อุตุฯ ชี้ 12- 16 พ.ค. ภาคอีสานจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ (รายละเอียด)

วันที่ 12 พฤษภาคม 2562 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์สภาพอากาศใน 7 วันข้างหน้า โดยคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12 - 16 พ.ค. 62 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) จะมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ส่วนในวันที่ 17 พ.ค. 62 จะมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

 

 

 

 

 

สำหรับสภาพอากาศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ตั้งแต่เวลา 06:00 น.วันนี้ ถึงเวลา 06:00 น.วันพรุ่งนี้ มีดังนี้ 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) จะมีอากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัด มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

 

 

โดยที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมผิวพื้น ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

 

 

 

 

ส่วนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม

 

 

 

 

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยควรอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่าหรับเกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา

เรียบเรียง / ชูชัย ดำรงสันติสุข ศูนย์ข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ