ทหาร ฉก.จงอางศึก ร่วมกับ ตชด.146 จับพม่าขนกระท่อมผงบดละเอียดข้ามชายแดน สุดท้ายไปไม่รอด!!!

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 พ.อ.พิเชษฐ์  หัสดีผง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 19 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ เปิดเผยว่า จากนโยบายการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดทุกมิติจากภายนอกเข้ามาในประเทศไทยทุกช่องทางตามแนวชายแดนให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 ภายใต้การบัญชาการของ พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์

 

 

 

จึงสั่งการให้ พ.อ.เฉลิมพล  สังข์ต้อง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก  กองกำลังสุรสีห์ สนธิกำลังพล ร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 146 นำกำลังไปซุ้มริเวณชายป่ายางช่องทางธรรมชาติช่องทางตะพาบ ม.6 ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งพบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน นาว่าร่า ตอนครึ่งสีดำ หมายเลขทะเบียน 2 ฒน 6816 กทม. ขับเข้ามาจอดในพื้นที่ป่ายาง หลังจากนั้นมีกลุ่มพม่าเดินแบกกระสอบปุ๋ยลงมาจากเขาและกำลังทะยอยช่วยกันขนกระสอบปุ๋ยขึ้นรถกระบะ เจ้าหน้าที่ที่กำลังซุ้มอยู่เข้าโอบล้อมและแสดงตัวขอตัวค้น ปรากฎกลุ่มพม่าทิ้งกระสอบปุ๋ยวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ แต่ไม่รอดกำลังที่เจ้าหน้าซุ้มตัวอยู่บริเวณนั้น จึงสามารถจับกุมผู้ต้องหา 4 คนเป็น ชาวเมียนมา 3 คน โดยมี นายทองดี  เวนะ อายุ 27 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 96 ม.6 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นผู้ขับขี่รถกระบะคนดังกล่าว จากนั้นทำการตรวจสอบกระสอบปุ๋ยพบกระท่อมผงบดละเอียด จำนวน 8 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 287 กิโลกรัม ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเกือบ 3 แสนบาท

 

 

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ติดต่อเพื่อนชาวเมียนมาและเข้าไปฝั่งเมียนมาตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.62 เวลาประมาณตี 2 ได้มีกลุ่มชายชาวเมียนมาแบกกระท่อมผงลงมาให้เพื่อนำไปส่งให้กับ นายทองมี  เวนะ นำเข้าไปจำหน่ายในพื้นที่ อ.ปราณบุรี โดยกลุ่มชาวเมียนมาได้รับค่าจ้างกิโลกรัมละ 100 บาท เพื่อจะนำมาผสมน้ำดื่มกินและจำหน่ายให้กับชาวเมียนมาที่ใช้แรงงานอยู่ในฝั่งไทยในพื้นที่ราคาขีดละ 100 บาท กิโลกรัมละ 1,000 บาท โดยเฉพาะตามโรงงาน และสวนยางพารานำไปผสมน้ำดื่ม หรือทานแบบผงและนำไปดัดแปลงผสมเป็นสูตรต่างๆ เพื่อใช้ดื่มขณะทำงานเพื่อกระตุ้นการตื่นตัว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดโทษประเภท 5 (กระท่อมผงบดละเอียด) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และ เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวผู้ต้องและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง    
- คนละเรื่องเดียวกัน!! รมว.พาณิชย์ยันญี่ปุ่นไม่ได้ยื่นจดสิทธิบัตรใบกระท่อมในไทย ฟังแล้วมึนตึ๊บ แจงแบบนี้เพื่อ...???

- คราวนี้มีเฮ!!เตรียมแก้กฎหมาย เคี้ยวใบกระท่อม ไม่ถือเป็นยาเสพติด ปรับแก้เรื่องกัญชาด้วย (รายละเอียด)

วุฒิเดช ก้อนทองคำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.กาญจนบุรี