ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่แก้ไขปัญหากรณีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี บริเวณพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยบ้านยาง จังหวัดนครราชสีมา โดย พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ได้กล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีชี้แจงให้ทราบว่า ในปี พ.ศ.2562 ที่จะถึงนี้สัญญาเช่าที่ดินของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งมีเนื้อที่ 6911 ไร่ ที่มีต่อกรมป่าไม้ในพื้นที่จะหมดลง และจะต้องต่ออายุการเช่าใหม่

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ทำให้ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ 887 ไร่ มีข้อพิพาทกับทางมหหาวิทยาลัยฯ ยังไม่มีข้อยุติ โดยวันนี้จึงได้พิจารณาว่าในพื้นที่ 887 ไร่ จะรวมอยู่ใน 6911 ไร่ เพื่อที่จะขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้เหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งก็ได้วิเคราะห์ปัญหาว่าถ้าเป็นราษฎรที่ได้เข้ามาอยู่ก่อน พ.ศ.2510 ซึ่งบริเวณนี้ยังไม่ได้ประกาศเป็นเขตป่า จะมีหลักฐานของทางราชการ ไม่ว่าจะเป็น ส.ค.1 หรือ นส.3 และก็ยังมีอีกประเภทคือตั้งแต่ พ.ศ.2510 ถึง 2532 ซึ่งจะเป็นเขตป่าแล้ว และเมื่อปี พ.ศ.2532 เป็นต้นมา ก็เกิดมหาวิทยาลัยฯ ขึ้น ซึ่งจะต้องใช้พื้นที่ป่าแห่งนี้ จึงต้องดูว่าในพื้นที่ 887 ไร่ ใครอยู่ก่อนใครระหว่างชาวบ้านกับมหาวิทยาลัยฯ  ผู้ตรวจการแผ่นดินได้สรุปปัญหาว่าใครมีเอกสารสิทธิ์ ทางเจ้าพนักงานที่ดินก็จะออกเอกสารสิทธิ์ให้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ ราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บางรายก็บอกว่าได้ยื่นเอกสารสิทธิ์แล้วแต่ถูกระงับ ซึ่งผู้ตรวจการฯ ได้ขอให้กลับไปยื่นสิทธิ์กับทางเจ้าหน้าที่ที่ดินอีกครั้งซึ่งถ้าถูกต้องใน 887 ไร่นี้ก็จะออกเอกสารสิทธิ์ให้ และที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์จากข้อมูลของเทศบาลตำบลสุรนารีที่ได้ให้ไว้มีจำนวนประมาณ 140 กว่าราย ก็ต้องมาแยกอีกว่าที่เข้ามาอยู่โดยชอบหรือไม่ชอบอย่างไร โดยมหาวิทยาลัยฯ ได้ออกข้อแนะนำในการออกคำวินิจฉัยว่าให้ทางมหาวิทยาลัยฯ ยื่นขอใช้ประโยชน์จาก 6911 ไร่ ให้หักออก 887 ไร่ และใน 887 ไร่นี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่มีเอกสารสิทธิ์กับส่วนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ โดยจะใช้เวลา 120 วัน ก็น่าจะสรุปผลได้

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

นายสุชาติ แพ่งจันทึก ชาวบ้านตำบลสุรนารี กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณท่านผู้ตรวจการฯ เป็นอย่างสูง ซึ่งท่านได้ให้ความสำคัญต่อปํญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน และมีข้อพิพาทซึ่งยาวนานมากว่า 30 ปี ซึ่งท่านฟันธงชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยฯ จะไม่เอาพื้นที่ตรงนี้แล้ว โดยจะตัดส่งให้กรมป่าไม้ ซึ่งได้รับความพึงพอใจจากชาวบ้านที่ได้ต่อสู้ในปัญหาสิทธิ์การครอบครองที่ดินแห่งนี้มากว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ชาวบ้าน ต.สุรนารี VS มทส. ถอยคนละก้าว หลังพิพาทที่ดินนานกว่า 30 ปี

ภาพ/ข่าว   อนุสรณ์ อชิโนปุญวัฒน์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครราชสีมา