สนง.โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด เชิญชาวชุมชนหมู่บ้านเพิ่มทรัพย์หารือข้อยุติ ไซน์งานทำให้ฝาผนังบ้านร้าว(คลิป)

กรณีที่ชาวชุมชนหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์ ทั้ง 19 ครัวเรือนรวมตัวโวย ผู้รับเหมากรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทยโดยทางผู้รับเหมาได้ก่อสร้างท่อระบายน้ำขนาดใหญ่และได้ใช้รถเครนยกท่อเสียงดังอยู่ทุกวัน จนทำให้ฝาผนังบ้านและห้องนอนร้าว พร้อมกับห้องครัวและกำแพงหลังบ้านก็ร้าว ได้สอบถามไปยังที่เทศบาลเมืองสุรินทร์ ว่าในการที่มาตั้งก่อสร้างท่อระบายน้ำนั้นได้ประชาคมหรือไม่ ทางเทศบาลแจ้งว่าได้ประชาคมไปแล้วแต่ทำไมทางหมู่บ้านไม่รู้เรื่องเลย ทางชาวชุมชนหมู่บ้านจึงได้รวมตัวกันแจ้งสื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงอีกทางเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562

ล่าสุดวันนี้(31 มี.ค.) สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.สุรินทร์ นำโดยนายประหยัด ตะคอนรัมย์ วิศวกรชำนาญการพิเศษ รักษาการแทนโยธาธิการและผังเมือง จ.สุรินทร์ ได้เชิญชาวบ้านหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์ พร้อมหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องและผู้จัดการโครงการเข้าร่วมประชุมหารือข้อยุติแก้ไขปัญหา ในกรณีก่อสร้างท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ และส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์ ทั้ง 19 ครัวเรือน ทั้งสองฝั่งข้างทาง ทั้งรถบรรทุกสิบล้อเข้า-ออกหมู่บ้านทั้งฝุ่น พร้อมกับรถเครนที่ยกท่อนั้น ยกทุกวันแม้กระทั่งกลางคืน เสียงดังและสะเทือน จึงทำให้ฝาผนังบ้าน ห้องนอน ห้องครัว และกำแพงหลังบ้าน แตกร้าว ซึ่งมีชาวบ้านของหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์ ที่ได้รับผลกระทบจำนวน 10 กว่าหลังคาเรือน

 

 

ในที่ประชุมหารือข้อยุติหาทางแก้ไขปัญหา ซึ่งในที่ประชุมนั้น ได้มีการพูดถีงความเสียหายของบ้านแต่ละหลังของหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์ พร้อมกับมีข้อเสนอมาตรการป้องกันและแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและเสียงรบกวนจากพื้นที่เตรียมก่อสร้าง โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสุรินทร์ ระยะที่ 1 จำนวน 12 คือ 1. ให้เว้นระยะห่างจากแนวรั้วบ้านประชาชน 15.00 เมตร(Buffer Zone) และจัดทำแนวรั้วสังกะสีทึบ ความสูงไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร ตลอดแนว โดยในพื้นที่ที่เว้นระยะห่างนั้น ห้ามไม่ให้มีการดำเนินการใด ๆ, 2. ให้กั้นแนวตาข่ายกันฝุ่น(สแลน) ความสูง 4.00 เมตร จากรั้วของบ้านเรือนประชาชนตลอดแนว, 3. ให้ดำเนินการย้ายบ่อพักที่กองเก็บไว้บริเวณริมรั้วบ้านประชาชน โดยให้จัดหาที่เก็บบ่อพักดังกล่าวในพื้นที่ใหม่ ให้อยู่ห่างจากแนวรั้วมากที่สุด, 4. ให้ทำการซ่อมแซมถนน คสล.ทางเข้าหมู่บ้านที่แตกร้าวโดยทันที, 5. สำหรับทางเข้าออกในปัจจุบัน(ซอยเข้าหมู่บ้าน)ห้ามไม่ให้รถบรรทุก เครื่องจักร และรถโม่คอนกรีต เข้าออกอย่างเด็ดขาด และให้เข้าออกพื้นที่เตรียมการทางที่ติดกับถนนทางหลวงสุรินทร์ 3038 แทน, 6. ให้ดำเนินการล้อมรั้วสังกะสีบริเวณพื้นที่ด้านที่ติดกับซอยทางเข้าหมู่บ้าน โดยสามารถทำทางเข้าออก(ต้องมีประตูปิด-เปิด)สำหรับรถยนต์ทั่วไป, 7. ให้ทำการปรับเส้นทางสัญจรในพื้นที่เตรียมการให้เป็นเส้นทางเดียว, 8. ให้ทำการจัดพื้นที่สำหรับการผูกเหล็ก เข้าแบบ เทคอนกรีต ให้เป็นพื้นที่เดียว โดยให้พื้นที่นั้นชิดริมรั้วทางสนามฟุตซอล และให้ทำการล้อมแนวตาข่ายกั้นฝุ่น(สแลน)โดยรอบพื้นที่เทคอนกรีตนั้นด้วย, 9. ห้ามให้คนงานทำงานเกินเวลา 17.00 น.โดยเด็ดขาด, 10. ให้จัดทำที่ล้างล้อบริเวณทางเข้าออก(ถนนทางหลวงชนบทสุรินทร์ 3038) และให้การฉีดน้ำพ่นน้ำบริเวณล้อรถทุกครั้ง, 11. ให้ทำการประสานงานกับบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ผนังบ้าน ผนังรั้ว แตกร้าวเสียหาย และให้ดำเนินการซ่อมแซมทันที, และ 12. ให้ทำการฉีดพ่นน้ำบริเวณทางสัญจรที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง อย่างน้อยวันละ 2 เวลา(เช้า-เย็น)

จากมาตรการป้องกันและแนวทางแก้ไขปัญหา จำนวน 12 ข้อ นั้น ทางชาวบ้านหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์ นั้นโดยนายวัชระศักดิ์ สุรสังข์ ตัวแทนชาวบ้าน ได้กล่าวถึงปัญหาต่างที่และก็เกิดปัญหาทุกหลังคาเรือน และได้เสนออีกข้อเป็นข้อ 13. ขอให้ทางโครงการย้ายหาที่ใหม่ทันที ซึ่งทางผู้จัดการโครงการรับปากพร้อมกับได้บอกกับชาวบ้านว่า จะดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ พร้อมกันนี้ขอให้ชาวบ้านของหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์ให้เวลากับโครงการประมาณ 15 วัน จะทำการย้ายหาที่ใหม่เพื่อดำเนินการโครงต่อไปได้อีก ซึ่งทำให้ชาวบ้านของหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์ก็พอใจจึงได้แยกย้ายกันกลับต่อไป

 

 

นายประหยัด ตะคอนรัมย์ วิศวกรชำนาญการพิเศษ รักษาการแทนโยธาธิการและผังเมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญชาวบ้านของหมู่บ้านบุญเพิ่มทรัพย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาประชุมหาข้อยุติและช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งบรรยากาศภายในห้องประชุมเหตุการณ์ปกติมีการเสนอแนะนำและวิธีการแก้ไข ทางสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง มีอยู่แล้วจำนวน 12 ข้อ ชาวบ้านเพิ่มอีกข้อคือขอให้ทางโครงการนั้นย้ายออกหาที่ใหม่ในการผลิต ซึ่งทางผู้จัดการโครงการก็ได้รับปากต่อหน้าตน ว่าขอเวลา 15 วันจะรีบดำเนินการย้ายออกหาที่ใหม่เพื่อไม่ให้งานต้องล่าช้า ส่วนของชาวบ้าน นั้น ก็พอใจในการประชุมหารือในครั้งนี้อีกด้วย

นายวัชระศักดิ์ สุระสังข์ ผู้เดือนร้อนในหมู่บ้าน กล่าวว่า วันนี้ทางตนและเพื่อนบ้านกว่า 10 หลังคาเรือน ได้เข้าร่วมประชุมหารือแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งตนและเพือ่นบ้านที่ได้รับผลกระทบ พอใจอีกระดับหนึ่ง ที่ทางผู้จัดการโครงการรับปากพร้อมกับจะดำเนินการตามที่ประชุมไว้

 

 

ภาพ/ เขมชาติ ชุณหกิจขจร

ข่าว/ รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสุรินทร์