- 27 มี.ค. 2562
ปิดคดีมหากาพย์ 26 ปี ตลาดสุรนครเมืองใหม่ โคราช ศาลสั่งให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้ หจก.อุ้มบุญธุรกิจ 500 ล้านบาท
นาย สุนทร สุวรรณชาติ บุตรบุญธรรม ผู้บริหาร หจก.อุ้มบุญธุรกิจ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2562 เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ที่ห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดนครราชสีมา ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ พ. 2854/2537 คดีหมายเลขแดงที่ 418/2540 ระหว่าง หจก.อุ้มบุญธุรกิจ โดยเจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้ชำระบัญชีโจทก์ กับ บริษัทสุรนครเมืองใหม่ จำกัด จำเลย โดยศาลมีคำพิพากษา ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน จำนวนดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 22 พ.ย.2537) เป็นต้น ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โจทก์กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอีกเดือนละ 900,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลย จะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท และให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 68654, 68655, 68656, 3911 ตำบลในเมือง (หมื่นไวย) อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และโฉนดเลขที่ 17512 ตำบลจอหอ (หมื่นไวย) อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 100,000.-บาท ซึ่งยอดหนี้ตามคำพิพากษา นับถึงวันอ่านคำพิพากษา ยอดรวมประมาณมีจำนวนมากกว่า 500 ล้านบาท
คดีนี้สืบเนื่องจากบริษัทจำเลยเช่าที่ดินจากโจทก์เพื่อประกอบธุรกิจตลาด แต่ต่อมาจำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่ามาตั้งแต่ปี พ.ศ.....จนถึงปัจจุบัน โดยฝ่ายจำเลยเข้าไปดำเนินกิจการในที่ดินมาตลอด แต่ไม่ชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์ตามสัญญา ต่อมา โจทก์นำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 โดยศาลให้โอกาสทั้งโจทก์และจำเลยต่อสู้คดีกันอย่างเต็มที่ ตามกระบวนวิธีพิจารณาคดีที่กฎหมายบัญญัติไว้ จนกระทั่งวันนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีที่กฎหมายบัญญัติไว้ จนกระทั่งวันนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี
นาย สุนทร ยังกล่าวอีกว่า ตนเอง มีความปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ได้รับความทุกข์ร้อนทางด้านคดีความภายใต้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ถูกต้องเป็นธรรม นอกจากคดีนี้แล้ว โจทก์ยังได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาเพื่อให้ดำเนินคดีแก่ผู้ที่บุกรุก หรือกระทำความผิดต่อกฎหมายอันเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ บางคดีศาลพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดแล้ว และยังมีคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ได้รับความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการปฏิบัติหน้าที่ หลายเรื่องหลายหน่วยงาน และเป็นเหตุให้ฝ่ายโจทก์ หรือผู้เสียหาย ต้องรวบรวมสติและสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บางเรื่องฝ่ายผู้เสียหายต้องต่อสู้กับอำนาจมืด รวมทั้งอำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจากเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายจะรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ทำความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จนกว่าคดีจะถึงที่สุด นายสุนทร กล่าว ฯ
ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ คาบพิมาย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครราชสีมา




