- 05 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
หลังจากที่ ได้มีการเผยแพร่ ข่าว กรณี นางชนิสรา จินดารัตน์ พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ หัวหน้างานจ่ายกลางโรงพยาบาล ปัตตานี โดยมีบ้านเดิมอยู่ที่ 49 ม.10 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ไป-กลับบ้านที่บางขัน ทุกอาทิตย์ กล่าวว่า ตนเองซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าสะใภ้ได้เห็นหลานจำนวน 4 คน โดยมีด.ญ.สุกัญญา สันนุจิตร อายุ 12 ปี พี่สาวคนต้องดูแลน้องชาย 3 คน อายุ 9 ขวบ 8 ขวบ และ 6 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 10 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก มาตลอด พ่อต้องทำงานรับจ้างกรีดยาง และแม่ซึ่งก็ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง และทิ้งลูกหนีหายไป อยู่บ่อยครั้ง และครั้งนี้แม่ทิ้งลูกไปประมาณ 3 เดือน พ่อติดต่อไปแต่แม่ไม่ยอมกลับมา
พ่อของเด็กทั้ง 4 คน เดินทางไปตามหาแม่ จึงต้องปล่อยให้ลูกอยู่ ดำเนินชีวิตตามยถากรรมเพียงลำพัง ตนเองจึงได้เข้าช่วยเหลือเบื้องต้นเท่าที่จะช่วยได้ ทั้งเรื่อง อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ ตามกำลัง แต่สิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดคือเรื่อง การเรียนต่อของ ด.ญ.สุกัญญา พี่สาวคนโต เพราะจบชั้นป.6 แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่า ในอนาคตจะได้เรียนต่อหรือไม่ เพราะครอบครัวค่อนข้างลำบาก
จนกระทั่ง เรื่องทั้งหมดถูกแชร์ผ่านโลกออนไลน์ จึงมีสื่อมวลชน ได้มาติดตามทำข่าว และพ่อเด็กทราบข่าวก็กลับมา ต่อมาเมื่อข่าวเผยแพร่ไป ผู้ใจบุญที่สงสาร บริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวนี้ จึงมีความจำเป็นต้องเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งในช่วงนั้น ญาติๆ ของพ่อของเด็กทั้ง 4 คน เห็นว่า ตนเองซึ่งเป็นข้าราชการ และมีหมายเลขบัญชีธนาคารที่ไม่ได้ใช้งาน คือเลขที่บัญชี 763-0-378750 ชื่อ นางชนิสรา จินดารัตน์ ธนาคารกรุงไทย สาขาบิ๊กซี ปัตตานี ใช้ก่อน จนมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก
หลังจากพ่อของเด็กได้กลับมาอยู่บ้านและชี้แจงว่า ตนเองไม่ได้ทิ้งลูกแต่อย่างใด เพราะออกตามหาแม่ลูกต้องการให้แม่กลับมา และพ่อมีภาวะเครียดในเรื่องความรับผิดชอบลูกทั้ง 4 ที่ต้องดูแลลำพังคนเดียว และเลยตัดสินใจให้พี่สะใภ้ (นางชนิสรา จินดารัตน์) ช่วยหลานทั้งสี่ ซึ่งป้าสะใภ้กังวลเรื่องคุณภาพชีวิตและอนาคตของเด็กทั้ง 4 หลังเป็นข่าวและมีการบริจาค แม่เด็ก ได้มาตอบโต้อ้างไม่ทิ้งลูก จะมารับลูกไปเลี้ยง แต่พ่อไม่ให้ และอ้างกับนักข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่าไปทำงานหาเงินซึ่งเหตุการณ์ที่แม่ทิ้งลูกไปแบบนี้หลายครั้งแล้ว และแม่เด็กยังมองว่าป้าสะใภ้ออกข่าวมีจุดประสงค์ใดแอบแฝงหรือไม่ ทำให้โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ซึ่งล่าสุด นางชนิสรา ได้ให้สัมภาษณ์กับ ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวทีนิวส์ ผ่านทางโทรศัพท์ ว่า ประเด็นข่าวที่ออกไปนั้นคลาดเคลื่อนไปมาก และตนได้สอบถามไปที่เด็กๆและญาติๆ จนบัดนี้แม่เด็กยังไม่กลับมา ส่วนพ่อก็อยู่กับเด็กทั้ง4 แต่ก็ไม่ได้ดูแลลูกอย่างเต็มที่ เพราะกังวล อยากติดต่อให้แม่เด็กกลับมา นางชนิสรา ยังยืนยันว่า มีความบริสุทธิ์ใจ ในการช่วยเหลือครอบครัวของหลายทั้ง 4 คน จริง ซึ่งปัจจุบันยอดเงินบริจาค ที่เข้าบัญชีมา ยอดสรุป ณ วันที่ 4 เมษายน 2561 มียอดรวมที่ 386,250.70 บาท ยังเหลือครบทุกบาททุกสตางค์ อีกทั้งคุยปรึกษากับนายอำเภอและทีมผู้นำชุมชน เรื่องบัญชีเด็กเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 และตนขอให้มีปรับเรื่องบัญชีใหม่ และให้มีคณะกรรมการดูแล 5 คน ซึ่งอยู่ระหว่างรอทีมคณะกรรมการพร้อมเนื่องจากบางท่านติดภารกิจที่ต่างประเทศ ซึ่งนางชนิสรา ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจเรื่องเงินในบัญชีอยู่ครบ ตามยอดที่แจ้งล่าสุดข้างต้น และยังขอร้องประชาชนที่สงสัยข้อเท็จจริง สามารถโทรถามได้ที่ 0935982459 หรือตรวจสอบได้ทุกช่องทาง
หลังจากที่มีผู้ใจบุญและหน่วยงานต่างๆที่เข้ามาช่วยเหลือเด็ก 4 คน ในทุกช่องทาง เด็กก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาก ร่าเริงแจ่มใส ไม่อดมื้อกินมื้อ และที่สำคัญที่คุณชนิสรา กล่าวย้ำคือ ขอบคุณ ดร.เสงี่ยมจิต สุขหิ้น เจ้าของโรงเรียนกาญจนศึกษทุ่งสง และนางขวัญใจ รักษาแก้ว ผอ.โรงเรียน นางสุภาวดี สังข์แก้ว ครูประชั้น ที่นางชนิสราได้สอบถามปรึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ค้าง ซึ่งได้รับคำตอบที่ตนเองคาดไม่ถึง คือทางโรงเรียนจะขออุปการะดูแลส่งเสียให้เด็กทั้ง 4 คน ให้เรียนจนจบสูงสุดเท่าที่จะสามารถเรียนได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นและมีรถรับ-ส่งถึงบ้าน จนนางชนิสราซึ้งในน้ำใจเจ้าของโรงเรียนเอกชนแห่งนี้ ขอขอบคุณอย่างสูงและตนก็ดีใจที่สามารถประสานเรื่องการศึกษาให้เด็กๆได้ในที่สุด ที่ทำให้เด็กมีรอยยิ้มและมีการศึกษาต่อไป
นางชนิสรายังกล่าวกับนักข่าวอีกว่า ซึ้งใจเมื่อน้องฟิวกล่าวกับทีวีช่องหนึ่ง ว่า "ถ้าไม่มีป้าเสาว์ ก็ไม่มีพวกเขาในวันนี้" ส่วนด้านพ่อเด็กนางชนิสรา ยังสอนเตือนอีกว่าตั้งใจดูแลลูก ตั้งใจทำงาน เพื่อพิสูจน์ให้สังคมรู้ว่าเราเป็นพ่อที่มีความรับผิดชอบลูกได้
นางชนิสรากล่าวตอนท้ายว่าถึงตัวเองจะโดนต่อต้านในสังคมโซเซียล ในบางคนที่ไม่รับรู้ข้อเท็จจริงแล้วต่อว่าต่างๆนาๆก็จะอภัยให้กับทุกคนที่เข้าใจผิด ซึ่งตนเองเป็นข้าราชการของแผ่นดิน ทำดีทดแทนบุญคุณแผ่นดิน และช่วยเหลือสังคมให้มากที่สุดในช่วงที่มีลมหายใจ ด้วยปณิธาน"พยาบาลของพระราชา ข้าราชการของแผ่นดิน" นางชนิสรา กล่าวย้ำอย่างหนักแน่นในที่สุด.และฝากขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือเด็ก 4 คน นี้ให้มีชีวิตใหม่ ผ่านทางสื่อทีนิวส์ มา ณ โอกาสนี้ด้วย
ภาพบางส่วน / เฟซบุ๊ก เสาว์ บางขัน
ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครศรีธรรมราช