- 13 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 13 มีนาคม 61 ที่ศาลากลางบ้าน บ้านโนนไชยพร หมู่ 9 ต.กุดจับ อ.กุดจับ นายรักษ์กล้า สถานสุข นักสืบสวนสอบสวนกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ลงพื้นที่ เพื่อทำการสอบปากคำชาวบ้านของบ้านโนนไชยพร หลังมีการร้องเรียนว่า โครงการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง ของนิคมสร้างตนเองห้วยหลวง อ.กุดจับ มีการทุจริตเงินในโครงการ ของปี 2559-2560 เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนปากคำชาวบ้าน ที่ทยอยเดินทางมาให้สอบปากคำ รวม 20 คน ซึ่งโครงการฯดังกล่าว ทางนิคมสร้างตนเองห้วยหลวง มีการดำเนินการ มอบเงินให้ชาวบ้าน โดยผ่านทางกลุ่มฝึกอาชีพจักรสานและทำไม้กวาด ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมา มีผู้เข้าร่วมอบรม ที่เข้าร่วมโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ผู้สูงอายุ บ้านโนนไชยพร ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560
โดยเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง ได้นำเงินดังกล่าวมาจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข้าอบรมโครงการสานตะกร้าจากเชือกฟาง และโครงการถักไม้กวาดดอกหญ้า โครงการละ 20 คน ใช้งบประมาณโครงการละ 4 หมื่นบาท มีวิทยากร 1 คน ซื้ออุปกรณ์การอบรมให้ อบรม 3 วัน สิ่งที่ได้รับคือ กินข้าวกลางวัน 3 มื้อ และตะกร้าจักสานเอง โดยมีการถ่ายรูปรับเงินคนละ 2,000 บาท ก่อนเก็บเงินคืน อ้างว่านำเงินเข้ากองกลางกลุ่ม เพื่อจัดซื้อวัตถุดิบมาใช้ทำกิจกรรม
นางสมหมาย ตีช่วย อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 9 บ้านโนนไชยพร ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 20 คน ผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรม เปิดเผยว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป สามีและลูกเสียชีวิต มีเงินรายได้หลักจากเงินผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท และเงินผู้มีรายได้น้อยเดือนละ 500 บาท โดยในปี 2559 เข้าทำการอบรมการทำไม้กวาด ในนิคมสร้างตนเองห้วยหลวง 3 วัน ได้ถือเงิน 2,000 บาท ถ่ายรูป ก่อนนำเงินคืนให้เจ้าหน้าที่ เมื่ออบรมเสร็จเจ้าหน้าที่นำเงิน 300 บาท มาให้ที่บ้าน เมื่อมีเจ้าหน้าที่มาสอบสวนปากคำ ก็ได้ให้การไปตามความเป็นจริง
ทางด้านนายรักษ์กล้า สถานสุข นักสืบสวนสอบสวนกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 4 ให้ข้อมูลว่า ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่านิคมสร้างตนเองห้วยหลวง ทุจริตเงินจากเงินอุดหนุน โครงการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง ปี 2559-2560 โดยนำเงินดังกล่าวมาทำโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ผู้สูงอายุ ฝึกอบรมการสานตะกร้าและทำไม้กวาด ซึ่ง ฝึกอบรมการสานตะกร้าและทำไม้กวาด
โดยเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ เพราะเงินดังกล่าว ต้องให้เงินสดกับชาวบ้านเป็นรายบุคคล แต่ทางนิคมฯ นำมาทำเป็นโครงการฝึกอาชีพ จึงได้มาสอบปากคำชาวบ้านว่าจะเข้าความผิดหรือไม่ โดยมีทั้งหมดประมาณ 2,500 คน 7 หมู่บ้าน 3 ตำบล เมื่อสอบสวนเสร็จจึงจะสรุปส่งให้คณะกรรมการฯพิจารณาว่า เข้าข่ายทุจริตหรือไม่ ซึ่งขณะนี้มีการลงพื้นที่ของ ป.ป.ท.อีกชุด ตรวจสอบโครงการที่นิคมสร้างตนเองดชียงพิณ อ.เมือง ด้วย คาดว่าในวันศุกร์ จะสรุปผลการสอบสวนในส่วนของทั้ง 2 นิคมฯได้ ดังกล่าว
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.อุดรธานี