ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ที่ 2 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายสัมพันธ์ ขันธ์พิเนตร อายุ 65 ปี และนางฉวีวรรณ ขันธ์พิเนตร อายุ 62 ปี พ่อและแม่ช่วยกันดูแล ส.ต.ต.เจษฎา ขันธ์พิเนตร อายุ 28 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี บุตรชายคนโต ที่ประสบอุบัติเหตุทางสมอง ขณะปฎิบัติหน้าที่ในการตั้งด่านตรวจความเรียบร้อยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาตามวัยรุ่นหนีการตรวจค้นจนประสานงานกับรถเก่งอย่างจัง ทำให้ทุกวันนี้ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง พ่อและแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยความหวังว่าสักวันลูกจะเดินได้

 

 

โดยนายสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ส.ต.ต.เจษฎา เป็นบุตรคนโต เรียนจบวิศวะ แล้วได้เข้าสอบเป็นตำรวจ และได้ปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผบ.หมู่งานปัองกันและปราบปราม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้เพียง 2 ปี แต่ต้องมาเป็นผู้ป่วยติดเตียงเพราะเกิดอุบัติเหตุ ขณะปฎิบัติหน้าที่ จยย.สายตรวจไล่ติดตามจับกุมรถจยย.วัยรุ่นต้องส่งสัยขับแหกด่าน และไปชนกับรถเก๋งที่กำลังออกมาจากซอย มีอาการโคม่าจนต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองซึ่งหมอได้ลงความเห็นว่าถ้าผ่าสมองชีวิตรอดแต่ก็จะไม่รับรู้อะไรได้อีกเลย หรือคุณพ่อคุณแม่จะปล่อยแต่ด้วยความเป็นคุณพ่อใจเด็ดไม่สามารถจะทำร้ายลูกตัวเองได้จึงตัดสินใจให้คุณหมอทำการผ่าตัดจนรักษาตัวจนปลอดภัย แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดั่งที่เห็น  จึงต้องช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่อจากภรรยาของ ส.ต.ต.เจษฎา ต้องออกไปทำงาน เพราะจะต้องดูแลบุตรสาวอายุ ขวบครึ่งและบุตรชาย อายุ 6 เดือนทุกๆวันจะต้องทำทุกอย่างเพื่อลูก ทั้งดูแลเรื่องของอาหารเหลว และการขับถ่าย 

หัวอกคนเป็นพ่อแม่ยังไงก็ทิ้งไม่ได้ท ห่วงแต่ลูกที่เป็นตำรวจต้องมาสูญเสียความทรงจำ จากอุบัติเหตุขณะออกปฏิบัติหน้าที่ (ชมคลิป)

ที่ผ่านมาตั้งแต่ลูกชายประสบอุบัติเหตุ ก็มีผู้บังคับบัญชาเข้าให้การดูแลในเรื่องเงินช่วยเหลือตามระเบียบราชการและส่วนตัว แต่ก็ต้องใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่อเดือนกว่า 3 หมื่นบาท และยังต้องดูแลหลานอีก 2 คนด้วย ก็ยอมรับว่า ไม่เพียงพอ แต่ก็ต้องสู้ต่อไป แต่ที่ตนเองเป็นกังวลมากที่สุดตอนนี้ถ้าเขารักษาตัวครบ 1 ปีไม่แน่ใจว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังคงดูแลในส่วนของเงินเดือนอย่างต่อเนื่องหรือซึ่งระเบียบของเขาก็มีอยู่ เพราะต้องยอมรับว่าถ้าหากขาดเงินส่วนใดส่วนหนึ่งไปคงต้องเดือดร้อนแต่ก็พร้อมที่จะทำเพื่อลูก แต่ถ้าหากท่านใดมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อม หรืออุปกรณ์ในส่วนอื่นๆที่ต้องใช้ทุกวันก็ไม่ขัดข้อง และรู้สึกดีที่มีคนมาให้กำลังใจลูกชายของตน และอยากให้นำมามอบให้กับมือตัวเองได้ที่บ้านทุกวันและตนเองก็จะขอขอบคุณเขาอยางเป็นทางการต่อไป 

หัวอกคนเป็นพ่อแม่ยังไงก็ทิ้งไม่ได้ท ห่วงแต่ลูกที่เป็นตำรวจต้องมาสูญเสียความทรงจำ จากอุบัติเหตุขณะออกปฏิบัติหน้าที่ (ชมคลิป)

หัวอกคนเป็นพ่อแม่ยังไงก็ทิ้งไม่ได้ท ห่วงแต่ลูกที่เป็นตำรวจต้องมาสูญเสียความทรงจำ จากอุบัติเหตุขณะออกปฏิบัติหน้าที่ (ชมคลิป)

หัวอกคนเป็นพ่อแม่ยังไงก็ทิ้งไม่ได้ท ห่วงแต่ลูกที่เป็นตำรวจต้องมาสูญเสียความทรงจำ จากอุบัติเหตุขณะออกปฏิบัติหน้าที่ (ชมคลิป)

หัวอกคนเป็นพ่อแม่ยังไงก็ทิ้งไม่ได้ท ห่วงแต่ลูกที่เป็นตำรวจต้องมาสูญเสียความทรงจำ จากอุบัติเหตุขณะออกปฏิบัติหน้าที่ (ชมคลิป)

หัวอกคนเป็นพ่อแม่ยังไงก็ทิ้งไม่ได้ท ห่วงแต่ลูกที่เป็นตำรวจต้องมาสูญเสียความทรงจำ จากอุบัติเหตุขณะออกปฏิบัติหน้าที่ (ชมคลิป)

ภาพ/ข่าว สันทัด เจ็ดเสมียนใหม่ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ สุราษฎร์ธานี