เสียงก่นด่าลั่นวัด !! ชาวบ้านรวมพลังทำบุญ สาปส่งพวกหัวขโมย หลังบุกตัดไม้พะยูงร้อยปี กลางวัดเก่าแก่

จากกรณีที่คนร้ายเข้าไปลักลอบตัดไม้พะยูง อายุกว่าร้อยปี ในวัดไตรภูมิ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่กลางชุมชน ซึ่งพฤติการณ์คนร้ายได้เข้ามาภายในวัดช่วงกลางดึกวันที่ 6 พ.ค. เวลาประมาณ 02.00 น.  จากคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าวัดระบุว่า พฤติการณ์คนร้ายมีความเชี่ยวชาญ โดยเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 8 พ.ค. 61 ที่วัดไตรภูมิ หมู่ที่ 3 ตำบลโนนบุรี อ.สหัสขันธ์  จ.กาฬสินธุ์  พระครูสิริพัฒนนิเทศก์ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ และเจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ ได้นำพระภิกษุสงฆ์ และชาวบ้านประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับต้นไม้พะยูงใหญ่ที่อยู่คู่กับวัดมาช้านาน โดยชาวบ้านที่นำโดยนายคำจันทร์  อุดมวงษ์  อายุ 89 ปี  ที่ปรึกษาวัดนำชาวบ้านร่วมถวายภัตตาหารและรับฟังพระธรรมเทศนา ที่บริเวณศาลาพักข้างตอไม้ต้นพะยูง

 

 

ขณะที่บรรยากาศภายในวัดตลอดทั้งวัน มีชาวบ้านที่ทราบข่าวเข้าไปสอบถามเหตุการณ์ และไปดูตอไม้พะยูง สิ่งที่คนร้ายเหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าไม่ขาดสาย  นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านได้ขออนุญาตวัดประกอบพิธีทวงคืนไม้และสาปแช่งคนร้ายที่เข้ามาตัดไม้ในวัด  ตามความเชื่อของคนในพื้นที่ เพราะไม้พะยูงต้นนี้เป็นสมบัติของวัด  ชาวบ้านจึงอยากให้รีบดำเนินการจับคนร้ายให้ได้โดยเร็วและอยากได้ไม้ทั้งหมดให้กลับมาอยู่ที่วัด

นายคำจันทร์  อุดมวงษ์  อายุ 89 ปี  ที่ปรึกษาวัดไตรภูมิ  กล่าวว่า  ต้นพะยูงต้นนี้ได้เห็นและดูแลมากว่า 50 ปี  เมื่อตอนที่ย้ายถิ่นฐานมาก็เห็นต้นพะยูงนี้เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่แล้ว เสมือนเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับวัดมา  โดยต้นพะยูงนี้อดีตเจ้าอาวาส จะดูแลรักษาเป็นอย่างดีจนถึงเจ้าอาวาสท่านปัจจุบันได้พยายามประสานทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง ป้องกันมาโดยตลอด  ซึ่งชุมชนเองก็ช่วยเป็นหูเป็นตาช่วยกัน แต่ไม่คิดว่าต้นพะยูงที่อยู่ในวัด คนร้ายจะกล้าเข้ามาตัดเอาไปได้  ทั้งยังกระทำอย่างอุกอาจด้วยวัดนี้อยู่ในชุมชนเป็นวัดเก่าแก่ ซึ่งไม่เคยมีประวัติว่าคนร้ายจะกล้าเข้ามาขโมยสิ่งของใด ๆ ในวัดแม้กระทั่งไม้ฝืนเพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาดูแลวัดแห่งนี้มาช้านาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงสร้างความเสียใจให้กับคนสหัสขันธ์ โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่อย่างมาก

“ต้นพะยูงต้นนี้เป็นเสมือนสิ่งมงคลคู่กับวัดไตรภูมิ  มายาวนานกว่า 50 ปี เมื่อถูกทำลายไปชุมชนและวัดในฐานะผู้ดูแลต่างเสียใจอย่างมาก  สิ่งที่ทำได้คือการปลอบขวัญชาวบ้านจึงได้กราบนิมนต์พระคุณเจ้าได้จัดให้มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับต้นพะยูงต้นนี้  โดยได้นำชาวบ้านร่วมถวายภัตตาหารและรับฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งจากนี้ไปจะต้องเพิ่มความระมัดวังมากขึ้นเพราะยังมีต้นพะยูงในชุมชนอีกหลายต้นอาจจะตกเป็นเป้าของขบวนการมอดไม้นี้อีก  ขณะเดียวกันในความเชื่อเรื่องพิธีสาปแช่ง  ชาวบ้านได้ขออนุญาตทางพระคุณเจ้า และวัดทำพิธีไปแล้วทั้งการสาปแช่ง และการทวงคืนสมบัติวัดคืนมา เป็นความเชื่อของชาวบ้านที่ไม่อาจจะลบลู่ได้  คนร้ายหรือคนที่มานำไม้พะยูงออกไปจากวัดโดยไม่ได้รับการอนุญาต ก็จะเกิดความร้อนลุ่มและเหมือนมีสิ่งคอยรังควานอยู่ตลอดเวลา ไม่ประสบความสำเร็จใด ๆ ในชีวิตจนกว่าจะนำไม้มาคืนและมาขอขมาที่วัดไตรภูมิเท่านั้น” นายคำจันทร์ กล่าว

ด้านว่าที่ร้อยตรี ธีระพล  โชคนำชัย  นายอำเภอสหัสขันธ์  ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายได้ประสานงานกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบหาเส้นทางของคนร้ายกลุ่มนี้  โดยทีมเฉพาะกิจทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าเส้นทางคนร้ายน่าจะขนย้ายไม้พะยูงของวัดไตรภูมิข้ามสะพานเทพสุดาไปอีกฝั่งทางอ.หนองกุงศรี และ อ.ท่าคันโท  ซึ่งมีรอยต่อเชื่อมกับจ.อุดรธานีและจ.ขอนแก่น  นอกจากนี้ได้สั่งการให้ชุด ชรบ. หมู่บ้านได้เพิ่มความเข้มข้นในการจัดเวรยามเฝ้าระวังอาชญากรรมในห้วงเวลาอันตราย 02.00 – 03.00 น. โดยทำงานร่วมกับฝ่ายทหาร และตำรวจ  

ข่าว/ภาพ  ชมพิศ  ปิ่นเมือง  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.กาฬสินธุ์