- 20 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 20 เม.ย. 61 ที่ ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล นายณรงค์ฤทธิ์ ทุ่งปรือ ผู้อำนวยการอุทยานธรณีสตูล นำประชาชนที่สนใจศึกษา ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ทุ่งหว้า Satun Geopark Information Center ที่นี่เป็นที่เก็บรักษาฟอสซิลที่พบในท้องที่ อ.ทุ่งหว้า และใน จ.สตูล
การพบฟอสซิลส่วนฟันกรามของ “ช้างสเตโกดอน” ช้างดึกดำบรรพ์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าช้างแมมมอธ อายุอยู่ในสมัยไพลสโตซีน (Pleistocene) หรือประมาณ1.8-0.01 ล้านปีก่อน ซึ่งว่าเก่าแก่กว่ามาก และเป็นการค้นพบแห่งแรกแห่งเดียวในพื้นที่ภาคใต้
ฟอสซิลดังกล่าวถูกพบเมื่อปี 2551 ในถ้ำวังกล้วย อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ที่ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ถ้ำเลสเตโกดอน” หลังจากที่ชาวบ้านได้เข้าไปหากุ้ง หาปูในถ้ำตามวิถีปกติ และได้พบซากดึกดำบรรพ์ที่มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลไหม้ น้ำหนักประมาณ 5.3 กก. ยาวประมาณ 44 ซม. สูงประมาณ 16 ซม. เมื่อตรวจสอบจากทางสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลิมพระเกียรติ และกรมทรัพยากรธรณีแล้วจึงทราบว่าเป็นกระดูกฟันกรามของช้างสเตโกดอน โดยปัจจุบันทาง อบต.ทุ่งหว้าได้เก็บรักษาไว้ในศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ทุ่งหว้า
ยังพบฟอสซิลฟันกรามของช้างเอลิฟาส ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของช้างเอเชีย และคาดว่ามีอายุร่วมสมัยเดียวกันกับช้างสเตโกดอน นอกจากนั้นก็ยังพบฟอสซิลแรดชวา กระซู่ เต่า หอย หมึก รวมไปถึงขวานหินของมนุษย์โบราณ รวมแล้วซากดึกดำบรรพ์ที่พบนั้นกว่า 300 ชิ้น
ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้นำซากดึกดำบรรพ์ในยุคแรกๆ ของสิ่งมีชีวิต คือมหายุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic) ในราว 542-251ล้านปี ในมหายุคนี้เราได้พบซากดึกดำบรรพ์ครบทั้ง 6 ยุค ได้แก่ ยุคแคมเบรียน ยุคออร์โดวินเชียน ยุคไซลูเรียน ยุคดีโวเนียน ยุคคาร์บอนิเฟอรัส และยุคเพอร์เมียน ซึ่งก็พบทั้งสาหร่ายทะเลดึกดำบรรพ์ แมงดาทะเลดึกดำบรรพ์ หอยทะเลดึกดำบรรพ์ ปลาหมึกทะเลดึกดำบรรพ์ นำมาจัดแสดงให้ชมและศึกษา
ซึ่งมีการจัดแสดงตัวอย่างในแต่ละยุคให้ชมครบทั้ง 6 ยุค รวมไปถึงฟอสซิลชิ้นไฮไลท์อย่างฟอสซิสกรามช้างสเตโกดอน และฟอสซิลกระดูกฟันของแรด จัดแสดงไว้ให้ชมกันแค่บางส่วน ส่วนใหญ่ยังคงเก็บรวบรวมไว้ไม่ได้นำมาจัดแสดง หากอยากชมคงต้องขอเป็นกรณีพิเศษ ถือได้ว่าซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้มีคุณค่ามากในทางวิชาการ และนำมาปรับเป็นแหล่งเรียนรู้และการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
หลังจากได้ผ่านเกณฑ์การประเมินจากยูเนสโก ให้เป็นอุทยานธรณีโลกแล้ว เชิญชวนคนสตูลและคนไทยมาร่วมกันอนุรักษ์ และประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักถึงความพิเศษของดินแดนดึกดำบรรพ์แห่งนี้ ไปพร้อมกับการร่วมต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเมืองสตูล และร่วมบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืนในทุกด้าน…ผอ.อุทยานธรณีสตูลกล่าวในที่สุด
เจริญพงษ์ เกตุชู // ภาพ
เอนก ขันทสิกรรม ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์จังหวัดสตูลรายงาน




