจกรรมภายในงานจะเป็นการนำเสนอความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรม อันเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่น่าสนใจ อาทิ กิจกรรมการกวนข้าวยาคู , กิจกรรมสวดมนต์ฟังธรรม เจริญจิตภาวนาถวายเป็นพุทธบูชา,กิจกรรมการสาธิตการเขียนผ้าพระบฏและนิทรรศการผ้าพระบฏ, การเขียนผ้าพระบฏถวายเป็นพระพุทธบูชา และพิธีสมโภชน์ผ้าพระบฏ นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรพื้นที่ตลาดริมน้ำเมืองลิกอร์ เพื่อให้เป็นโซนจำหน่ายขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง การสาธิตการผลิตและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้ อาทิ หนังตะลุง มโนราห์ และการสัมมนาทางวิชาการ การนำเสนอวันพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกต่อไป
โดยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 09.00 น. จะมีพิธีรับมอบและสมโภชผ้าพระบฏพระราชทานและผ้าพระบฏของหน่วยงานต่างๆ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ส่วนไฮไลต์ของงานจะอยู่ในวันที่ 1 มีนาคม 2561 ภาคเช้า เวลา 06.30 น. กิจกรรมทำบุญตักบาตร ณ บริเวณถนนราชดำเนิน ด้านหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เวลา 14.00-17.00 น. พิธีอัญเชิญผ้าพระบฏพระราชทาน จำนวน 5 ผืน ประกอบด้วย ผ้าพระบฏพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 , สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ในรัชกาลที่ 9 , สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในหลวงรัชกาลที่ 10 ,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และผ้าพระบฎของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รวมทั้งผ้าพระบฏจากอำเภอ และหน่วยงานต่าง ๆ จากศาลาประดู่หก ไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และประกอบพิธีถวายผ้าพระบฏแด่องค์กระบรมธาตุเจดีย์ ในเวลา 16.30 น. ณ บริเวณลานโพธิ์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จากนั้นในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไปจะมีพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์
ในช่วงการจัดงานประเพณี “มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ” ถือว่าเป็นประเพณีในทางพุทธศาสนาที่ยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมายาวนาน “หนึ่งเดียวในโลก” ในช่วงดังกล่าวจะมีชาวพุทธจากทั่วทุกสารทิศทั้งในและต่างประเทศนับแสนคนแห่เดินทางมาร่วมกิจกรรมและร่วมพิธีเวียนเทียนวันมาฆบูชา รอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งนับว่าเป็นช่วงที่มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดนครศรีธรรมราชมากที่สุดในรอบปีก็ว่าได้.
ขอบคุณภาพ/ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก/ไพฑูรย์ อินทศิลา /ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวีดนครศรีธรรมราช
ภาพประกอบเพิ่มเติมจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช




