- 21 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
พบเด็กหญิงวัยยอดกตัญญูวัย 14 ปีทำงานวันละประมาณ 22 ชั่วโมงหาเงินวันละกว่า 800 บาท เพื่อปลดเงินกู้นอกระบบที่พ่อและแม่กู้มาดอกร้อยละ 20 แต่ด้วยเศรษฐกิจย่ำแย่การเงินสะดุด ล่าสุดพ่อแม่และน้องต้องย้ายออกจากบ้านเช่ามานอนริมถนนเหตุไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าจึงวอนสังคมให้ความช่วยเหลือ ต่อสมาชิกจิตอาสาผ่านมาพบนำมาเผยแพร่ทาง เฟซบุ๊ก จนมีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ล่าสุดปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีพร้อมสมาคมนักข่าวสุราษฎร์ธานีลงตรวจสอบข้อเท็จจริง เตรียมประสานงานผู้เกี่ยวข้องดูแล
จากกรณีเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561 สมาชิกจิตอาสา คนหลังม่าน สร้างฝัน ปันน้ำใจ ได้นำภาพและข้อมูลมาเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก สมาชิกจิตอาสา คนหลังม่าน สร้างฝัน ปันน้ำใจ โดยระบุว่า ได้พบกับ ผู้ที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก หนึ่งครอบครัว จำนวน 4 ชีวิต ซึ่งประกอบด้วย 1,นายกานจณ์ ผู้เป็นบิดา หัวหน้าครอบครัว มีโรคประจำตัว ป่วยเป็นโรคไตเสื่อม หัวใจ ความดันและเก๊า อาชีพ รับจ้างทั่วไป รายได้วันละ 200 บาท แต่บางวันก็ไม่สามารถไปทำงานได้เนื่องจากสุขภาพไม่ค่อยดี 2,นางหลิน ผู้เป็นมารดา อาชีพขายไอติม แต่ตอนนี้ไม่สามารถขายได้เนื่องจากสุขภาพไม่ดี ขาบวมอักเสบเดินไม่ค่อยได้ 3, น้องผิง อายุ14ปี ตอนนี้ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะต้องช่วยพ่อแม่ทำงานหาเงินปลดหนี้ และ4 เด็กหญิงเมย์ อายุ 9 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนเทศบาล 4 ต้องเดินเร่ขายข้าวเกรียบตามริมถนนรายได้ไม่แน่นอนโดยทั้งหมดจะมาได้มาอาศัยหลับนอนอยู่ริมทางฟุตบาทถนนราษอุทิศ ใกล้กับสี่แยกเทศบาล เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลา 21.00 น.เป็นไป โดยเฉพาะเด็กหญิงเมย์ โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 16 พ.ค. นี้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน
ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น.(20 เม.ย.)นายนิมิต วงษ์จินดา ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี นักสังคมสงเคราะห์เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวสุราษฎร์ธานีได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเบื้องต้นพบว่ามีครอบครัวดังกล่าวได้มาศัยหลับนอนอยู่จริง โดยมีนายกาญจน์ ซอเสียงมงคล อายุ 40ปี อาชีพรับจ้างอัดกรอบพระ นางเกศรินทร์ ซอเสียงมงคล อายุ 32 ปี ภรรยานายกาณจน์ ด.ญ.กาญจนา อายุ 14 ปี และ ด.ญ.เมทินี อายุ 9 ปี ลูกสาว จากการพูดคุยทราบว่าก่อนหน้านี้ได้เช่าบ้านอยู่อาศัยแถวถนนในลึกต่อมาการเงินติดขัดติดค้างค่าเช่าบ้านมา 2-3 เดือนจึงได้ออกมาอาศัยหลับนอนบริเวณนี้มาได้ประมาณ 1 เดือน นางเกศรินทร์ ได้ระบุว่าตนมีอาชีพรับไอศกรีมมาขาย แต่ปัจจุบันประสบปัญหาสุขภาพและการขาดทุนจึงได้กู้เงินนอกระบบมาแก้ไขการขาดสภาพคล่องแต่กับเป็นหนี้สะสมจนไม่มีเงินจ่าย ต้องอาศัยลูกๆทำงานปลดหนี้
ในเบื้องต้นเมื่อคืนที่ผ่านมานายนิมิต วงษ์จินดา ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีจึงได้ไปเปิดห้องพักให้ทั้งหมดได้พักผ่อนโดยไม่ต้องนอนริมถนนและในวันนี้จะได้ประสานนายธีระกิจ มุธิตากุล นายกเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีจัดหาบ้านเช่าในราคาถูกให้อยู่อาศัย พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจและสภาพเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินชีวิต หากผู้ต้องการที่จะช่วยเหลือสามารถติดต่อมาที่ตน ตนพร้อมที่จะเป็นสื่อกลางให้ โดยสามารถติดต่อที่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี หรือเบอร์โทร 06-3208-8731
ต่อมาในเช้าวันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 19/1 ถนนราษฎร์อุทิศ(ซอยออมสิน) เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ที่ ด.ญ. กาญจนา หรือน้องผิง ทำงานอยู่โดยน้องผิงได้กล่าวว่า ตนเรียหนังสือจบชั้น ป.6 ที่โรงเรียนเทศบาล 4 และออกมาทำหางานทำเพื่อช่วยเหลือพ่อและแม่ที่ลำบากจากปัญหาสุขภาพ ก่อนหน้านี้แม่ทำงานขายไอศกรีมวอ พ่อรับจ้างอัดกรอบพระในตลาดเกษตร ทำงานไม่มีรายได้ที่แน่นอน ต้องกู้เงินนอกระบบมาใช้จนเป็นหนี้อยู่ประมาณ 40,000 บาท ต่อมาก็ต้องหยุดขายเนื่องจากไม่มีเงินทุนหมุนเวียน ตนต้องมาเป็นลูกจ้างคุณยายวีนา มากมณี อายุ 64 ปีโดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยทอดไก่สับไก่และทำความสะอาด ตั้งแต่ 05.00 น.ไปจนถึงเวลา 20.00 น. มีรายได้ประมาณวันละ 300 บาท หลังจากนั้นนั้นตนจะปั่นจักรยานนำข้าวเกรียบกุ้งและและขนมทองม้วนไปขายตามร้านอาหารต่างๆในพื้นที่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีจนถึงเวลา 01.30 น.จึงได้กลับมาที่ร้านและทำความสะอาดร้านก่อนที่จะหลับนอนในเวลา 02.00 น.เป็นประจำทุกวัน และได้อาศัยหลับนอนอยู่ที่ร้าน ซึ่งบางคืนก็มีแม่และน้องสาวออกไปช่วยขายโดยแยกย้ายกันไป เมื่อรวมกับค่าจ้างตอนกลางวันแล้วจะมีรายได้วันละ 600-800 บาท แต่เงินทั้งหมดก็ไม่ได้นำไปใช้จ่ายอย่างอื่นต้องเก็บส่งให้กับเจ้าหนี้เป็นรายวันที่พ่อและแม่ไปกู้มาโดยเสียค่าดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบ หากวันไหนหาเงินไม่ได้ตามเป้าหรือไม่ครบตามจำนวนก็ขาดส่งดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้น ตลอดเวลากว่า 7 เดือนที่ผ่านมาที่ตนรับจ้างและขายของไม่เคยได้หยุดพักหากหยุดวันไหนรายได้หายไม่มีเงินปลดหนี้ หนี้เพิ่ม จึงวอนผู้ใจบุญให้ความเมตราช่วยปลดหนี้ให้แม่และพ่อและขอให้น้องมีที่เรียนและที่อยู่อาศัยหรือช่วยให้พ่อกับแม่ได้ยืนด้วยขาตัวเอง พร้อมทั้งวอนขอให้พ่อและแม่หยุดกู้เงินหรือค้ำประกันให้ใครกับเงินกู้นอกระบบเสียที ส่วนหนี้สินของตนที่ขอยืมจากคุณยายวีนามาเป็นทุนการค้าขายนั้นตนไม่ขอรบกวนใคร จะขอทำงานปลดหนี้ใช้หนี้เอง
ด้านนางวีนากล่าวว่ายินยอมช่วยเหลือเด็กก็เห็นว่าเป็นเด็กดีขยันทำงานมีความรักต่อพ่อแม่ เป็นเด็กกตัญญู โดยตนตั้งได้ใจและให้คำมั่นกับน้องผิงว่าหากเขาอดทนปลดหนี้ให้พ่อแม่สำเร็จตนจะรับภาระเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือต่อและซื้อทองคำรูปพรรณพร้อมเสื้อผ้าใหม่ให้เพื่อเป็นการตอบแทนคุณงามความดีที่ในปัจจุบันหาได้ยาก
ภาพ/ข่าว มงคล ทาหอม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุราษฎร์ธานี