- 16 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ที่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 2 บ้านม่วงคำ ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นางวันเพ็ญ เต็มรัตน์ นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยนางคำสอน สระทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) นางณฐอร การถัก ปลัดเทศบาลต.โพน นางกัลยา จรเอียด เกษตรอ.สหัสขันธ์ นายวิทวัส โสภารักษ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวฯอ.สหัสขันธ์ และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับนายสุเทพ ขวัญเผือก ผู้อำนวยการอนุรักษ์และตรวจสอบมาตรฐานหม่อนไหม และคณะกรรมการการคัดเลือกทายาทหม่อนไหมระดับประเทศ ประจำปี 2561 เพื่อดำเนินการคัดสรรและเลือกบุคคลที่เหมาะสมเป็นทายาทหม่อนไหมในชุมชน
นางวันเพ็ญ เต็มรัตน์ นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่อ.สหัสขันธ์หลายชุมชนได้มีการทอผ้าไหมแพรวา ทั้งการสืบสานงานหัตถศิลป์มาจากบรรพบุรุษ และการส่งเสริมการทอผ้าไหมแพรวาจากส่วนราชการ ในส่วนของการสืบสานวัฒนธรรมการทอผ้าไหมแพรวาในพื้นที่ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ทราบว่าเป็นชุมชนดั้งเดิมที่ทอผ้าไหมแพรวามาช้านาน ด้วยเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับบ้านโพน อ.คำม่วง และมีการทอผ้าไหมแพรวากันทุกครัวเรือน จนถึงปัจจุบันมีครัวเรือนที่ทอผ้าไหมแพรวาเฉพาะที่บ้านม่วงคำ มีกว่า 30 ครัวเรือน เป็นการรวมกลุ่มกันของคนในชุมชน โดยมีคนรุ่นใหม่อย่างนายวิทวัส โสภารักษ์ หรือน้องเดี่ยว เป็นฟันเฟือนสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมด้านการทอผ้าไหมเอกลักษณ์ลายโบราณ และนำการตลาดสู่ระดับสากลที่ทำให้หมู่บ้านนี้นอกจากรายได้จากอาชีพเกษตรกรรมแล้วยังมีรายได้หลักจากการจำหน่ายผ้าไหมแพรวาสะพัดหลายล้านบาทต่อปี
“ทั้งนี้ในด้านการสร้างความเข้มแข็งแบบยั่งยืน ทางอำเภอสหัสขันธ์ ได้วางแผนที่จะส่งเสริมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยร่วมบูรณาการกับทุกภาคส่วนเป็นพี่เลี้ยงในการสร้างชุมชนให้เป็นต้นแบบการเรียนรู้การทอผ้าไหมแพรวา โดยที่ผ่านมาผลงานของน้องเดี่ยว หรือนายวิทวัส โสภารักษ์ ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนสหัสขันธ์มามากมายทั้งกรประกวดระดับจังหวัด และระดับประเทศ โดยเฉพาะรางวัลชนะเลิศผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ประจำปี 2561 ที่ได้มาถึง 3 รางวัล ประกอบด้วย ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานสีทอง ประเภทผ้าไหมแพรวา(สีธรรมชาติ) ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานสีน้ำเงิน ประเภทผ้าแพรวา (สีเคมี) และผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานสีน้ำเงิน (สีธรรมชาติ) ประเภทผ้าไหมแพรวา ซึ่งเป็นการจัดการประกวดโดยกรมหม่อนไหม ขณะที่การประเมินทายาทหม่อนไหมในชุมชนระดับประเทศ ปี 2561 นอกเหนือจากจะเป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอสหัสขันธ์ และจ.กาฬสินธุ์ แล้ว ยังเป็นต้นแบบของการเรียนรู้ของชุมชนในการขับเคลื่อนภูมิปัญญาโดยคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ในชุมชนด้วย”
นายวิทวัส โสภารักษ์ หรือน้องเดี่ยว กล่าวว่า เริ่มทอผ้าไหมไหมแพรวามาตั้งอายุ 9 ขวบ ครูคนแรกคือแม่ ที่สอนการทอผ้าไหมแพรวา ในภาพจำสมัยเด็ก เราเห็นชุมชนทอผ้าที่ใต้ถุนบ้านกันทุกหลังช่วยกันย้อมไหม ช่วยกันทอสอนลูกสอนหลานให้รู้จักการทอผ้าไหมแพรวา แต่จนมาสู่ช่วงหนึ่งตามยุคสมัยพบว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกับเราไม่ได้สนใจการทอผ้าไหมแพรวาเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นงานหัตถศิลป์ที่สืบทอดจากบรรพบุรุษในพื้นถิ่นของตนเอง และกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เรารักผ้าไหมแพรวามากยิ่งขึ้น ซึ่งการเข้าไปศึกษากับชุมชนบ้านโพน เพื่อดูกรรมวิธีการทอ การย้อม และศึกษาช่องทางการตลาดควบคู่กันไป โดยส่วนตัวนั้นจะทอผ้าไหมแพรวาแบบลายโบราณมากกว่าลายสมัยใหม่ ขณะที่การจำหน่ายผ้าไหมแพรวามีลูกค้าประจำที่ติดตามผลงานมาเลือกซื้ออยู่ตลอดขณะที่การออกตลาดขายตามงานเทศกาลต่าง ๆ ยังพบว่าผ้าไหมแพรวาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายอีกทั้งยังสามารถจำหน่ายได้ราคาแม้ว่าบางผืนจะมีราคาถึง 6 หลักก็ยังขายได้
ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.กาฬสินธุ์