- 19 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 19 มีนาคม นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดสั่งการให้เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบการใช้อาคารของโรงแรมทุกแห่งที่ได้รับใบอนุญาต กรณีเทศบาลมีหนังสือทักท้วงโรงแรมบางแห่ง ซึ่งเป็นอาคารควบคุมและผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงแรม 2547 แต่ไม่พบการยื่นแบบ อ. 6 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 โดยสั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายหากผู้ประกอบการฝ่าผืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นกรณีใช้อาคารผิดประเภท และหลังจากจังหวัดได้ข้อมูลจากเทศบาล จากนั้นจะนำไปพิจารณาจากหลักฐานเดิมที่ผู้ประกอบการได้ยื่นขออนุญาตตั้งแต่เริ่มต้นตามขั้นตอน หากพบว่ามีข้อบกพร่องก็จะต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ขอยืนยันว่าโรงแรมที่ขออนุญาตใหม่ในรอบ 5 ปี จะต้องยื่น อ.6 ทั้งหมด ส่วนกรณีที่ขออนุญาตหลังบังคับใช้ พ.ร.บ.โรงแรม 2547 จังหวัดจะหารือไปที่กรมการปกครองว่าการขออนุญาตมีระเบียบใดยกเว้นอ. 6 หรือไม่
“ ปัญหาที่ตรวจพบข้อบกพร่อง คาดว่าจะมีโรงแรมในอำเภออื่นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ อาจเข้าข่ายมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน สำหรับการต่อใบอนุญาตโรงแรมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะไม่มีการตรวจเอกสารหลักฐานย้อนหลัง แต่หลังจากพบว่ามีปัญหาก็จะต้องพิจารณาการต่อใบอนุญาตให้มีความรัดกุมมากขึ้น และ องค์กรปกครองท้องถิ่นที่อนุญาตให้สร้างอาคาร ก็ต้องตรวจสอบว่ามีอาคารแห่งใดที่เข้าข่ายควบคุมมีการใช้ผิดประเภทจากการขออนุญาตก่อสร้างตามแบบ อ. 1 “นายพัลลภ กล่าว
นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา ประธานกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม อ.เมือง กล่าวว่า หลังจากมีการตรวจสอบพบโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่ง ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่พบว่ามีปัญหาจากการใช้อาคารผิดประเภท และใช้เอกสารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ยื่นขอไม่ครบถ้วน พบว่าขณะนี้โรงแรมขนาดใหญ่บางแห่งมีคำสั่งให้ระงับการใช้อาคาร เนื่องจากขออนุญาตก่อสร้างเป็นที่พักอาศัยแต่นำไปประกอบกิจการโรงแรม ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่มีผลกระทบเป็นอย่างมาก
“ ล่าสุดผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ตั้งใจจะดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนการออกใบอนุญาตโดยเอกสารไม่ครบถ้วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ หากพบเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากก่อนออกใบอนุญาตจะต้องมีการตรวจสอบเอกสารและตรวจสภาพโรงแรม โดยคณะกรรมการหลายหน่วยงานหากพบว่าเอกสารไม่ครบถ้วนก็ต้องแจ้งผู้ประกอบการให้ทราบ สำหรับการสั่งให้ระงับการใช้อาคารจะทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมได้รับความเดือดร้อนจากการทำธุรกิจ และขณะนี้อยู่ในฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ มีผู้จองห้องพักล่วงหน้าจำนวนมาก ดังนั้นควรจะมีการผ่อนผันเพื่อระงับการใช้อาคารชั่วคราว 3 – 6 เดือน เนื่องจากกรณีนี้จะแตกต่างจากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมเถื่อนที่มีเจตนาไม่ยื่นขออนุญาตให้ถูกต้องในการประกอบธุรกิจ “ นายนิพนธ์ กล่าว
/////////////ภาพ/ข่าว พอใจ จันทนา ข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
ภาพ/ข่าว ยุทธนา จงประสบโชค




