ปราชญ์ 2 แผ่นดินยัน "2 น้า-หลาน" เป็นเจ้าหญิงเขมร เชื้อพระวงศ์ “สีสุวัตถิ์” จริง!!! เผยไม่ขอเอาผิด เพราะเป็นการเข้าใจผิด (คลิป)

วันนี้(1 มิ.ย.31)ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานความคืบหน้าล่าสุด จากกรณีกระแสข่าวเจ้าหญิงปลอมจากกัมพูชา มาอาศัยในประเทศไทย จึงเตือนอย่าให้ประชาชนหลงเชื่อ  โดยทางสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ได้ชี้แจงว่าอันที่จริงพระมหากษัตริยานี พระสีสุวัต กุสุมะนุนีรัตนา เสด็จสวรรคตไปแล้ว เมื่อปลายทศวรรตที่ 70  ซึ่งขณะนี้มีข่าวเท็จที่แพร่สะพัดในหมู่ชาวกัมพูชาในประเทศไทย เกี่ยวกับการกล่าวอ้างว่า  มีเจ้าหญิงกัมพูชาพระองค์หนึ่ง ชื่อพระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา (เจ้าหญิงสีสุวัตถิ์ กุสะมะมุนีรัตนา) อาศัยอยู่ที่ประเทศไทย และกำลังจะไปพบปะชาวกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทย ในช่วงปลายเดือนนี้

 

 สำหรับที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นพระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา (เจ้าหญิงสีสุวัตถิ์ กุสะมะมุนีรัตนา) พร้อมคณะได้เดินทางมาที่โรงเรียนบ้านโคกคอน ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยอ้างว่าเป็น  พระราชธิดา พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีข้าราชการ ครู ตชด. ผู้นำชุมชน และนักเรียน ให้การต้อนรับ โดยภายหลังที่ทราบข่าวประกาศจากสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย  ทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจ

 

โดยเฉพาะในพื้นที่ ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ว่าเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา ที่บ้านโดง ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้พิธีเปิดถนนสวรรค์นิมิต  โดยมี พระสมุห์ชิง ฐานวีโร หรือหลวงพ่อดิง เจ้าอาวาสวัดหนองป่ามหาไทย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  มีบุคคลซึ่งอ้างว่าที่อ้างตัวว่าเป็น  พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี พระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ  แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เสด็จเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการเปิดถนนนี้อย่างเป็นทางการ โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รปภ.เข้ม ท่ามกลางความดีใจของชาวบ้านนับพันคน

 

ล่าสุดวันนี้ (1 มิ.ย.61)ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รุดลงพื้นที่  บ้านเลขที่ 113 บ้านหนองหลวง ม.4 ต.อาโพน จ.สุรินทร์ เพื่อสอบถาม ข้อเท็จจริง กับ นายสงวน คงเงิน อายุ 69 ปี หรือหลวงตาไบ๋  เจ้าสำนักมหาปราสาทพุทธเทวสมุทรสาคร  / ปราชญ์ 2 แผ่นดิน  เปิดเผยว่า จริงๆแล้วอยากให้ผู้เสพข่าวทั้งหลาย  อย่าเพิ่งไปโทษนักข่าว อย่าเพิ่งไปว่า คนที่เขากำลังเจาะหาความจริง อาชีพนักข่าวนั้นถ้าเราไม่มีนักข่าว พวกเราก็จะไม่รู้อะไรเลย  ไม่ว่าจะเป็นการเมืองภายในประเทศ  หรือข่าวความมั่นคง บางครั้งนักข่าวเอง ก็ต้องทำข่าวและนำเสนอข่าวตามประเด็น  เพราะว่าหากไม่มีประเด็น นักข่าวก็ไม่สามารถไปเจาะหาข่าวได้  เพราะฉะนั้น วันนี้พวกเราต้องเข้าใจ ที่สื่อมวลชน มาพบตน ก็เพื่อที่จะรู้ความจริง  อย่างหลวงตาไบ๋ จไปพูดว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับทั้งหมด ก็พอรู้บ้าง  โดยเฉพาะราชวงศ์ของ ประเทศกัมพูชา มีเพียง 2 ราชวงศ์ นโรดม กับ สีสุวัตถิ์  วันนี้ตนจึงฝากผ่านสื่อ ไปถึงสื่อมวลชนทั้งหลาย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่มีรูปภาพตนเองออกไปเผยแพร่ ตนยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนร่วมเอา เจ้าเก๊ หรือ เจ้าปลอมมาหรอก ในขณะเดี๋ยวกันสื่อก็ได้ล่าความจริง  ได้อย่างชัดเจนแล้ว เพราะว่า  2 ราชวงศ์ ทั้ง 2 พระองค์ได้เข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณ 4-5 ปี แล้ว มาในงานพระพุทธศาสนา หรืองานอื่นๆ  ส่วนมากตนก็ไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องอะไร  ส่วนมากมาในงานพระ แต่ตนเป็นอีกแบบหนึ่ง  เพราะฉะนั้นจึงขอฝากพี่น้องประชาชน ผู้เสพข่าว อย่าไปโทษนักข่าว อย่าไปว่าเขา ถ้าไม่มีนักข่าวเราไม่มีอะไรวันนี้  ซึ่งการเข้ามาของ 2เจ้าหญิง น้า หลาน ก็ไม่เคยสร้างความเสียหายอะไร วันนี้เองตนได้รับแจ้งจากคุณฟ้า เลขาส่วนพระองค์ฯ ว่า พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี พระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ  แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา กำลังร่วมพิธีบวชชี นานาชาติ ที่วัดป่านางเลิ้น อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา  ส่วนเจ้าหญิงอีกพระองค์หนึ่งก็คือ  เจ้าหญิงสีสุวัตถิ์  กุสุมะ นารีรัตนา เมื่อพระมารดาท่านสิ้น อาจารย์ไบ๋ก็ได้ไปร่วม พิธีงานพระศพ ที่ จ.เสียมเรียม ประเทศกัมพูชา มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมเรียม มาอ่านชีวประวัติให้ฟัง แต่ประวัติศาสตร์ลึกๆปกว่านั้น เราไม่สามารถไปล่วงรู้ลึกไปได้ในบ้านเมืองเขา  เพราะบ้านเขาไม่เหมือนบ้านเรา  ตนเห็นพาสสปอต ชัดเจน ยืนยัน ว่าเป็นราชวงศ์  โดยนิสัยคนไทยอย่าว่า แต่ราชวงศ์ หรือราชนิกูล  แม้แต่ว่า บุคคลธรรมดา เราก็เชิดชู  ภาษาวัยรุ่น เขาเรียกว่า อวย  เพราะฉะนั้น ทุกๆอย่างน่าจะกระจ่าง  ตนได้บอกไปยัง ราชวงศ์ทั้งสองท่านแล้ว ว่าไม่ต้องไปร้อง ไม่ต้องไปแจ้งความ หรือไปเอาผิด เพราะเป็นการเข้าใจผิด  ทุกคนก็มุ่งมั่นทำความดีกันต่อไป  สยามเมืองยิ้ม เขยฝั่งเต็มบ้านเต็มเมือง ก็ไม่เคยแสดงกิริยาที่ไม่ดี  เพราะฉะนั้น ต้องให้เข้าใจ สื่อภูมิภาคประจำ จ.สุรินทร์ คนนี้ โจ้ หรือ นายธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว อย่าไปว่า สื่องี่เง้า สื่อไม่รู้เรื่อง  ตีข่าวไปโครมๆ ถ้าไม่ตี  มันก็ไม่ชัดเจน ไม่รู้ความจริง

 

คือ ความจริง หลวงอาจารย์ไบ๋ ไม่ได้รู้จักราชวงศ์เขมรอะไรมากมาย  แต่ประเด็นมันอยู่ที่ สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย  ออกประกาศแจ้งเตือนว่า มีกลุ่มบุคคลมาแอบอ้าง เป็นพระราชมารดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้า สีหนุ  คนละชื่อ ต่างกันนิดเดียว การออกเสียงมันคล้ายกัน บังเอิญพอสถานทูตแจ้งเตือนปั๊บเนี้ย มันก็มีบุคคลที่เกี่ยวข้องมา 2 คน ที่มาเมืองไทย ที่ตนทราบเขาเข้ามาทำบุญในพระพุทธศาสนาเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว ชาวกัมพูชาจะเรียก  เจ้าหญิง เจ้าหญิงสีสุวัตถิ์  กุสุมะ นารีรัตนา เป็นลูกสาวของ เจ้านโรดม รังสีจันทร์ศรีดารา เพิ่งสิ้นพระชนม์ เมื่อเร็วๆนี้ที่ รพ.สุรินทร์รวมแพทย์ จ.สุรินทร์  ซึ่งตนก็ร่วมงานพระศพ ที่ จ.เสียมเรียม ประเทศกัมพูชา มีการอ่านชีวประวัติ ชัดเจน

 

แต่ที่ตนเชื่อว่าเขาเป็นราชวงศ์  เพราะในประเทศกัมพูชา มี 2 ราชวงศ์ คือ ราชวงศ์ สีสุวัตถิ์ และราชวงศ์นโรดม พระมารดาของกษัตริย์สีหนุคือ พระสีสุวัต กุสุมะนุนีรัตนา เริ่มต้นจากตรงนี้ เราไม่ได้โทษสื่อไทย เพราะว่า มีคนแอบอ้าง สื่อไทยก็ต้องค้นคว้า หาข้อเท็จจริง ก็เอารูปทั้งหลายเหล่านี้ ไปแปะในหนังสือประกาศแจ้งเตือนของสถานทูตกัมพูชา แต่ในหนังสือสถานทูตกัมพูชาไม่มีรูปอะไรเลย มีแค่แจ้งเตือน  ตนไม่รู้เลยว่ามันเป็นการเมืองหรือไม่ เพราะตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมืองของประเทศกัมพูชาเลย  และราชวงศ์เหล่านี้ หลงเหลือจากสงครามล้างเผาพันธุ์  แต่ก็ไม่ใช่เหลือน้อย ต่างพากันหลบหนี และลี้ภัยพากันไปอยู่ต่างประเทศ เพื่อความปลอดภัย  แต่ในเชื้อสายราชวงศ์ก็ยังคงมีทำเนียบอยู่  ก้เหมือนเมืองไทยบ้านเรา

 

แต่กลุ่มราชวงศ์เหล่านี้ ที่มาปรากฏในประเทศไทย เพราะพระในพระพุทธศาสนา มาเชิญเพื่อเอาหน้า คนที่ติดตามก็น่าจะบอก จนกลายมาเป็นประเด็น เพราะฉะนั้นคนที่เชิญเขามา ควรรู้ประวัติเขาให้ดีพอแค่ไหน ไม่ใช่ว่าเชิญมาเพื่อความโก้ของตัวเอง  ก็ต่างพากันลงฆาณา ขึ้นป้าย ว่าสามารถเชิญ ลูกสาว ของ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เสด็จมาเปิดงานได้ ซึ่งพระองค์เป็นโสด และไม่มีลูก

 

กรณี เจ้าอาวาสวัดดัง เชิญ พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี พระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ  แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เสด็จมาเป็นประธานฝ่ายฆาราวาส ในพิธีเปิดถนนสวรรค์นิมิต  แล้วมาปัดว่าไม่รู้เรื่อง อ้างเป็นพระป่า พระดง ไม่รู้เรื่องเจ้าหญิงเขมร เห็นแต่งตัวสวยงามเลยเชิญมาเป็นปะธาน ทั้งๆที่มีหนังสือเชิญหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และมีการขึ้นป้ายคัตเอาท์ขนาดใหญ่มาเป็นเดือนๆ ซึ่งในภาพข่าวที่ปรากฏผ่านสื่อ ทุกแขนง มีตนอยู่ด้วย นั่งอยู่กับเจ้าหญิงเขมร เพราะรู้จักและสนิทสนมกัน  ตนทำบุญ 2 แผ่นดินไทยกัมพูชา สององค์หญิงมีศักดิ์ เป็น อา หลาน กัน ส่วนคุณฟ้าเป็นคนไทย เป็นลูกบุญธรรม และเป็นเลขาส่วนพระองค์ฯของ  พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี

สรุปความเชื่อมโยง ราชวงศ์กัมพูชา ให้สื่อในประเทศไทย และสื่อต่างประเทศ ที่ยังไม่เข้าใจ ยืนยัน ตามหลักสากล คือการถือพาสปอต มีคำนำหน้านาม ว่า สีสุวัตถิ์ ซึ่งประชาชนชาวกัมพูชาธรรมดาไม่สามารถเอามาใช้เล่นได้ เพราะมีการรับรองประวัติศาสตร์จากสถานทูตฝรั่งเศส แต่ไม่ทราบว่าเป็น ราชนิกูลในระดับไหน ตนก็เชื้อได้ว่า เขาเป็นราชวงศ์ และที่เขาเข้ามาเมืองไทย เพราะคนไทยเชิญ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 แต่ตนก็เพิ่งเจอกันเมืองปีที่แล้ว และได้ไป มาหาสู่กันโดยตลอด กลุ่มเหล่าคนไทยเชิญมาทำบุญ ส่วนมารยาทของคนไทย จะอวยมาก อวยน้อย เราไม่รู้ รับรอง ยกย่อง เชิดชุ ตามประเพรีของคนไทยเป็นแบบนี้ ยิ่งรู้ว่าเชื้อเจ้าด้วยก็ยิ่ง เชิดชู อย่าว่าแต่กัมพูชาเลยหม่อนเจ้าเมืองไทยก็ต้องเชิดชู  นายก อบต.ไปเปิดงานก็ต้องเชิดชู นี้คือนิสัยคนไทย

ภาพ สุทธิศักดิ์ สอนกล้า ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์

ข่าว ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์