พ่อเมืองแพร่ เน้นวัฒนธรรมชุมชนวันมรดกไทย เปิดพื้นที่ทางให้แสดงการใช้พันธุกรรมพืชและการสืบทอดสู่การพัฒนาถือเป็นมรดกไทยชิ้นสำคัญ

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2561 ที่ศาลาตรีเทพ โรงเรียนการป่าไม้แพร่เดิม ระหว่างวันที่ 2-4 เมษายน 2561จังหวัดแพร่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ จัดให้เป็นสัปดาห์อนุรักษ์มรดกไทย โดยได้จัดกิจกรรมถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันพระราชสมภพ 2 เมษายนที่โรงเรียนการป่าไม้แพร่ มีข้าราชการ พ่อค้าประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม ในงานดังกล่าวมีการแสดงงานด้านศิลปวัฒนธรรมการแสดงดนตรีและนาฎศิลป์แบบพื้นบ้าน และจัดแสดงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านสุขภาพที่ใช้ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือต้นไม้สมุนไพรในการรักษาโรคและประกอบอาหารในอดีตมาสู่การฟื้นฟูทั้งอาหารและยารักษาโรคแบบไทยๆ ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมที่คนไทยยังคงผูกพันระหว่างวิถีชีวิตกับป่าและความหลากหลายของพืชพรรณ อีกทั้งเป็นแนวทางของกลุ่มปราชญ์ของชุมชนได้ร่วมกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาและต้นไม้ที่มีสรรพคุณทางอาหารและยาให้สืบทอดต่อไป

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ใบไม้ที่เก็บกวาดทำความสะอาดภายในวัด หรือเขตเมืองเก่า จะจัดทำเสวียนรอบต้นไม้ เพื่อเก็บเศษใบไม้ ใบหญ้า นำมาทำปุ๋ยหมักแทนการเผา ช่วยจัดเศษใบไม้ให้เป็นกอง เป็นระเบียบ ป้องกันการคุ้ยเขี่ยของสัตว์ ดูเรียบร้อยและสะอาดตา ที่สำคัญเป็นการนำสิ่งที่คิดว่าไร้ประโยชน์มาทำให้เกิดคุณค่า ประหยัด ลดการเผาช่วยลดโลกร้อนลดหมอกควัน ลดการใช้ปุ๋ยเคมีกับพืช หรืออาจใช้น้ำหมักชีวภาพรดใส่เศษใบไม้ในเสวียน เร่งการย่อยสลายและเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้แก่เศษใบไม้ใบหญ้า ด้วยก็ได้ เสวียนเกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้าน แต่เดิมนั้นชาวบ้านมักจะทำเสวียนเพื่อใช้ในการเก็บข้าวสาร หรือข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้เนื่องจากในอดีตไม่มีถังเก็บข้าวสาร ปัจจุบันเราสามารถประยุกต์เพื่อนำเศษหญ้า ใบไม้ ต่าง ๆ ใส่ไว้ในเสวียน ให้เป็นปุ๋ยทางธรรมชาติและเกิดความสะอาดเรียบร้อยในบ้าน เสวียนทำจากผิวไม้ไผ่ ล้อมต้นไม้มีระยะเวลาใช้งานที่นาน สำหรับ“วันอนุรักษ์มรดกไทย เป็นวันที่ประชาชนชาวไทยได้ช่วยกัน สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความเป็นชาติ ซึ่งได้แก่ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โบราณสถาน วรรณกรรม ศิลปหัตถกรรม นาฏศิลป์และดนตรี ตลอดจนถึงการดำเนินชีวิตและคุณค่าประเพณีต่าง ๆ อันเป็นผลผลิตร่วมกันของผู้คนในผืนแผ่นดินในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และยังเป็น วันเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ทรงเป็นแบบอย่าง ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ในด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติในสาขาต่าง ๆ รวมทั้งได้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาท ในการสร้างสรรค์และรักษามรดกของชาติให้ยั่งยืนตกทอดถึงลูกหลานไทย เพื่อเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงประกอบพระกรณียกิจทางด้านการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของ ชาติอันเป็นอเนกประการ คณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้วันที่ 2 เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น "วันอนุรักษ์มรดกไทย"”

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวและเน้นว่า งานด้านอนุรักษ์มรดกไทยทางภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านนั้น จะเน้นไปที่การอนุรักษ์และใช้ความหลายกหลายทางชีวภาพ คือการ รู้ เข้าใจ และเข้าถึง แนวทางวัฒนธรรมชุมชนและต้นไม้ที่มีอยู่ในจังหวัดแพร่ นอกจากนั้นยังเส้นพืชท้องถิ่นที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยที่จะนำไปสู่การพัฒนาพืชท้องถิ่น อาทิ มะเกี๋ยงที่มีวิตามินซีสูง มะขามป้อม สมอภิเภก สมอไทย เป็นต้น นำไปฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมในจังหวัดแพร่ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้การเผาป่าการทำลายป่าก็จะลดลงถ้าแนวคิดนี้ถูกขยายออกไป จึงได้มีแผนในการเปิดพื้นที่ที่วิกฤตจากการทำลายป่า โดยเปิดให้ปราชญ์ของชุมชนเข้ามาร่วมคิดใช้สมุนไพรไปสู่การพัฒนาป่าไม้และการดูแลรักษาป่าพร้อมทั้งใช้ประโยชน์ต่อไป ด้วยการมองหาพื้นที่ฟื้นฟูต้นแบบและวางแผนทำงานร่วมกันให้มีการฟื้นฟูจนเห็นเป็นที่ประจักษ์และสานต่อ ไปในอนาคต โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือเมืองแพร่จะมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยการฟื้นฟูจากวัฒนธรรมภูมิปัญญาของชุมชนเองอย่างเหมาะสมและใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างยั่งยืน

 

ภาพ/ข่าว ธีรพงษ์ ธงออน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดแพร่