- 27 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
(27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกโซเชี่ยลทั้งในเฟซบุ๊คและกลุ่มไลน์ได้มีการส่งภาพและข้อความเกี่ยวกับการจัดงานบวชนายปิยะภัทร ใจห้าว หรือ”ปิยะ” ซึ่งเข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดเบิก ต.ฉลวง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2561 และมีการจัดงานเลี้ยงในคืนวันที่ 25 เม.ย. 2561 ณ.ร้านบ่าวเอ ลูกประทัด เลขที่ 17/5 หน้าวัดเจดีย์ไอ้ไข่ หมู่ 7 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยทุ่มงบกว่า 50,000 บาทว่าจ้างศิลปิน “วงเจกัน” ซึ่งเป็นศิลปินรำวงเวียนครกย้อนยุคชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราชมาเปิดทำการแสดง สร้างสีสันต์และความสนุกสนานรื่นเริงอย่างเต็มที่ตั้งแต่เวลา 19.00 น.วันที่ 25 เม.ย. จนถึงเวลา 02.30 น.ของวันที่ 26 เม.ย. 2561 โดยงานนี้ทางนายพันธ์พิมล ใจห้าว และนางจรุพร ใจห้าว พ่อและแม่ของนายปิยะภัทร จัดเลี้ยงอาหาร เครื่องดื่ม และเหล้าพร้อมกับแกล้มอย่างไม่อั้น พร้อมประกาศไม่รับซองทำบุญ ทุกคนมาร่วมดื่มกินและสนุกสานกับการเต้นรำฟรี เป็นงานแรกของการจัดงานบวชใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยมีญาติผู้ใหญ่และพรรคพวกเพื่อนฝูงแห่เดินทางมาร่วมงานนับพันคน โดยมีการแชร์ภาพและข้อความพร้อมแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากการจัดงานที่มีการว่าจ้างศิลปินวงดังมาสร้างสีสันต์โดยไม่รับซองทำบุญแล้ว ปัจจัยที่ทำให้มีผู้เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมากเนื่องจากนายปิยะภัทร มีรูปร่างอ้วนใหญ่ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 120 กก. และเป็นนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของรถแบ็กโฮ รถบรรทุกดิน มีญาติพี่น้องและพรรคพวกเพื่อนฝูงจำนวนมาก และเป็นพี่ชายของนางวรทยา ใจห้าว เจ้าของกิจการร้าน “บ่าวเอลูกประทัด”หน้าวัดเจดีย์(ไอไข่) ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายลูกประทัด รูปปั้นไก่ชน และเครื่องเซ่นไหว้รายใหญ่ที่สุดของ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งในช่วงการแห่นาคจากร้าน “บ่างเอลูกประทัดไปยังวัดเบิกระยะทางเกือบ 2 กม.โดยให้เจ้านาคนั่งบนรถจิ๊ปศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนผู้ร่วมขบวนที่เดินร่ายรำนำหน้ารถเจ้านาคเป็นผู้หญิงเกือบ 30 คนต่างแต่งกายชุดไทยโบราณตามกระแสออเจ้า ในละคร “บุพเพสันนิวาส” ร่ายรำอย่างสวยงาม สนุกสนานและพร้อมเพรียง ทั้งหมดต้องเดินเท้าร่ายรำหน้ากลองยาวตลอดเส้นทา ในขณะที่คณะกลองยาวประยุกต์ใช้เครื่องดนตรีสากลผสมผสานกับกลองยาวร่วมบรรเลงเคลื่อนที่สร้างสีสันต์บรรยากาศที่สนุกสนานท่ามกลางแสดงแดดที่แผดจ้าและอากาศร้อนอบอ้าวอย่างรุนแรง แต่ผู้ร่วมขบวนทั้งหมดต่างออกลีล่าท่าทางร่ายรำกันอย่างสนุกสนานสุดเหวี่ยง ซึ่งระยะทางแค่ 2 กม.แต่ต้องใช้เวลาในการแห่นาคไปถึงวัดเบิก นานถึง 3 ชม. พร้อมกับการจุดพลุและลูกประทัดต่อเนื่องตลอดเส้นทางจำนวน 9 แสนนัด จนบนถนนตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยเปลือกลูกประทัดสีแดงที่กระจายเกลื่อนถนน แต่เมื่อเข้าสู่บริเวณวัดทางทีมงานที่รับหน้าที่จุดประทัดได้ระดมลูกประทัดและพลุรวม 1 แสนนัดมาจุดเฉลิมฉลองพร้อม ๆ กันเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณรวมพลุ แลประทัดที่จุดในขบวนแห่มากถึง 1 ล้านนัด จากนั้นจึงยุติการจุดพลุ และประทัดอย่างสิ้นเชิง ก่อนเคลื่อนขบวนแห่เข้าไปในบริเวณวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากการจัดงานที่มีการว่าจ้างศิลปินวงดังมาสร้างสีสันต์โดยไม่รับซองทำบุญแล้ว ปัจจัยที่ทำให้มีผู้เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมากเนื่องจากนายปิยะภัทร มีรูปร่างอ้วนใหญ่ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 120 กก. และเป็นนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของรถแบ็กโฮ รถบรรทุกดิน มีญาติพี่น้องและพรรคพวกเพื่อนฝูงจำนวนมาก และเป็นพี่ชายของนางวรทยา ใจห้าว เจ้าของกิจการร้าน “บ่าวเอลูกประทัด”หน้าวัดเจดีย์(ไอไข่) ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายลูกประทัด รูปปั้นไก่ชน และเครื่องเซ่นไหว้รายใหญ่ที่สุดของ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งในช่วงการแห่นาคจากร้าน “บ่างเอลูกประทัดไปยังวัดเบิกระยะทางเกือบ 2 กม.โดยให้เจ้านาคนั่งบนรถจิ๊ปศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนผู้ร่วมขบวนที่เดินร่ายรำนำหน้ารถเจ้านาคเป็นผู้หญิงเกือบ 30 คนต่างแต่งกายชุดไทยโบราณตามกระแสออเจ้า ในละคร “บุพเพสันนิวาส” ร่ายรำอย่างสวยงาม สนุกสนานและพร้อมเพรียง ทั้งหมดต้องเดินเท้าร่ายรำหน้ากลองยาวตลอดเส้นทา ในขณะที่คณะกลองยาวประยุกต์ใช้เครื่องดนตรีสากลผสมผสานกับกลองยาวร่วมบรรเลงเคลื่อนที่สร้างสีสันต์บรรยากาศที่สนุกสนานท่ามกลางแสดงแดดที่แผดจ้าและอากาศร้อนอบอ้าวอย่างรุนแรง แต่ผู้ร่วมขบวนทั้งหมดต่างออกลีล่าท่าทางร่ายรำกันอย่างสนุกสนานสุดเหวี่ยง ซึ่งระยะทางแค่ 2 กม.แต่ต้องใช้เวลาในการแห่นาคไปถึงวัดเบิก นานถึง 3 ชม. พร้อมกับการจุดพลุและลูกประทัดต่อเนื่องตลอดเส้นทางจำนวน 9 แสนนัด จนบนถนนตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยเปลือกลูกประทัดสีแดงที่กระจายเกลื่อนถนน แต่เมื่อเข้าสู่บริเวณวัดทางทีมงานที่รับหน้าที่จุดประทัดได้ระดมลูกประทัดและพลุรวม 1 แสนนัดมาจุดเฉลิมฉลองพร้อม ๆ กันเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณรวมพลุ แลประทัดที่จุดในขบวนแห่มากถึง 1 ล้านนัด จากนั้นจึงยุติการจุดพลุ และประทัดอย่างสิ้นเชิง ก่อนเคลื่อนขบวนแห่เข้าไปในบริเวณวัด
โดยขบวนแห่ต้องต้องแห่รอบโบสถ์ 3 รอบ ในช่วงแรกมีชายฉกรรจ์ 3-4 คนพยายามอุ้มเจ้านาค ปิยะภัทร แต่ไม่สามารถอุ้มเดินเวียนโบสถ์ไหเนื่องจากเจ่านาคอ้วนตุ้ยนุ้ย ในที่สุดเจ้านาคต้องเดินเท้าด้วยตัวเองจนครบ 3 รอบ แต่เมื่อจะเข้าโบสถ์ซึ่งจะต้องยกเจ่านาคข้ามขอบพระประตูโบถส์ด้านล่าง และใช้มือแตะขอบพระตูโบสถ์ด้านบน กลุ่มเพื่อน ๆ ที่เป็นชายฉกรรจ์ 5-6 คนได้เข้าไปช่วยกันหามเจ้านาคเข้าโบสภ์อย่างทุกลักทุเล ก่อนเริ่มปรกอบพิธีบวชนาคตามลำดับขั้นตอน และพระอุปฌาชย์ได้ตั้งชื่อให้ว่า “พระปิยะสีโล” แปลว่าผู้มีศีลอันเป็นที่รัก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่านายละภัส มีชื่น ผอ.ข่าวภูมิภาคไทยทีสีสีช่อง 3 มาร่วมบุญในงานนี้ด้วยจำนวน 5,000 บาท เนื่องจากในช่วงที่ช่อง 3 ระดมกำลังลงมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดนครศรีธรรมราช ทุกครั้ง พระปิยะภัทร จะนำทีมงานใน อ.สิชล มาช่วยเหลืออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการประสานงาน และยานพาหนะเป็นอย่างดี นายละภัส มีชื่น จึงขอร่วมอนุโทนาบุญด้วย ซึ่งทางเจ้าภาพจึงต้องจัดเป็นพิธีการทอดผ้าป่านำเงินจำนวนดังกล่าวถวายวัดเบิก เพื่อช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการของวัดต่อไป.
ภาพ/ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ข่าว/ ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช