- 23 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรเนติ วระนุช ผู้อำนวยการสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิง ทัศนา พิทักษ์สุธีพงศ์,รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงกรกรนก อิงคนินันท์ นักวิจัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์เซรั่มดูแลผิวจากสารสกัดโคนต้นหม่อน ภายใต้โครงการ Innovation Hubs เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศ ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 กลุ่มเรื่องสังคมผู้สูงอายุ (Ageing Society) หลังจากได้ทำการวิจัยและพัฒนาต่อยอดมาตั้งแต่ปี 2551 ที่ผ่านมา จนได้ทำการทดสอบทางคลินิกกับกลุ่มอาสาสมัครเบื้องต้นปรากฎว่า ได้ผลดี จึงได้ทำการเปิดตัวให้แก่ผู้ประกอบการ ได้สามารถมาติดต่อซื้อผลิตภัณฑ์ฯ เพื่อนำไปทำเป็นแบรนด์ของตนเอง
รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิง ทัศนา พิทักษ์สุธีพงศ์ นักวิจัย กล่าวว่า ปัจจุบันต้นหม่อน ในประเทศไทยหาได้ง่ายและมีหลายหน่วยงานได้นำผลิตภัณฑ์ทั้งใบ ผล นำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆจำนวนมาก แต่ทางนักวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ทำการศึกษาทุกส่วนของโคนต้นหม่อน แล้วปรากฏว่าโคนต้นหม่อน มีสรรพคุณในการนำมาเป็นผลิตทางเครื่องสำอางได้เป็นอย่างดี จึงได้ทำการทดลองกับโคนต้นหม่อน ที่มีอายุกว่า 15 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นต้นที่โตเต็มที่ จึงจะสามารถนำไปสกัดได้เป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างทั้ง เซรั่ม,บอดี้โลชั่น,โทเน้อ สำหรับเช็ดหน้า,อายเซรั่ม บำรุงรอบดวงตา,ครีมบำรุงสำหรับกลางวันและกลางคืน ซึ่งทุกตัวสามารถช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใสกระชับสดชื่นชะลอความแก่ได้
รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรเนติ วระนุช ผู้อำนวยการสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า หลังจากได้ทำการวิจัยและทำเป็นผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็จะดำเนินการยื่นจดอนุสิทธิบัตร พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอกชน ที่สนใจมาซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อนำไปทำเป็นแบรนด์ของตนเอง เพื่อจำหน่ายตามท้องตลาดต่อไป ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบเอกชนหลายราย ได้สนใจติดต่อสอบถามมาจำนวนมาก ผู้ใดสนใจสามารถสอบถามได้ที่สถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้
กรรณิการ์ สิงหะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดพิษณุโลก