- 14 มี.ค. 2562
พลังท้องถิ่นไทรุกหาเสียงเปิดปราศรัยชูปากท้องหวังชิงเก้าอี้ โดยมีเพื่อนสจ.ในพื้นที่ร่วมให้กำลังใจและช่วยปราศรัยหาเสียงแน่น มั่นใจเราจะเป็นรัฐบาลเอง เราเชื่อได้ว่าเรามีส.ส.ไม่ต่ำกว่า 25 คน อย่างแน่นอนและสามารถเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ขณะที่รองหัวหน้าพรรคเผยมีบางพรรคขนคนจ่ายค่าหัวฟังปราศรัยหวังเรตติ้งเบิกเงินพรรค
วันที่ 12 มีนาคม 2562 นายโชคดี คีรีกิ้น ผู้สมัครส.ส.ตรังเขต 2 เบอร์ 4 พรรคพลังท้องถิ่นไท นั่งรถซาเล้งคู่ใจ พร้อมลูกทีม ลุยหาเสียงลงพื้นที่ที่ ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง โดยลงเคาะประตูชาวบ้านด้วยการเดินเท้าเข้าซอยเล็กซอยใหญ่ตามหมู่บ้าน ท่ามกลางอากาศร้อนจัด แจกบัตรเล็กแนะนำตัวพร้อมชูโนบายพรรค ตลอดระยะพื้นที่ที่ลงหาเสียงชาวบ้านต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
หลังจากนั้นเวลา 18.00 น.ได้มีการเปิดเวทีปราศรัยที่ตลาดสดท่างิ้ว ม.4 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นำโดยนายเสน่ห์ ทองศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท และผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 9 ดูแลพื้นที่ภาคใต้ พร้อมผู้สมัครส.ส.ตรัง และเพื่อนทีมงานสจ.ในพื้นที่หลายคนร่วมให้กำลังใจและขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยในครั้งนี้ร่วม 400 คน
ด้านนายเสน่ห์ ทองศักดิ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ถือว่าประสบความสำเร็จโดยเฉพาะพี่น้องชาวรากหญ้าในเขต 2 ก็ดีในเขต 1 ก็ดีมีความไว้วางใจกับพรรคพลังท้องถิ่นไทและการตอบรับเป็นอย่างดีคนตรังเขายังอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะคนท้องถิ่นเห็นได้ว่านโยบายของเราสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศได้ในอนาคตและสามารถตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในอนาคตได้ ซึ่งมา ณ วันนี้ ตนเองสามารถคว้าชัยได้ทั้ง 3 เขตเพราะโดยตัวผู้สมัครเองถือว่าเป็นคนมีคุณภาพทั้ง 3 เขต ไม่ว่าจะเป็น เขต 1 นายชาลี กางอิ่ม ก็เคยมีผลงานในเขตเทศบาลนครตรังมายาวนานร่วมกับพี่น้องชาวท้องถิ่น อ.นาโยง ส่วนเขต 2 นายโชคดี คีรีกิ้น ถือว่าเป็นบุคคลตัวอย่างของนักการเมืองท้องถิ่นที่อยู่กับพี่น้องมายาวนานตลอดใน 4-5 สมัยที่ผ่านมา และเขต 3 นายพิชัย แซ่เตียว ก็ถือว่าเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเป็นสจ.มาหลายสมัย เราเชื่อได้ว่าในจังหวัดตรังก็สามารถคว้าชัยได้ทั้ง 3 เขต
ทั้งนี้ในเรื่องจะเข้าได้กี่ที่นั่งนั้นตนเองไม่สามารถคาดการณ์ได้เพราะเราไม่ดูถูกพี่น้องประชาชน เพราะคาดการณ์เราถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน เราเชื่อว่าเราส่งผู้สมัครทั้ง 50 เขต เราสามารถคว้าชัยทั้ง 50 เขต นี่คือความตั้งใจของพรรค
ผู้สื่อข่าวถามในเรื่องที่มีปัญหาในพื้นที่หรือมีการขนคนไปฟังการปราศรัยนั้น ก็มีข่าวว่ามีบางพรรค ทุกเรื่องก็มีข่าวออกมาซึ่งตนเองก็ไม่ได้สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นพรรคไหน มีการขนคน ก็ถือว่าเป็นการดูถูกพี่น้องประชาชน เพราะว่าพรรคเราเราทำมาจากทุกเครือข่ายของพี่น้องประชาชน วันนี้เราปราศรัยเราก็ไม่ได้ใช้เงิน แม้กระทั่งเครื่องเสียงพี่น้องประชาชนก็ช่วยกันออกมา นี่ก็คือสิ่งที่เราลงพื้นที่แล้วตัวแทนท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดตรังก็ดีในเขตพื้นที่ก็ดีให้ความร่วมไม้ร่วมมือกับพวกเราเป็นอย่างดีนี่คือขวัญกำลังใจของพวกเรา
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามต่อไปว่าการขนคนเป็นแบบไหนและมีการจ่ายเงินอย่างไรนั้น นายเสน่ห์ กล่าวว่า ก็มีการจ่ายหัวละ 500 บ้าง 300 บ้าง บางพรรคก็เพื่อทำให้มีเรตติ้งเพื่อจะไปตั้งเบิกกับพรรคก็น่าจะมีตนเองก็ไม่สามารถตอบได้ว่าพรรคไหน และจะส่งผลเสียหรือไม่นั้น การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยผมว่าการใช้เงินจังหวัดตรังก็ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีท่านชวน หลีกภัย ที่ท่านเป็นคนที่สุจริตชนอยู่แล้ว ท่านเป็นตัวอย่างแบบทุกอย่างที่ดีให้เรา เราก็บอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตยแล้วก็อย่าให้พรรคการเมืองบางพรรคมาใช้เงินในการเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติในอนาคตต่อไป
ส่วนกรณีที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชานั้น ตนเองคิดว่า วันนี้ผมไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะบางพรรคเขาเป็นนโยบายมันเป็นกลยุทธ์ของแต่ละพรรคในเรื่องของการจับขั้วทางการเมือง เราในนามพรรคพลังท้องถิ่นไทเรามั่นใจเราจะเป็นรัฐบาลเอง เราเชื่อได้ว่าเรามีส.ส.ไม่ต่ำกว่า 25 คน อย่างแน่นอนและสามารถเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีได้ และอีกอย่างหนึ่งการเมืองก็คือการเมือง ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าขั้วไหนจะจับขั้วไหน แต่วันนี้ที่มองอยู่แล้วคือวาทะทางการเมืองของทุกพรรคออกมา แต่พรรคพลังท้องถิ่นไทเราไม่ใช้วาทะเราใช้ขวัญกำลังใจจากพี่น้องประชาชน เราอยู่กับประชาชน เราขอกำลังใจจากพี่น้องประชาชนอย่างเดียว
และตอนนี้คะแนนนิยมของพรรคเราก็ดีขึ้นมาก เพราะว่าการที่ลงพื้นที่พรรคเราไม่ได้ต่อว่าใคร ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ฝักใฝ่แต่พี่น้องประชาชนอย่างเดียว และเราตั้งใจจะเป็นรัฐบาลเราต้องเป็นรัฐบาล เราไม่ฝ่ายค้าน และเราไม่ค้าน ผมจะนำความเจริญมาสู่จังหวัดตรัง ผมไม่เป็นฝ่ายค้านแน่นอน
ส่วนกรณีที่พรรคไทยรักษาชาติโดนยุบไปนั้น ตนเองต้องขอแสดงความเสียใจกับพรรคไทยรักษาชาติด้วย ซึ่งตัวผู้สมัครทุกท่านก็เป็นคนที่สนิทสนมกันดี และอีกอย่างหนึ่งเราก็ถือว่าเป็นครรลองของระบอบประชาธิปไตย ตามศาลรัฐธรรมนูญที่ได้ตัดสินออกมา เราก็ขอน้อมรับและแสดงความเสียใจ อีกอย่างหนึ่งก็พรรคไทยรักษาชาติก็ถือว่าเป็นพรรคพวกด้วยกันเป็นลูกหลานผู้สมัครซึ่งแต่ละคนก็สนิทสนมกันดี เขาจะเทคะแนนไปให้ใคร เราไม่ทราบแต่เราเชื่อได้ว่าเราไม่ขอ เราเดินตามครรลองของพรรคพลังท้องถิ่นไทเพราะพรรคมีจุดยืนที่จะมาพัฒนาท้องถิ่น
ภาพ/ข่าว สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ตรัง



